“เศรษฐา” เตรียมนำ ครม.ใหม่ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนปฏิบัติหน้าที่ 3 พ.ค. “มาริษ” ไม่หนักใจมารับไม้ต่อ “ปานปรีย์” โอ่เป็นลูกหม้อบัวแก้วอยู่แล้วลั่นไม่จำเป็นต้องควบรองนายกฯก็ลุยงานได้ “จิราพร” เชื่อนายกฯอยากได้พลังคนรุ่นใหม่มาช่วยงาน “มุข” จวกหยุดปั่นแซะเก้าอี้ “วันนอร์” ได้แล้ว “ชัยธวัช” เซ็งปรับ ครม.น่าผิดหวัง “ทักษิณ” ลงภูเก็ต “สุวัจน์” โผล่แจม นายกฯจับมือไมโครซอฟท์ทุ่มทุนปั้นเศรษฐกิจ AI ผลักดันไทยสู่ยุคใหม่ ศาล รธน.ไฟเขียวขยายเวลาก้าวไกลสู้คดียุบพรรคอีก 15 วัน แกนนำใจชื้นเชื่อผลจะเป็นบวก กกต.ควักใบดำ-แดงผู้สมัคร สส.สงขลา ภท. กมธ.แรงงานเต้นถูกผู้ช่วย สส.ก้าวไกล อ้างชื่อตบทรัพย์

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เป็น รมว.ต่างประเทศ ขณะที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แจ้งให้รัฐมนตรีใหม่ที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 3 พ.ค. เวลา 17.00 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

โปรดเกล้าฯ “มาริษ” เป็น รมว.กต.

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 พ.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องรัฐมนตรีลาออก ด้วยนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รมว.ต่างประเทศ ขอลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. ความเป็นรัฐมนตรีของนายปานปรีย์ จึงสิ้นสุดลง ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (2) ประกาศ ณ วันที่ 29 เม.ย. จากนั้นเวลา 09.20 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า นายกฯได้กราบบังคมทูลว่า รมว.ต่างประเทศได้ลาออกจากตำแหน่ง สมควรแต่งตั้ง รมว.ต่างประเทศแทนตำแหน่งที่ว่าง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เป็น รมว.ต่างประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 30 เม.ย.2567 ผู้รับสนองพระบรม ราชโองการ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

...

ไม่หนักใจโอ่เป็นลูกหม้อบัวแก้ว

ต่อมาเวลา 13.37 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้มอบหมายงาน เพราะยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อถามว่านายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีต รมว.ต่างประเทศ ได้พูดคุยหรือแนะนำอะไรหรือไม่ นายมาริษตอบว่า ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกันในเรื่องงาน แต่ท่านฝากงานต่อว่าอยากเห็นอะไรอย่างไรบ้าง ไม่ขอพูดในรายละเอียดตรงนี้ เมื่อถามว่าไม่หนักใจใช่หรือไม่ที่ต้องมาสานงานต่อในช่วงนี้ นายมาริษตอบว่า ไม่หนักใจ ทำงานร่วมกับนายปานปรีย์มาตลอด และเป็นลูกหม้อกระทรวงการต่างประเทศ

ลั่นไม่จำเป็นต้องควบรองนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯทาบทามอย่างไรจึงตัดสินใจมารับตำแหน่ง นายมาริษตอบว่า นายกฯ กับตนเจอกันตลอดเวลา เรารู้จักกันดี รู้ว่าจะทำงานร่วมกันได้อย่างไร เมื่อถามว่าการทำงานตรงนี้จะมีปัญหาหรือไม่ เพราะไม่ได้ควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี นายมาริษตอบว่า ไม่มี สามารถทำได้และไม่มีความจำเป็น แล้วแต่บุคคล เมื่อถามว่าแต่เหตุผลดังกล่าวนายปานปรีย์ใช้เพื่อลาออกจากตำแหน่ง นายมาริษตอบว่า สำหรับตนไม่จำเป็น ความเป็นรัฐมนตรีสามารถทำงานได้โดยไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เมื่อถามว่านายปานปรีย์ได้รับคำชื่นชมการทำงานด้านการทูต ทำให้รู้สึกหนักใจหรือไม่ นายมาริษยืนยันว่า ไม่หนักใจเลย เคยทำงานตำแหน่งเอกอัครราชทูต เป็นลูกหม้อของกระทรวงการต่างประเทศ จึงไม่หนักใจ

