“หมอชัย” ชี้ รัฐบาลพิสูจน์ให้เห็นแล้ว ข้าวในโครงการจำนำข้าวที่เก็บรักษาอย่างดี ยังมีคุณภาพ ด้าน อคส. เตรียมออกประกาศเปิดประมูล คาด มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 270 ล้าน ส่วนประเด็นความปลอดภัย เป็นหน้าที่ผู้ร่วมประมูลที่ต้องปรับปรุงข้าวก่อนขาย

วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่โกดังเก็บข้าวที่ จ.สุรินทร์ 2 แห่ง เพื่อพิสูจน์คุณภาพของข้าว ต่อมา นายกฤษณรักษ์ ใจดี นักบริหาร 9 รักษาราชการแทนผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ อคส. อยู่ระหว่างการพิจารณาออกหลักเกณฑ์เงื่อนไขการเปิดประมูล (ทีโออาร์) และจะเปิดชี้แจงทีโออาร์ให้ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลรับทราบ

จากนั้นจะเปิดโกดังให้ผู้สนใจตรวจสอบคุณภาพข้าว เปิดให้ยื่นซองคุณสมบัติของผู้ที่จะประมูล ตรวจสอบคุณสมบัติและประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ แล้วจึงจะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคา และเปิดซองราคา พิจารณาและต่อรองราคา และประกาศรายชื่อผู้ชนะประมูลประมาณต้นเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่าราคาขายจะอยู่ที่ 18 บาท/กิโลกรัม มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 270 ล้านบาท หลังจากนั้นจะนำเงินส่งคืนคลัง และปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวได้ทั้งหมด 

สำหรับความปลอดภัยของข้าวก่อนนำประมูล รักษาการ อคส. ระบุว่า เป็นหน้าที่ของผู้เข้าร่วมประมูลที่ต้องปรับปรุงข้าวก่อนขายอยู่แล้ว เช่น การอบข้าว ขัดสี แยกเมล็ดแตกหักออก เป็นต้น แต่ทราบว่าผู้ส่งออกสนใจประมูลเพื่อส่งออก เพราะมีหลายประเทศที่นิยมบริโภคข้าวเก่า ข้าวสีเหลือง ไม่นิยมข้าวเมล็ดสีขาว เช่น ประเทศในแถบแอฟริกา ตะวันออกกลาง ฯลฯ สำหรับข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ที่จะนำมาประมูลครั้งนี้ เป็นข้าวจากโครงการรับจำนำปี 2556/2557 ซึ่ง อคส. เปิดประมูลต่อเนื่อง การประมูลครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2563 ผู้ชนะประมูลไม่มารับมอบข้าว อคส. จึงยึดหลักทรัพย์ค้ำประกัน และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี 

...

โฆษกรัฐบาลระบุในช่วงท้ายว่า “รัฐบาลพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ข้าวในโครงการฯ ที่ได้รับการเก็บรักษาอย่างดี ยังมีคุณภาพ และจะดำเนินการตามกระบวนการ คืนเงินให้แก่เจ้าของโกดัง เพื่อที่จะสะสางแก้ไขปัญหา เร่งขายข้าวเพื่อเป็นประโยชน์แก่รัฐ”