“เศรษฐา” ฟิตจัด เรียก รมต.ใหม่ของเพื่อไทยติวเข้ม ให้นโยบายลุยงานเต็มสูบ “มาริษ” ขึ้นตึกไทยฯพบนายกฯ เคลียร์ตัวเองทุกตำแหน่ง รอนั่ง รมว.ต่างประเทศ ขรก.บัวแก้วน้ำตาท่วมอำลา “ปานปรีย์” เจ้าตัวไม่ห่วงบอกมีแต่คนเก่งๆ “ครูมานิตย์” อารมณ์ค้าง อัด “ดร.ตั๊ก” ไม่รู้จักน้ำอดน้ำทน ไร้คุณสมบัติของนักการเมือง คปท.-ศปปส.ร้อง กกต.สอบคุณสมบัติ “พิชิต ชื่นบาน” ขัดรัฐธรรมนูญ 160 (5) ชง ป.ป.ช.ฟันจริยธรรมนายกฯซ้ำ “เศรษฐา” มั่นใจคุณสมบัติ “พิชิต” ผ่านฉลุย ส่งกฤษฎีกาตรวจสอบแล้ว รมว.กต.คนใหม่ขอให้รอโปรดเกล้าฯก่อน “ธนาธร” เมิน กกต.ลุยชวนคนลง สว.ต่อ เฉ่งแค่สนองใบสั่งผู้มีอำนาจ “พนัส” ร้องศาล ปค.ระงับข้อห้ามจำกัดสิทธิ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เดินเครื่องเต็มสูบ เรียกรัฐมนตรีใหม่พรรคเพื่อไทย เข้าพบมอบนโยบายและแนวทางการทำงาน แต่ยังมีควันหลงจากพิษที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ มี สส.พรรคเพื่อไทยอารมณ์ค้าง วิพากษ์วิจารณ์ไล่หลัง ว่าไม่มีน้ำอดน้ำทน ไร้คุณสมบัติการเป็นนักการเมือง
“เศรษฐา” เรียก รมต.ใหม่ติวเข้ม
เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 30 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เรียกบรรดารัฐมนตรีใหม่ในส่วนพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อให้นโยบายและแนวทางการทำงาน ได้แก่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นอกจากนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ทยอยเข้าพบนายกฯ ร.อ.ธรรมนัสเปิดเผยว่า นายกฯเรียกพูดคุยถึงการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง หลังนายกฯลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ฝากให้กระทรวงเกษตรฯไปดูเรื่องการแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะเรื่องการขุดลอกคูคลอง โดยดูภาพรวมทั้งประเทศ
...
“เสริมศักดิ์” ไม่กดดันดูท่องเที่ยว
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวก่อนพบนายกฯว่า นายกฯเรียกตนและ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม เข้าพบเพื่อหารือและรับทราบนโยบายการทำงานด้านการท่องเที่ยวและงานด้านวัฒนธรรม ส่วนตัวทำการบ้านมาแล้วบางส่วน คิดว่าทำได้ ถือเป็นงานที่สร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชน เนื้องานของ 2 กระทรวงมีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกัน สามารถต่อยอดกันได้ เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ที่ต้องมาทำงานในกระทรวงด้านเศรษฐกิจหลักของประเทศ นายเสริมศักดิ์ตอบว่า ไม่กดดัน แต่รู้สึกภูมิใจที่นายกฯให้ความไว้วางใจว่าสามารถทำงานนี้ได้ เมื่อถามว่ามองเรื่องการปรับ ครม.ครั้งนี้อย่างไรที่รัฐมนตรีบางคนแสดงความไม่พอใจ นายเสริมศักดิ์ตอบว่า การปรับ ครม.ทุกครั้งก็มีทั้งผู้ที่พอใจและไม่พอใจมาโดยตลอด

“มาริษ” ขึ้นตึกไทยฯพบนายกฯ
ต่อมาช่วงบ่าย ยังคงมีรัฐมนตรีใหม่พรรคเพื่อไทยทยอยเข้าพบนายกฯที่ตึกไทยคู่ฟ้า รวมถึงนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ที่มีรายงานเป็นบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศด้วย โดยนายมาริษหันมายิ้มให้กับผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า กระทั่งเวลา 14.09 น. นายมาริษ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ นายสมศักดิ์ นายเสริมศักดิ์ น.ส.สุดาวรรณ และนายจุลพันธ์ จึงทยอยเดินทางกลับออกจากทำเนียบฯ ขณะที่เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. เดินทางเข้าพบนายกฯที่ตึกไทยคู่ฟ้า พร้อม พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ณัฐพงศ์ นาคพาณิชย์ เลขานุการ รมว.กลาโหม ใช้เวลาหารือราว 30 นาที
เคลียร์ตัวเองทุกตำแหน่งนั่ง รมต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมาริษได้ยื่นหนังสือแจ้งลาออกจากตำแหน่งกรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบของบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.เป็นต้นไป โดยนายกิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) มีหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า นายมาริษได้มีหนังสือลงวันที่ 29 เม.ย.2567 ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบของบริษัท เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว การลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาสรรหาและแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบแทนตำแหน่งที่ว่างลง และบริษัทจะแจ้งให้ตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ถกติดตามเมียนมา-พัฒนา จชต.
