“เศรษฐา” สักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ มองสุพรรณบุรีบริหารจัดการน้ำดีที่สุด ตั้งแต่ยุคสมัยรัฐบาล “บรรหาร” ชม “ท็อป วราวุธ” เก่งอยู่แล้ว หลังเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรีฝากดูแล 

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 10 พ.ค. 2567 ที่ประตูระบายน้ำลาดน้ำเตียน ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พูดคุยประเด็นปัญหาในพื้นที่ โดยทันทีที่นายกฯ เดินทางมาถึง นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ร้องเพลงผู้ว่าฯ มาหานะเธอ ที่เป็นการนำคำขวัญจังหวัดใส่ในเนื้อร้อง ต้อนรับนายกฯ และคณะ ซึ่งนายกฯ รับฟังอย่างอารมณ์ดี

จากนั้นนายกฯ รับฟังบรรยายสรุปภาพรวมของจังหวัด โดยผู้ว่าฯ รายงานช่วงหนึ่งว่า ปัญหาของ จ.สุพรรณบุรี คือ น้ำแล้ง ที่ฝ่ายการเมืองพยายามแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้ที่นายกฯ มาถึง สถานีสูบน้ำถือเป็นจุดหนึ่งในการแก้ไขปัญหา

ด้านนายกฯ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมา จ.สุพรรณบุรี มาไหว้พระ และมาทานอาหารที่นี่ ได้ทานต้มยำปลาม้า ซึ่งเป็นอาหารที่อร่อยและขนมสาลี่ ซึ่งตนเองเป็นคนชอบกินขนม และได้ทานขนมชั้นร้านแม่บ๊วย ยอมรับว่าเป็นขนมชั้นที่อร่อยที่สุดที่ได้เคยทานมา จึงได้คุยกับผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่าจริงๆ แล้วจ.สุพรรณบุรี เป็นเมืองน่าเที่ยว เราจะพยายามผลักดันให้เป็นเมืองน่าเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมอาหารการกิน เรื่องเชิงศาสนา จึงได้สั่งการไป และหวังว่าชาวไทยทุกคนทั่วโลกจะได้มาเที่ยวที่นี่และได้ลิ้มรสของดีๆ จาก จ.สุพรรณบุรี 

...

นายกฯ กล่าวอีกว่า ที่มาวันนี้ได้ทราบมานานแล้วว่า จ.สุพรรณบุรี มีวิธีการบริหารจัดการน้ำดีที่สุดผ่านด้านกรมชลประทานและหน่วยทหารพัฒนา ในสมัย นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี และวันนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตอนนี้เป็นรัฐมนตรีมาสืบสานเจตนารมณ์คุณพ่อต่อมา และการเป็นรัฐมนตรีก็เป็นที่ประจักษ์ การบริหารจัดการน้ำป็นเรื่องสำคัญ และได้มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน หน่วยงานรัฐ กรมชลประทาน และทหารพัฒนา ได้มีการเพิ่มแหล่งน้ำ สร้างท่อระบายน้ำ บริหารจัดการน้ำเพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งของพี่น้องประชาชน โครงการต่างๆ ที่ได้เสนอมาในรอบนี้ทางรัฐบาลได้อนุมัติไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรมชลประทาน หรือหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อบริหารจัดการเรื่องน้ำให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ถือว่าแม้ปัญหาจะแก้ไม่หมด แต่ก็ถือเป็นจังหวัดต้นแบบที่อดีตนายกฯ ได้ทำไว้อย่างดีมาก ฉะนั้นหน้าที่ตนก็ง่ายขึ้นเยอะ สืบสานเจตนารมณ์และทำตามคำแนะนำของนายวราวุธ ทำงานใกล้ชิดกับทางกรมชลประทานต่อไป เพื่อให้พี่น้องมีน้ำกินน้ำใช้และพื้นที่การเกษตรจะได้เจริญรุ่งเรืองต่อไป