นำ ครม.ชุดใหม่ถวายสัตย์ 3 พ.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งให้รัฐมนตรีใหม่ที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลี พระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 3 พ.ค. เวลา 17.00 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต กทม. โดย สลค.ได้จัดเตรียมรถตู้สำหรับ ครม.ชุดใหม่ ออกเดินทางพร้อมกันจากทำเนียบรัฐบาลไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน ในเวลา 15.45 น. ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล มีการจัดเตรียมห้องสีเหลือง ภายในตึกสันติไมตรีหลังนอก เพื่อถ่ายภาพทำบัตรประจำตัวรัฐมนตรี ขณะนาย เศรษฐาขอลาราชการในช่วงครึ่งวันเช้าวันที่ 3 พ.ค. เพื่อไปร่วมกิจกรรม “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10” ที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ของนายเศรษฐา และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้วย

จิราพร สินธุไพร
จิราพร สินธุไพร

“จิราพร” รับเป็นมือใหม่ตื่นเต้น

น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า มาคุยงานเตรียมความพร้อมการลงพื้นที่ตรวจราชการของนายกฯ วันที่ 5-6 พ.ค. ที่ จ.ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม ติดตามปัญหาด้านการเกษตร ภัยแล้ง ราคาพืชผล แต่ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกับนายกฯ ว่าจะมอบหมายให้รับผิดชอบงานด้านใด เพราะยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อถามว่าจะดูด้านสื่อหรือไม่ น.ส.จิราพรตอบว่า ยังไม่แน่ชัดว่าจะทำงานด้านใด แต่ก็พร้อม ก่อนจะถามกลับทีเล่นทีจริงว่า “พี่ๆอยากให้ทำงานร่วมกันมั้ยคะ” เมื่อถามว่าได้เป็นรัฐมนตรีครั้งแรกประหม่าหรือไม่ น.ส.จิราพรตอบว่า ตื่นเต้นแต่ไม่ตระหนก เราเตรียมพร้อมทุกหน้าที่ เหมือนตอนเป็น สส.สมัยแรก หน้าที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ จริงๆถือว่าเป็นความภาคภูมิใจ เราเป็น สส.ที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน พอมาทำงานฝ่ายบริหารถือว่าเป็นความก้าวหน้าอีกแบบหนึ่ง และเป็นภาระหน้าที่ที่ต้องทำ”

นายกฯอยากได้พลังคนรุ่นใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ได้เป็นรัฐมนตรีครั้งนี้มีเหตุผลจากอะไร น.ส.จิราพรตอบว่า ประเด็นหลักนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เป็นคนแต่งตั้ง ท่านทำงานมา 7-8 เดือนเห็นการทำงานช่วงที่ผ่านมา และตนเป็น สส.สมัยที่ 2 น่าจะเป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุด นายกฯคงอยากได้พลังคนรุ่นใหม่เข้ามาขับเคลื่อนงานร่วมกับคนทุกรุ่น เมื่อถามย้ำว่ามาในโควตาภาคอีสานหรือไม่ น.ส.จิราพรตอบว่า เรื่องนี้ต้องถามนายกฯ คิดว่าท่านพิจารณาตามความเหมาะสมของการขับเคลื่อนงานในแต่ละบริบทของประเทศมากกว่าโควตา ส่วนใครจะมองอย่างไรก็เป็นสิทธิ เพราะเรามี สส.กระจายอยู่ทุกภูมิภาค เมื่อถามว่านายไชยา พรหมา อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ถูกปรับออกเป็น สส.อีสาน ได้ฝากอะไรหรือไม่ น.ส.จิราพรตอบว่า หลังโปรดเกล้าฯยังไม่ได้มีการหารือกัน แต่ตอนที่นายไชยาเป็นรัฐมนตรีก็สื่อสารกันตลอด สำหรับ สส.อีสานของพรรคก็ฝากเรื่องการทำงานในภาพรวม ตอบสนองความต้องการประชาชน ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของ สส.ในพื้นที่ด้วย

