“พิมพ์ภัทรา” รมว.อุตสาหกรรม เผย ยังไม่เห็นหนังสือลาออก หลังลือ “จุลพงษ์” อธิบดีกรมโรงงานฯ ไขก๊อกหนี เซ่นปมแคดเมียม-ไฟไหม้โรงงานสารเคมีระยอง ยัน ไม่กดดันให้ลาออก แต่กดดันแก้ปัญหา ลั่น ทำงานแบบมืออาชีพ 

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2567 เวลา 19.30 น. ทันทีที่ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้ประกาศลาออกจากราชการ กลางวงประชุมคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นประธาน ซึ่งในการประชุมได้เร่งรัดติดตามการแก้ 2 เรื่องสำคัญ ที่อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ทั้งกรณีเพลิงไหม้สารเคมีของกลางของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด จ.ระยอง โดยกรณีนี้ นายจุลพงษ์ ถูก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต่อว่าเรื่องการลงพื้นที่แก้ปัญหาให้กับประชาชนล่าช้า เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา และกรณีการลักลอบขนย้ายกากแร่ตะกอนแคดเมียมจาก จ.ตาก ไปยัง จ.สมุทรสาคร จนถูกกระจายไปยัง จ.ชลบุรี และเขตบางซื่อ กทม. ซึ่งการขนย้ายยังพบปัญหาหลายจุด ทำให้ นายจุลพงษ์ ถูกตำหนิเพราะแก้ปัญหาล่าช้าไม่ทันสถานการณ์ จนกระทั่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมในวันนี้

ล่าสุด นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นหนังสือลาออกของ นายจุลพงษ์ อย่างเป็นทางการ

ส่วนการลาออกของ นายจุลพงษ์ เป็นเพราะ นางสาวพิมพ์ภัทรา ไม่พอใจต่อการทำงาน กดดัน และต้องการย้าย นายจุลพงษ์ โดยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้านั้น นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า ตนไม่เคยกดดันให้ นายจุลพงษ์ ลาออก แต่กดดันให้ทุกคนทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เพราะปัญหามีมาทุกวัน วนๆ ซ้ำๆ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้สักที ที่ผ่านมา เวลาเกิดเหตุการณ์ใดๆ ตนก็จะให้กำลังใจคนทำงาน และสอบถามความคืบหน้าไปยังไลน์กลุ่มผู้บริหารโดยตลอด อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ตนก็ยังไม่ได้รับรายงานการลาออกของ นายจุลพงษ์ จากปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมแต่อย่างใด

...

“ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องเดินหน้าในการเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง รวดเร็ว เพราะปัญหารอไม่ได้ เพราะส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้ย้ำแล้วว่า ทุกคนต้องทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพ ตามอำนาจหน้าที่ กระทรวงอุตสาหกรรมทำงานหละหลวมไม่ได้ ทุกความไม่ปกติที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ ต้องได้รับการตรวจสอบ ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะด้วยเจตนา หรือไม่เจตนา จะต้องมีคำตอบ เพราะนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนมากที่สุด ซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาลโดยตรงที่จะต้องดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก” นางสาวพิมพ์ภัทรา ระบุ