“นายกฯ นิด” ขึ้นเวทีเพื่อไทยพบประชาชน อ้อนคิดถึงรอยยิ้มชาวมหาสารคาม ย้ำ ดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่ไตรมาส 4 ชู แก้ 3 ปัญหา หนี้นอกระบบ-ยาเสพติด-ภัยแล้ง ชี้ เป็นวาระแห่งชาติ ขอมั่นใจรัฐบาลช่วยประชาชนในทุกมิติ

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย (พท.) อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เพื่อพบปะทักทายประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมในเวทีเพื่อไทยพบประชาชน นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อม สส.พรรคเพื่อไทย อาทิ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช สส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย เขต 2 นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด เขต 2 นายภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ เขต 4 และนายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.กาญจนบุรี เขต 1 โดยประชาชนที่มาร่วมงานต่างสวมเสื้อสีแดง

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่ นายเศรษฐา จะเดินทางมาถึง น.ส.แพทองธาร และ สส.พรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นเวทีปราศรัย ขณะที่ น.ส.ขัตติยา ปราศรัยช่วงหนึ่งว่า ขอให้ประชาชนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติทั้ง 3 ครั้ง ซึ่งจะทำให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนแน่นอน

ทั้งนี้ ทันทีที่นายกรัฐมนตรีมาถึง ได้เดินทักทายประชาชนที่นำผ้าขาวม้าและดอกกุหลาบสีแดงมามอบให้ โดยระหว่างนั้น นายอนุสรณ์ ซึ่งทำหน้าที่พิธีกรบนเวทีได้ถามประชาชนชาวมหาสารคามว่า “เอาเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่” โดยประชาชนต่างตะโกนตอบว่า “เอา” รวมถึงมีประชาชนตะโกนว่า “รักนายกฯ เศรษฐา”

จากนั้น นายเศรษฐา ขึ้นเวทีกล่าวว่า จำได้หรือไม่ว่าเดือนนี้เมื่อปีที่แล้วมาหาเสียงที่นี่ ยังจำได้ว่ามีพายุฝนตกใหญ่ และจำรอยยิ้มได้ วันนี้มาไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังประทับใจในรอยยิ้มและความตั้งใจจริงของพี่น้องที่ถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าร้อนอุตส่าห์ตรากตรำมาให้การต้อนรับ ซึ่งตน รัฐมนตรี สส.ภาคอีสาน และ สส.บัญชีรายชื่อทุกท่านรู้สึกภูมิใจ เป็นเกียรติ และซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง

“วันนี้ปัญหาใหญ่อยู่ข้างหน้าของรัฐบาลนี้มีเยอะ เมื่อกี๊นี้ท่านโฆษกพรรคเพื่อไทยได้พูดไปแล้วเรื่องของเงินดิจิทัล ไม่ต้องห่วงไตรมาส 4 มาแน่นอน เรื่องดีๆ ผมเชื่อว่าท่านทราบอยู่แล้วว่ารัฐบาลทำอะไรอยู่บ้าง ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวกัน แต่เรามาพูดถึงปัญหาดีกว่า เพราะเราต้องยอมรับว่ามีปัญหาที่พวกท่านทั้งหลายยังมีความกังวลใจอยู่เยอะ ในที่นี้มีใครเป็นหนี้บ้าง วันนี้หนี้ในระบบเราพยายามที่จะลดดอกเบี้ย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จไปแล้วจุดหนึ่ง แต่เราจะไม่ลดละความพยายามที่จะลดดอกเบี้ยในระบบ

แต่ปัญหาใหญ่ที่ทุกคนทราบคือปัญหาหนี้นอกระบบ ตรงนี้ได้มีการประชุมไปแล้ว เราให้ความสำคัญกับเรื่องหนี้นอกระบบ ผมเห็นใจและเข้าใจว่าพี่น้องเราตรากตรำทำงานหนักเท่าไหร่ก็ไม่พอจ่ายดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นผมอยากจะขอความกรุณา ใครเป็นหนี้นอกระบบแจ้งต่อหน่วยงานปกครองเข้ามาเพื่อช่วยเคลียร์หนี้กับเจ้าหนี้ และสถาบันทางการเงินของรัฐไม่ว่าจะเป็นธนาคารออมสิน เราพร้อมให้ความช่วยเหลือนำสภาพคล่องกับคืนสู่พี่น้องทุกคน”

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า เรื่องของหนี้สินถือเป็นจุดกำเนิดของปัญหาอะไรอีกหลายอย่าง ทำงานเท่าไรไม่พอใช้หนี้ ท่านมีความกลุ้มใจและหลายท่านไปพึ่งยาเสพติดที่เป็นปัญหาใหญ่มาก ตนยังจำได้มายืนอยู่ตรงนี้เมื่อปีที่แล้ว พี่น้องทุกคนบอกว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งรัฐบาลตระหนักดี เรามีการยึดทรัพย์เด็ดขาดและปิดชายแดนไม่ให้มีการนำยาเสพติดเข้ามา แต่สำคัญมากกว่านั้น ถ้ามีผู้ติดยาเสพติดในหมู่บ้าน เราต้องแยกออกและนำไปบำบัดให้ดี โดยตนสั่งการไปยังหน่วยงานความมั่นคง กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้เยียวยา รักษา และให้เขากลับคืนสู่อ้อมกอดของพ่อแม่พี่น้อง พร้อมกำชับทุกหน่วยงานใครเจอปัญหาตรงไหนอย่างไรให้แจ้งมา เพราะนี่ถือเป็นปัญหาระดับชาติ เราให้ความสำคัญและต้องกำจัดให้หมดไป

ในช่วงท้าย นายเศรษฐา ยังระบุด้วยว่า ปัญหาสุดท้ายที่ความจริงแล้วทุกคนทราบดี คือปัญหาภัยแล้ง เราพึ่งพาภาคเกษตรกรรมเยอะ จึงสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดูแลพี่น้องประชาชนในเรื่อฝของแหล่งน้ำ การขุดลอกคูคลอง จังหวัดนี้มีผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลเยอะ ไม่ว่าจะเป็น นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งความจริงแล้วเป็นตำแหน่งที่ใหญ่มาก มีแค่ 5 คน ซึ่งท่านให้ความสำคัญกับพื้นที่ และให้ความสำคัญกับปัญหาภัยแล้ง ปัญหาเรื่องน้ำ ฉะนั้นไม่ต้องห่วง นอกจากนี้ยังมี นายสุทิน คลังแสง ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีหน่วยงานที่ช่วยดูแลประชาชนได้ ไม่ว่าจะเป็นทหารพัฒนาที่มาช่วยขุดลอกคูคลอง นำรถน้ำมาบรรเทาสาธารณภัย

“ปัญหาทั้ง 3 อย่างกำลังถูกแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นปัญหานี้นอกระบบ ปัญหาภัยแล้ง และปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติทั้ง 3 เรื่อง จึงขอให้มั่นใจ รัฐบาลเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนได้ในทุกมิติ”.