“ชลน่าน” โวยหมอชนบทตอกลิ่ม

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต รมว.สาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊กเป็นครั้งแรกหลังถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี มีเนื้อหาสรุปว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณเพจแพทย์ชนบท ที่โพสต์ให้กำลังใจ แต่ยังมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไปมาก ชมรมแพทย์ชนบทไม่ควรใช้สถานการณ์นี้สร้างความแตกแยกในกระทรวงอีก ขอให้ยุติการกระทำ ทั้งเรื่องการประเมินผลงานตัวเอง การคุมข้าราชการไม่อยู่ การทำงานที่ผ่านมาใช้ผลงานเป็นตัววัด ไม่ให้ความสำคัญกับคำว่า “คนของใคร” ไม่เคยเป็นคู่ขัดแย้งกับ สปสช. ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. ทำงานกับเลขาฯ สปสช.ได้ดี ออกทำงานดูแลพี่น้องประชาชน ในโครงการ “พาหมอไปหาประชาชน เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 72 พรรษา 28 ก.ค. 2567” ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ รวมถึงข้อกล่าวหาทำสาธารณสุขรากฐานไม่ก้าวหน้า กระจายอำนาจสับสน ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาเชิงระบบ ที่เกิดมาก่อนจะเข้ามารับตำแหน่ง เข้ามาก็จัดการแก้ปัญหา เร่งรัดให้ดำเนินการตามกฎหมาย

ปกป้องชื่อเสียงไม่ให้ถูกทำลาย

นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า สำหรับการบำบัดรักษาฟื้นฟูยาเสพติด เป็นอีกงานที่ขับเคลื่อนได้ยาก เพราะไม่มีกฎกระทรวงรองรับ ทั้งที่มีกฎหมายประมวลยาเสพติดตั้งแต่ปี 2564 พยายามเสนอกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาบ้า เพื่อสันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อเสพ ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเสนอ 15 เม็ด ไม่ผ่าน ครม. กลับมาทำใหม่ เสนอ 1 เม็ด ก็ไม่ผ่าน ครม. จนมาถึงรัฐบาลนี้ ครม.ให้ความเห็นชอบไม่เกิน 5 เม็ด ในฐานะ รมว.สาธารณสุข เป็นผู้ลงนามในกฎกระทรวง เร่งรัดให้มีสถานบำบัด และชุมชนเป็นฐานบำบัดรักษา CBTx มีผู้เข้ารับการบำบัดรักษาถึง 70,000 คน ที่มีคนออกมาระบุทำนองว่าตนเป็นคนไม่มีความรู้ความสามารถ คุมข้าราชการไม่ได้ ถูกวางยา ทำให้งานไม่บรรลุเป้าหมาย ทำให้เสียหาย โดยเฉพาะความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากพี่น้องประชาชน จึงขออนุญาตชี้แจงเพื่อปกป้องไม่ให้เกิดความเสียหาย ไม่เกิดความแตกแยก และไม่ให้ถูกทำลายไปมากกว่านี้

“มุข” ไล่หยุดปั่นแซะเก้าอี้ “วันนอร์”

นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า จนถึงวันนี้ยังคงมีการเคลื่อนไหวให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่นายวันมูหะมัดนอร์ยังยืนยันจะเป็นประธานสภาฯต่อไปจนครบเทอมสภาฯชุดนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องลาออก หากพูดถึงเรื่องสุขภาพยังมีสุขภาพดี ปฏิบัติงานได้ปกติ การที่ นายวันมูหะมัดนอร์อยู่ในตำแหน่งประธานสภาฯ มีโอกาสประสานงานในด้านต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ขอให้หยุดการให้ข่าวทำนองกดดันประธานสภาฯลาออกจากตำแหน่งได้แล้ว ไม่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ทำให้ประชาชนสับสน