จากนั้นเวลา 14.30 น. นายกฯ เดินทางถึงประตูระบายน้ำจรเข้สามพัน ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง พูดคุยประเด็นปัญหา เมื่อนายกฯ เดินทางถึงได้พบปะประชาชน และร่วมถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะรับฟังบรรยายจาก ผอ.ฝายคลองระบายจรเข้สามพัน ว่า ประตูระบายน้ำจรเข้สามพันเป็นประตูที่ระบายน้ำสู่แม่น้ำท่าจีน เดิมทีจุดนี้มีฝายเก่าที่ชำรุดเสียหาย และสร้างมาตั้งแต่ปี 2537 กรมชลประทาน จึงวางทำประตูใหม่ โดยมีประตูระบายน้ำ 6 เมตร จำนวน 3 ช่อง ระบายน้ำสูงสุด 165 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สำหรับการก่อสร้างแล้วเสร็จ 90% คาดว่าในเดือนหน้าโครงการนี้จะเสร็จสมบูรณ์ 100%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้ให้คำแนะนำหลังเห็นว่าที่ประตูกั้นน้ำมีปลากระโดดขึ้นไปตกค้าง เนื่องจากไม่สามารถทำบันไดปลาโจนได้ เพราะต้องดูระดับน้ำแต่ละช่วง โดยนายกฯ ให้คำแนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้ให้มีการนำแหหรือตาข่ายมากั้น ปลาที่พยายามกระโดดขึ้นไปก็จะไม่ค้างตามคันของประตูระบายน้ำ 

ทั้งนี้ นายสรวงษ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ร่วมคณะลงพื้นที่ด้วย

ต่อมา เวลา 14.50 น. นายกฯ พร้อมคณะ ได้สักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง) ที่วัดเขาทำเทียม ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อมาถึงนายกฯ ได้ทักทายชาวบ้าน ซึ่งเป็นชาวไทยทรงดำ-ลาวเวียง-ลาวครั่ง ที่สวมชุดเรือธรรมพื้นถิ่นมาต้อนรับ

จากนั้นนายกฯ จุดธูปเทียนสักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง) พร้อมกราบนมัสการและสนทนาธรรมกับพระสุพรรณวชิราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเจ้าคณะจังหวัดกล่าวกับนายกฯ ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่นายกฯ มาเหยียบสุพรรณ มาดูน้ำ ถ้ามันแล้งก็ช่วยดูด้วย และขอฝากรัฐมนตรีของอาตมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ด้วย โดยนายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องฝาก เพราะท่านเก่ง ท่านดูแลตัวเองได้ 

โดยเจ้าคณะจังหวัด กล่าวว่า แต่อยู่ที่นายกฯ เขาดูแลตัวเองดี แอ็กทีฟมาก แต่ถ้าเกิดนายกฯ ไม่เอา เขาก็อยู่ไม่ได้ โดยนายกฯ กล่าวว่า “เอาอยู่แล้วครับ ไม่เอาไม่ได้หรอกครับ”

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ก็มาดูการบริหารจัดการน้ำที่นี่ ที่ทางคุณพ่อ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ทำไว้ดี เผื่อจะเอาไปทำที่จังหวัดอื่นได้บ้าง แต่ถึงแม้ว่าจะทำดีแล้ว ก็ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่ดี เราก็ช่วยกับกรมชลประทานและทหารราบ พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง 

เจ้าคณะจังหวัด กล่าวว่า ตอนนั้นท่านบรรหารก็ทำให้กับ จ.สุพรรณบุรี มาก ก็เลยผูกพันลูกชาย เขาก็โอเค เขาก็สืบสานเจตนารมณ์ได้ดี ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมือง นายกฯ ก็สุดยอดอยู่แล้ว อาตมาไม่ต้องพูด แต่ขอฝากเรื่องการกระตุ้นเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมในประเทศ ผ่านระบบการศึกษา หรือการปฏิบัติธรรมของข้าราชการ ถ้าคนมีธรรมะมาก ปัญหาทุกอย่างก็จะน้อยลง ก็ขอฝากไปยังกระทรวงวัฒนธรรมด้วย เอาธรรมะมาช่วยประเทศ นายกฯ จะได้บริหารประเทศได้สบายขึ้น คนมีธรรมะมาก ตัณหาจะน้อย แต่ถ้าคนมีธรรมะน้อย ตัณหาจะมาก โดยหลักก็จะง่ายๆ แค่นี้ โดยนายกฯ กล่าวว่า “รับไปปฏิบัติครับ” จากนั้นนายกฯ และคณะถ่ายรูปด้วยกัน