นายกฯ พา ครม. ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ดูจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านเจดีย์สามองค์ ตรวจการค้าชายแดน สั่งเพิ่มกำลัง-เปิด 20 จุดรองรับช่วยเหลือด้านหลักมนุษยธรรมจากสถานการณ์สู้รบเมียนมา ก่อนไปกราบหลวงพ่ออุตตมะ สวมเสื้อชาวมอญประแป้งทานาคารูปหัวใจ ผ่อนคลายชมวิวพระอาทิตย์ตกสะพานมอญยามเย็น
วันที่ 11 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จากกองพลทหารราบที่ 9 ตำบลลาดหญ้า ไปยัง สนามจอด ฮ. ร้อย ตชด.134 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ก่อนที่เวลา 14.55 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อด้วยขบวนรถยนต์มายัง จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ เพื่อตรวจเยี่ยมสถานการณ์การค้าชายแดน ซึ่งปรากฏว่าได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรี
เมื่อนายกรัฐมนตรีถึงได้กราบสักการะพระสยามเทวาธิราช ก่อนมารับฟังการบรรยายสรุปจากนายด่านศุลกากรสังขละบุรี โดยนายกฯ ได้เน้นย้ำว่าให้ประสานงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในทุกๆ ด้าน และขอมอบเป็นนโยบาย และเน้นย้ำว่า เรื่องยาเสพติดต้องเอกซเรย์ให้ดี ห้ามหย่อนยานอย่างเด็ดขาด รวมถึงเรื่องสินค้าเถื่อนห้ามให้มีการเล็ดลอดเข้ามา เช่นยางเถื่อน ก่อนที่นายกรัฐมนตรี เรียกคณะทำงานมาสอบถามเรื่องเครื่องเอกซเรย์ หลังได้รับรายงานจากนายด่านศุลกากรสังขละบุรีว่าจุดดังกล่าวยังไม่มีเครื่องเอกซเรย์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้มีการสั่งการไปแล้ว รวมทั้งได้กำชับให้ไปดูแลในเรื่องดังกล่าว
...
นายกรัฐมนตรึ ยังรับฟังรายงานด้านการท่องเที่ยวจากผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่รายงานว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้ามามากขึ้นในขณะนี้
ก่อนที่จะรับฟังรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ จากตำรวจตระเวนชายแดน ที่มีการชี้จุดเกิดเหตุระเบิดจากสถานการณ์เมียนมา วานนี้ (10 พ.ค.) ซึ่งใกล้กับบริเวณชายแดนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนยืนยันว่าคนไทยไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางมา นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ในเมียนมาตอนนี้ว่า ภายในเขายังมีการสู้รบอย่างต่อเนื่อง เรื่องการปิดพรมแดนก็เป็นเรื่องสำคัญ เมื่อสักครู่ฟังผู้บังคับการภาคที่ดูแลค่ายสุรสีห์ก็บอกว่า เรามีการเสนอปิดกี่จุด กี่ด่าน และมีการป้องกันชายแดนอย่างไรบ้าง ก็แน่นอน พอตรงนี้เข้ามาปัญหามันก็เยอะ ไม่ใช่แค่เรื่องความมั่นคงอย่างเดียว ยังมีเรื่องสินค้าเถื่อนด้วย รวมถึงเรื่องปัญหาเสพติด เราต้องทำหลายอย่างทั้งเรื่องการเพิ่มกำลัง การให้ความช่วยเหลือด้านหลักมนุษยธรรม และมีการเตรียมจุดรองรับคนต่างๆ เกือบ 20 จุด สามารถรองรับประมาณ 500-1,500 คน เราก็เตรียมพร้อม รวมถึงการใช้เทคโนโลยี ทั้งโดรน หรือเครื่องเอกซเรย์ มาตรวจจับสินค้าผิดกฎหมายต่างๆ เรามีการพูดคุยกันและมีการอนุมัติงบประมาณไปดูแลตรงนี้ เพื่อก่อให้เกิดความมั่นคงของประเทศเรา