ชัยธวัช ตุลาธน
ชัยธวัช ตุลาธน

“ชัยธวัช” เซ็งปรับ ครม.น่าผิดหวัง

นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้า พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับ ครม.ว่า ปัญหาของรัฐบาลช่วง 8 เดือน ไม่สามารถนำส่งนโยบายได้อย่างที่ประชาชนคาดหวัง ไม่สามารถทำงานอย่างมีเป้าหมาย มีรูปธรรมชัดเจน เมื่อมีการปรับ ครม.ประชาชนคาดหวังว่าจะตอบโจทย์ ทำให้มีรัฐมนตรีที่ถูกที่ถูกเวลา ถูกกระทรวง ถูกงาน แต่เป็นความเห็นที่เราสัมผัสได้ ความรู้สึกของฝ่ายค้านและประชาชนเองก็ผิดหวัง รัฐมนตรีในหลายกระทรวงที่คาดหวังให้รัฐบาลมีการปรับเปลี่ยน แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อกระทรวง หากฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 มีรัฐมนตรีหลายคนในหลายกระทรวงที่พูดถึงว่ามีปัญหาเยอะ แต่ยังมั่นคงในเก้าอี้รัฐมนตรี คนที่ควรถูกเปลี่ยนออกไปอย่างชัดเจน กลับไม่ถูกเปลี่ยน

“ทักษิณ” ลงภูเก็ต “สุวัจน์” โผล่แจม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 30 เม.ย. เพจเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูลภูเก็ต Phuket info center เผยแพร่ภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไป จ.ภูเก็ต ได้พบปะกับประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่ถนนบางลา ป่าตอง โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา ร่วมคณะ และเป็นที่น่าสังเกตว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้ไม่มีคนในครอบครัวชินวัตรร่วมเดินทางไปด้วย ต่อมาวันที่ 1 พ.ค. นายทักษิณเข้าเยี่ยมผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่สวนน้ำอันดามันดา มีนายสุวัจน์และนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ภูเก็ต ต้อนรับ สวนน้ำดังกล่าวอยู่ในเครือพราวกรุ๊ป ของ น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ บุตรสาวของนายสุวัจน์ ยังมีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ นายทักษิณเตรียมลงพื้นที่จังหวัดในภาคอีสาน ได้แก่ จ.นครราชสีมา เพื่อร่วมรับประทานอาหารกับนายสุวัจน์ ในช่วงปลายเดือนพ.ค.นี้ด้วย

นายกฯ-ไมโครซอฟท์ทุ่มปั้น AI

ที่ Plenary Hall 3 ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อเวลา 09.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงาน “Microsoft Build AI Day Event” ว่า รัฐบาลยืนยันความพร้อมสำหรับอุตสาหกรรม AI และพร้อมสนับสนุนให้อุตสาหกรรม AI เติบโตในไทยอย่างเต็มที่ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทยพร้อมสำหรับอนาคต ยินดีที่ได้ทราบว่าความมุ่งมั่นของไทยสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของไมโครซอฟท์ มั่นใจว่าความร่วมมือระหว่างกันนี้จะนำไปสู่อนาคต ร่วมกัน รัฐบาลพร้อมรับฟังความคิด เข้าใจความ ต้องการและพร้อมหาทางออกที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตในไทยต่อไป ทั้งนี้ นายสัตยา นาเดลลา (Satya Nadella) ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชัน กล่าวให้คำมั่นว่า ไมโครซอฟท์พร้อมเข้ามาลงทุน Data Center ในไทย และพร้อมมีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพ ให้ความรู้เกี่ยวกับทักษะ AI ในภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2025

ผลักดันเศรษฐกิจไทยสู่ยุคใหม่

ต่อมาเวลา 12.50 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐาเป็นประธานในงานเลี้ยงรับรอง The Exclusive Networking Lunch Microsoft Build : AI Day แก่นายสัตยาและคณะ โดยนายเศรษฐากล่าวต้อนรับว่า ความร่วมมือนี้สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นร่วมในการสร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิด สอดประสาน รับฟังความคิดเห็น รวมทั้งแก้ไขปัญหาให้ทั้งนักลงทุนต่างชาติและนักธุรกิจไทย ขณะที่นายสัตยายืนยันไมโครซอฟท์พร้อมมีส่วนร่วมขับเคลื่อน สนับสนุนกิจกรรมในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่มีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยให้กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมสนับสนุนเทคโนโลยี AI ในภาคธุรกิจ และภาครัฐ ผลักดันสู่ยุคใหม่แห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ดึงทุกฝ่ายร่วมพัฒนาการศึกษา

