“จิราพร สินธุไพร” ยันพร้อมลุยงาน หลังนั่งรัฐมนตรี ย้ำหน้าที่มาพร้อมความรับผิดชอบดูแลประชาชน เผยเตรียมงานนายกฯ ลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม วันที่ 5-6 พ.ค. ดูเกษตร แก้ปัญหาภัยแล้ง รับเป็นรมต.ใหม่ ตื่นเต้น แต่ไม่ตระหนก เชื่อนายกฯ อยากได้พลังคนรุ่นใหม่ 

วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เมื่อเวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้เดินทางมาที่ตึกบัญชาการ โดยสื่อมวลชนสอบถามว่าวันนี้เดินทางเข้ามาดูห้องทำงานใช่หรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาคุยงานเพื่อเตรียมความพร้อมการลงพื้นที่ตรวจราชการของนายกฯ วันที่ 5-6 พฤษภาคม ที่ จ.ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม โดยเนื้อหาการลงพื้นที่จะติดตามปัญหาด้านการเกษตร ภัยแล้ง ราคาพืชผล เมื่อถามว่านายกฯ จะมอบหมายให้รับผิดชอบงานด้านใด น.ส.จิราพร กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยลงรายละเอียด เพราะยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ เพราะมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ 3 คน ก็ต้องคุยรายละเอียดกัน และนายกฯ ก็ยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดชัดเจน อย่าง นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯ มีความถนัดเรื่องกฎหมาย ส่วนตนก็ถนัดทุกด้าน เพราะเมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็ศึกษางานในทุกส่วน เมื่อถามว่าจะดูด้านสื่อหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่ายังไม่แน่ชัดว่าจะทำงานด้านใด แต่ก็พร้อม พร้อมถามกลับสื่อทีเล่นทีจริงว่า “พี่ๆ อยากให้ทำงานร่วมกันมั้ยคะ” 

เมื่อถามว่าการได้เป็นรัฐมนตรีครั้งแรก ประหม่าหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า “ตื่นเต้น แต่ไม่ตระหนก เพราะเราเตรียมพร้อมทุกหน้าที่ เหมือนตอนเป็น สส.สมัยแรก ที่ก็มีบทบาทที่แตกต่างไป แล้วแต่โอกาสที่ประชาชนมอบให้” เมื่อถามถึงความรู้สึกในการเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกรู้สึกอย่างไร น.ส.จิราพร กล่าวว่า หน้าที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ซึ่งจริงๆ ก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจ และเมื่อเราเป็น สส. ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน พอมาทำงานฝ่ายบริหารก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าอีกแบบหนึ่ง และถือเป็นภาระหน้าที่ ที่จะต้องทำ อาทิ ช่วยงานนายกรัฐมนตรี การประสานงานกับคณะรัฐมนตรี เมื่อถามว่าจะกระทบกับพื้นที่หรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า ตนก็ต้องแบ่งเวลา 

...

เมื่อถามว่าการได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรีครั้งนี้มีเหตุผลจากอะไร น.ส.จิราพร ตอบว่า ประเด็นหลัก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เป็นคนแต่งตั้ง ท่านทำงานมา 7-8 เดือน เห็นการทำงานช่วงที่ผ่านมา และตนก็เป็น สส.สมัยที่ 2 น่าจะเป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุด นายกฯ คงอยากได้พลังคนรุ่นใหม่เข้ามาขับเคลื่อนงานร่วมกับคนทุกรุ่นไปด้วยกัน เมื่อถามย้ำว่าประเมินว่าการมาครั้งนี้ถือเป็นโควตาของภาคอีสานหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามนายกฯ คิดว่าท่านพิจารณาตามความเหมาะสมมากกว่าโควตา ส่วนใครจะมองอย่างไรก็เป็นสิทธิ เพราะเรามี สส.กระจายอยู่ทุกภูมิภาค คิดว่านายกฯ จะพิจารณาจากความเหมาะสมของการขับเคลื่อนงานในแต่ละบริบทของประเทศ ที่ต้องการรัฐมนตรีแบบไหนเข้ามาดูแลงาน 

เมื่อถามว่าในฐานะที่ นายไชยา พรหมา อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ถูกปรับออกเป็น สส.อีสาน ได้ฝากอะไรมาหรือไม่ เพราะเป็น สส.อีสานเช่นเดียวกัน น.ส.จิราพร กล่าวว่า หลังโปรดเกล้าฯ ยังไม่ได้มีการหารือกัน แต่ตอนที่นายไชยา เป็นรัฐมนตรีได้สื่อสารกันตลอด และไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนก็ยึดผลประโยชน์ประชาชนและผลักดันนโยบายให้สำเร็จ เมื่อถามอีกว่า สส.อีสานพรรคเพื่อไทย ได้ฝากให้ผลักดันเรื่องอะไรหรือไม่ น.ส.จิราพร ตอบว่า สส.อีสานพรรคเพื่อไทยฝากเรื่องการทำงานในภาพรวม คือเมื่อได้มีโอกาสเป็นฝ่ายบริหารก็ต้องทำงานตอบสนองความต้องการประชาชน ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของ สส.ในพื้นที่ด้วย