จากนั้น นายกฯ และคณะเดินทางต่อไปไปยังวัดวังก์วิเวการาม (หลวงพ่ออุตตมะ) เพื่อสักการะหลวงพ่ออุตตมะ จากนั้นได้ถวายเครื่องจตุปัจจัยพร้อมสนทนาธรรมกับพระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม และเจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งได้มอบองค์หลวงพ่ออุตตมะจำลองขนาดหน้าตัก 5 นิ้วพร้อมลูกประคำที่แกะสลักด้วยไม้และมวลสารจากดอกไม้และธูปให้กับนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงการช่วยชาวชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมอญ ในการสอนภาษามอญจากท่านเจ้าอาวาส ซึ่งเจ้าอาวาสได้แจ้งว่าในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนจะมีเยาวชนและเด็กๆ ชาวมอญมาเรียนภาษามอญ ทำให้มีความใกล้ชิดกับวัดและศาสนา และอยากให้นำรูปแบบดังกล่าวไปใช้ในพื้นที่อื่นๆ เนื่องจากการที่เด็กและเยาวชนอยู่ใกล้ชิดกับวัดและศาสนาจะทำให้มีจิตใจอ่อนโยน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ได้มีการสอนวิชาอื่น โดยเฉพาะภาษาอังกฤษเนื่องจากยังขาดคุณครูผู้สอน และในส่วนของงบประมาณทางเทศบาลก็ได้มีการสนับสนุนบ้าง และดีใจที่ทราบจากรัฐมนตรีช่วยคมนาคมว่าจะมีการสร้างถนนเข้ามายังพื้นที่ที่จะทำให้ชาวอำเภอสังขละบุรีมีความเจริญ รวมทั้งเรื่องของการท่องเที่ยวจะได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาได้อย่างสะดวกและมากขึ้น
นายกฯ ยังได้ปรารภกับผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่าอยากให้มีการดำเนินกิจกรรมหรือส่งเสริมการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพราะต้องการให้นักท่องเที่ยวมาอยู่และพักผ่อนยาวนานมากกว่า 2 วัน รวมทั้งให้ดูแลเกี่ยวกับเรื่องของโรงแรมที่พักในพื้นที่เพื่อรองรับด้วย โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุดสำคัญต่างๆ ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา
อย่างไรก็ตามในระหว่างเดินเข้ามาภายในอุโบสถของวัด มีเด็กชาวมอญที่มาต้อนรับ ได้สอนภาษามอญโดยขอให้นายกรัฐมนตรีกล่าวคำว่าสวัสดีเป็นภาษามอญว่า “มะเงยระอาว” ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับยิ้มเขินๆ ก่อนที่จะกล่าวตามด้วยเสียงเบาเบาว่า “มะเงยระอาว”
จากนั้นเวลา 16.25 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังสะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของวันนี้ เพื่อหารือถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว โดยนายกรัฐมนตรีได้สวมเสื้อชาวมอญพร้อมประแป้งทานาคาที่แก้ม เป็นรูปหัวใจและอักษรภาษาอังกฤษคำว่า OK ก่อนที่จะทักทายชาวบ้านและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีและคณะได้ชมการแสดงระบำกะเหรี่ยงกับละครเมียนมา จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินชมทัศนียภาพและความสวยงามที่บริเวณสะพานมอญ โดยนายกรัฐมนตรีได้จูงมือเด็กหญิงชาวมอญ ชมความสวยงามยามเย็นที่สะพานไม้แห่งแรก และจุดไฮไลต์ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่อำเภอสังขละบุรี
สำหรับการลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจที่อำเภอสังขละบุรี นายกรัฐมนตรีได้ใช้รถอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กจ 8888 กาญจนบุรี เป็นพาหนะในการปฏิบัติภารกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่อำเภอสังขละบุรี นายกรัฐมนตรีและคณะ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อกลับมาพักค้างคืนที่เมืองกาญจนบุรีเป็นคืนที่สองของทัวร์นกขมิ้น หรือ ทัวร์ 4 จังหวัดบุรี