จากนั้นเวลา 14.15 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ น.ส.นดา บินร่อหีม ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย นำคณะเข้ารับโอวาทจากนายกฯ นายเศรษฐากล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ให้ความหวัง สร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้เด็กๆพร้อมดูแลให้เติบโต เข้มแข็ง รับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ตระหนักว่านี่คือหน้าที่รัฐบาล และทุกภาคส่วนที่จะสร้างโอกาสให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่ดี ให้เสมอภาคเท่าเทียมมากขึ้น แม้ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงสูง หลายคนด้อยค่าการศึกษาไทย ยังเชื่อว่ามีคนที่ลุกขึ้นมาช่วยแก้ไขปัญหานี้ อยากให้ทุกคนหันมามีส่วนร่วมพัฒนาการศึกษาไทย มีมากให้มาก มีน้อยให้น้อย หรือถ้าไม่มีก็ช่วยเรื่องอื่นแทน “สิ่งที่น้องๆนำเสนอ คือมุมมองที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาประเทศ บางเรื่องทำได้เลย บางเรื่องต้องรอ บางเรื่องมีข้อจำกัด แต่ผมรับฟัง จะนำทุกเรื่องที่น้องๆเสนอมานี้เข้าที่ประชุม ครม. เพราะเชื่อเสมอว่าเสียงของเด็กๆที่จะเป็นผู้กำหนดทิศทางประเทศในอนาคตนั้นสำคัญมาก ผู้ใหญ่ในวันนี้ต้องรับฟัง”

ล่องเรือชมคลองเปรมประชากร

กระทั่งเวลา 16.30 น. ที่ท่าเรือ SCG บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เขตบางซื่อ นายเศรษฐาเดินทางด้วยเรือโดยสารไปยังท่าเรือสวน สาธารณะ ปตท. เขตหลักสี่ กทม. ตรวจติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาคลองเปรมประชากร มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมคณะ ระหว่างทางมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลอง โบกมือทักทาย ซึ่งนายกฯได้โบกมือทักทายกลับ นอกจากนี้นายกฯยังติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างบ้านมั่นคงพร้อมสอบถามความเป็นอยู่ชาวบ้านว่า “ในบ้านติดแอร์ด้วยหรือไม่” มีชาวบ้านตอบกลับว่า “รอรัฐบาลติดให้” จังหวะนี้นายอนุทินหันมาบอกว่า “เดี๋ยวได้เงินหมื่นก็มีเงินไปติดแอร์แล้ว” ชาวบ้านจึงกล่าวขอบคุณ

ให้คำมั่นได้แน่เงิน 1 หมื่นดิจิทัล

เมื่อมาถึงตลาดชุมชนคลองเปรมประชากร ชุมชนประชาร่วมใจ 1 มีกลุ่มชาวบ้านพร้อมใจตะโกนเรียก นายกฯจึงให้เรือไปจอดเทียบฝั่งพร้อมกล่าวทักทายชาวบ้าน มีชายคนหนึ่งตะโกนบอกว่า “อยากได้เงินหมื่น” นายกฯจึงหันมายิ้มตอบว่า “ได้แน่นอน” ทำให้กลุ่มชาวบ้านต่างขอบคุณ จากนั้นนายกฯและคณะเดินทางถึงท่าเรือสวนสาธารณะปตท. เดินตรวจพื้นที่ก่อสร้างสวนสาธารณะของปตท. และรับฟังรายงานความคืบหน้าโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร นายเศรษฐากล่าวว่า วันนี้มา ตรวจเยี่ยมการพัฒนาคลองเปรมประชากร ถือเป็นการแก้ปัญหาการรุกล้ำลำคลองและสภาพความเป็นอยู่ที่แออัดของประชาชนที่อยู่อาศัยริมคลอง รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ร่วมกันทั้งภาครัฐเอกชนและชุมชนตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวได้มีโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อพสกนิกร

ไฟเขียวขยายเวลา ก.ก. อีก 15 วัน

ช่วงบ่าย สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าว การประชุมปรึกษาคดีที่น่าสนใจหลายคดี อาทิ คดีที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นคำร้องกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองฯ อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) ข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ขอให้ศาลสั่งยุบพรรค เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งผู้เป็นกรรมการบริหารพรรค และห้ามมิให้ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วม ในการจัดตั้งพรรคขึ้นใหม่ภายใน 10 ปี ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องของผู้ถูกร้อง ฉบับลงวันที่ 23 เม.ย. ขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ครั้งที่ 2 ออกไปอีก 30 วัน นับถัดจากวันครบกำหนดขยายระยะเวลาครั้งแรกแล้ว จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาออกไปอีก 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. จะครบกำหนดยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 18 พ.ค.

