นายกรัฐมนตรี ระบุ ตามนั้น หากการตำหนิอธิบดีกรมโรงงานจนเป็นเหตุให้ลาออก ลั่นขอดูที่เนื้องาน สั่ง “พิมพ์ภัทรา” ไม่ว่าอย่างไรงานต้องเดิน เผยมอบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมดูเรื่องไฟไหม้โรงงานสารเคมีด้วย ยอมรับอาจมีการอำพรางคดี

วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เมื่อเวลา 09.25 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลาออกจากราชการ ภายหลังเกิดปัญหาโรงงานสารเคมีระเบิด และการลักลอบขนย้ายสารเคมีแคดเมียมว่า ตนทราบตามสื่อ โดยได้เชิญนางพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม มาพูดคุยแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่งานจะต้องเดินหน้า แต่ส่วนตัวตนไม่ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนายจุลพงษ์ รวมถึงปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพราะเป็นหน้าที่ของ รมว.อุตสาหกรรม ที่ต้องพูดคุย ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่านายจุลพงษ์ถูกกดดันจากการทำงาน นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าความกดดันหมายความว่าอย่างไร แต่หากเป็นเรื่องการติดตามงาน หรือการให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ถือเป็นการกดดัน ตนมองอีกแบบหนึ่ง โดยเห็นว่าเราต้องเน้นเนื้อหาเป็นหลักมากกว่า เมื่อถามว่า มีการมองว่าในการลงพื้นที่ จ.ระยอง นายกฯ ตำหนิการทำงานของนายจุลพงษ์ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุของการลาออกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ก็ชัดเจน ผมว่าชัดเจน ก็ตามนั้น” เมื่อถามว่า ปัญหาโรงงานอุตสาหกรรม และโรงงานสารเคมี กับปัญหาที่เกิดขึ้นถึงเวลาที่นายจุลพงษ์จะลาออกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่เกี่ยวกับลาออกหรือไม่ลาออก แต่ผมมองเนื้องานมากกว่าที่จะต้องตามถึงรากฐานของปัญหาที่แท้จริงว่าความเชื่อมโยงของโรงงานที่เกิดปัญหาหรือไม่ ซึ่งผมได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปดูแลเรื่องนี้ด้วย”

...

เมื่อถามว่า รมว.อุตสาหกรรม มองว่าควรนำหน่วยงานความมั่นคงมาช่วย เนื่องจากเหตุวางเพลิงที่เกิดขึ้นมีการอำพรางปัญหา นายเศรษฐา กล่าวว่า แน่นอน เราได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ และการที่เชิญหน่วยงานความมั่นคงเข้ามาช่วยแก้ปัญหา เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาโรงงานอุตสาหกรรมไม่ค่อยแคร์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าให้ไปไกลถึงขั้นไม่แคร์ เพราะยังมีผู้ประกอบการอีกหลายรายที่ยังให้ความสนใจผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ตนมองว่าต้องดูความเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่