ก.ก.ใจชื้นเชื่อผลคดีจะเป็นบวก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคก้าวไกลว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติขยายเวลาให้พรรคก้าวไกลชี้เเจงแก้ข้อกล่าวหาคดียุบพรรคไปอีก 15 วันทางแกนนำพรรค นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย กก.บห. รวมถึงทีมกฎหมาย ทนายความพรรค ร่วมประชุมร่วมกันทันทีที่พรรค ก.ก. เพื่อกำหนดรายละเอียดในการแก้ข้อกล่าวหาให้รัดกุมมากขึ้น โดยคดีนี้มีความละเอียดอ่อนมากจำเป็นต้องมีความรอบคอบให้มากที่สุด บรรยากาศในการหารือ ทั้ง สส. กก.บห. สมาชิกพรรค และเจ้าหน้าที่พรรค รู้สึกดีใจที่ศาลรัฐธรรมนูญอนุมัติให้ขยายเวลา และเชื่อว่าคดีนี้จะออกมาเป็นผลบวกกับพรรค

กกต.แจกใบดำ-แดงผู้สมัคร ภท.

วันเดียวกัน เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา สั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายสมชาย เล่งหลัก ผู้สมัคร สส.สงขลา เขต 9 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 วรรคหนึ่ง และให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายสมชาย เล่งหลัก นายวินัย บัวทอง และ พ.ต.อ.ถวัลย์ นคราวงศ์ ตามมาตรา 73 (3) ประกอบมาตรา 158 วรรคหนึ่งของกฎหมายเดียวกัน กรณีปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่านายสมชายก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้นายวินัยและ พ.ต.อ.ถวัลย์จัดเตรียมเพื่อจะให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง เป็นการทุจริตเลือกตั้ง อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 วรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับนายสมชายไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม

เต้นอ้างชื่อ กมธ.แรงงานตบทรัพย์

อีกเรื่อง ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร โดยนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ประธาน กมธ.แรงงาน ร่วมกับนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา แถลงถึงกรณีนายณัฐพล อนุพิทักษ์สมาน ผู้ช่วย สส.พรรคก้าวไกล แอบอ้างเป็นคณะทำงาน กมธ.แรงงาน ลงพื้นที่เรียกรับเงินจากโรงงานและไซต์งานใน จ.ปราจีนบุรี นายวุฒิพงศ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย. มีผู้แอบอ้างเป็นคณะทำงานของ กมธ.แรงงาน ติดต่อเข้ามาที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดปราจีนบุรีเพื่อลงพื้นที่ก่อสร้างโรงงานของบริษัททุนจีน มีจุดประสงค์เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ กลุ่มผู้แอบอ้างกลุ่มเดิมรวม 6 คนยังย่ามใจยังลงพื้นที่ไซต์งานก่อสร้างทางหลวงชนบทอีกไซต์งานหนึ่ง โดยอ้างชื่อ สส.คนเดิม ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรีคุมตัวทั้ง 6 คนไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี แต่ใน 3 คนนั้นขับรถหนี พฤติกรรมคนกลุ่มนี้มักลงพื้นที่ไซต์งานที่มีขนาดกลางขึ้นไป มีคนงานประมาณ 10 คนขึ้นไป ตระเวนจับผิด แอบอ้างข่มขู่เรียกทรัพย์แต่ละไซต์งานหลายหมื่นบาท

“สฤษฏ์พงษ์” รับตบมาหลายหมื่น

นายสฤษฏ์พงษ์กล่าวว่า ไม่เคยรู้จักบุคคลกลุ่มนี้ และไม่ได้เป็น กมธ.แรงงาน ที่ฟังมาเป็นเพียงผู้ติดตาม สส.ท่านหนึ่ง อยู่ใน กมธ.แรงงาน แต่ยังไม่ได้สอบถาม ได้เรียนต่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน แล้ว ได้รับแจ้งกลับมาว่าอะไรที่ผิดกฎหมายต้องจัดการ “การไปไล่บี้ตบทรัพย์ได้มาหลายหมื่นบาท จึงต้องแจ้งผ่านสื่อมวลชนไปยังบริษัทอื่นๆ และในพื้นที่ที่มีโรงงานแบบนี้ ถ้ามีกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นคณะทำงาน กมธ.แรงงาน ขอให้ตรวจสอบและแจ้งมายัง กมธ.แรงงานด้วย”

รอสภาเปิดค่อยนัดคุยใน กมธ.ก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งคณะกรรมการสอบแล้วหรือยัง นายสฤษฏ์พงษ์ตอบว่า ยังไม่ตั้งกรรมการสอบ เพราะยังปิดสมัยประชุมอยู่ จะคุยกันในวันที่ 8 พ.ค.นี้ เมื่อถามว่าชื่อที่ปรากฏเป็นข่าวคือนายสุเทพ อู่อ้น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ต้องเรียกมาคุยหรือไม่ นายสฤษฏ์พงษ์ตอบว่า ต้องมีการสอบถาม แต่โดยส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกัน ยังตอบไม่ได้ว่านายสุเทพมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องฟังหลายฝ่าย รับปากแล้วว่าจะไปตรวจสอบโรงงานที่ปราจีนบุรี ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่ทราบตัวเลข แต่รับทราบมาว่าบริษัทจ่ายไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 2 หมื่นบาท แต่มีบริษัทอีกบริษัทที่ใหญ่กว่ายังไม่ทราบตัวเลขว่าจ่ายไปเท่าไหร่ ยอมรับว่าเป็นเรื่องใหญ่ จะมีการเรียกประชุมเร็วที่สุดในวันที่ 8 พ.ค. เมื่อถามว่าหากนายสุเทพผิดจริง ถึงขั้นขับออกจาก กมธ.หรือไม่ นายสฤษฏ์พงษ์ตอบว่า เรื่องขับ กมธ.ต้องดูหลายประเด็น เพราะถูกตั้งมาจากสภาใหญ่ ต้องฟังความทั้งสองฝ่าย

กมธ.ฉะหย่อนยานคุมแคดเมียม

ขณะที่คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประธาน กมธ. นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต พรรคก้าวไกล โฆษก กมธ.ที่ดินฯ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงผลการประชุม นายฐิติกันต์กล่าวว่า จากการตรวจพบกากแร่แคดเมียมที่ถูกลักลอบขนย้ายจากหลุมฝังกลบในพื้นที่ จ.ตาก มาเก็บไว้ ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร และ ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี กมธ.ได้เชิญอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผวจ.ตาก ผวจ.ชลบุรี ผวจ.สมุทรสาคร และผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรากฏว่ากรมโรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีแผนการดำเนินงานใดๆ
ที่เป็นลายลักษณ์อักษรให้ประชาชนร่วมตรวจสอบได้ ไม่มีความเป็นมืออาชีพในการรับมือเหตุกากสารพิษที่เกิดขึ้นซ้ำๆ กมธ.ได้ข้อมูลว่ามีการปนเปื้อนผัก และผลไม้ บริเวณรอบโรงงานแล้ว แต่ยังไม่พบสารปนเปื้อนในดิน

ไฟไหม้ รง.ระยองไร้แผนเผชิญเหตุ

นายพูนศักดิ์กล่าวว่า กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด ที่เต็มไปด้วย สารเคมีในพื้นที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง กมธ.ฟังข้อมูลจากอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ผวจ.ระยอง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ระยอง อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง นายแพทย์สาธารณสุขจ.ระยอง และหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีผู้ป่วยกว่า 600 รายที่ได้รับผลกระทบ กมธ.มีข้อสังเกตว่าระบบแจ้งเตือนและการอพยพมีปัญหา ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่สามารถตอบคำถามได้ จึงให้กลับไปเขียนแผนงานพร้อมหาคำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาชี้แจงเพื่อหาผู้รับผิดชอบต่อไป กมธ.จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่