จากนั้นเวลา 16.26 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ โพสต์ภาพลงโซเชียลมีเดียส่วนตัว ขณะประชุมร่วมกับ ผบ.ทสส. ผบ.ทบ. เลขาธิการ สมช. และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมระบุว่า ตามติดงานด้านความมั่นคงอัปเดตประเด็นเมียนมา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ทั้งเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยที่อาศัยบริเวณชายแดนเมียนมา รวมถึงชาวเมียนมาที่หนีภัยสู้รบ เข้ามาในไทย และคนเมียนมาที่อยู่อาศัยและทำงานในไทย เน้นย้ำให้ความช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน ส่วนเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ติดตามแนวทางการเพิ่มช่องทางการให้บริการ เพิ่มการเข้าถึงบริการของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย อีก 2 สัปดาห์ นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารายงานความคืบหน้าอีกครั้งกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
“สุริยะ-3 รมต.” แบ่งห้องทำงาน
ขณะที่บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ เริ่มทยอยดูห้องทำงาน ในส่วนของ รมต.ประจำสำนักนายกฯทั้ง 3 คน จะใช้ที่ชั้น 2 ตึกบัญชาการ 1 ได้แก่ น.ส.จิราพร สินธุไพร จะใช้ห้องเดิมของนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่จะแบ่งเป็น 2 ส่วน เป็นห้องทำงานของนายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯ อีกคนด้วย ส่วนนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯใช้ห้องเดิมของตัวเองที่ชั้น 2 ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม จะใช้ห้องเดิมของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ที่ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 โดยทีมงานนายสมศักดิ์ได้เก็บของและเปิดห้องทำงานเพื่ออำลาขอบคุณข้าราชการภายใต้การกำกับไปแล้วเมื่อวันก่อน
“สุทิน” แฮปปี้ไม่ถือเล็กถือน้อย
ช่วงเย็นที่กระทรวงกลาโหม นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีไม่ถูกปรับออกจาก ครม.ว่า เป็นความรู้สึกที่ดี ทำงานไว้แล้วอยากทำต่อให้จบ เหมือนพืชยังไม่งอกเมื่อเราได้อยู่รดน้ำพรวนดินทำจนงอกเป็นเรื่องที่ดี เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ได้เข้าพบนายกฯ เปรยอยู่ว่า จริงๆคนเข้าใจผิด ท่านไม่เคยคิดว่าจะมาเป็น รมว.กลาโหม เป็นการคาดหมายกัน บางคนก็ซ้ำเติมปล่อยข่าวกันไป เมื่อถามว่าหลายคณะกรรมการที่ต้องมีชื่อ รมว.กลาโหม แต่กลับไม่มี และนายกฯยังประสานตรงกับ ผบ.เหล่าทัพ นายสุทินตอบว่า หลายอย่างคงต้องปรับ เมื่อถามว่าติดใจหรือไม่กับการถูกข้ามหัว นายสุทินตอบว่า พยายามมองทุกอย่างในแง่บวกว่าต้องการความเร็วประสิทธิภาพ ไม่ใช่คนถือเล็กถือน้อยอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาทำงานกับทุกคนอยู่แล้ว และทุกสไตล์

แก้กฎกลาโหมสกัด รปห.ได้ไม่ 100%
นายสุทินกล่าวถึงการเสนอแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม และร่าง พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อาจป้องกันการรัฐประหารไม่ได้จริงว่า มันไม่มีอะไรร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่เป็นการสกัดยับยั้ง ลดโอกาสที่จะเกิดลงมันก็ดี ก็ไม่แน่มันอาจจะได้ เพราะเราสกัดดับที่เหตุก่อน ตัดไฟแต่ต้นลม เมื่อถามว่านายกฯได้คอมเมนต์เรื่องนี้หรือไม่ นายสุทินตอบว่า ยังๆ คงรอให้ขั้นตอนไปถึงก่อน ต้องผ่าน ครม. ขณะนี้น่าจะมีประมาณ 4 ร่างของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล กระทรวงกลาโหม และภาคประชาชน อาจแยกพิจารณา หรือมัดรวมแล้วเอาของใครเป็นร่างหลักก็ได้
ทีมงาน “สมศักดิ์” เตรียมสถานที่
ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทีมงานของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เข้ามาดูห้องทำงานที่ชั้น 4 เพื่อเตรียมจัดห้องทำงานต้อนรับนายสมศักดิ์ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ภายหลังจากที่มีการถวายสัตย์ปฏิญาณเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ภายในห้องยังคงว่างเปล่า ป้ายหน้าห้องยังไม่มีการติดชื่อ เพียงแต่แจ้งกับเจ้าหน้าที่ประจำกระทรวงว่าภายในวันนี้จะทยอยขนของเข้ามา ทั้งนี้ ระหว่างที่ทีมงานของนายสมศักดิ์กำลังตรวจสอบสถานที่ นายวัน อยู่บำรุง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าไปพบปะพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับทีมงาน พร้อมเดินชมห้องทำงาน นายวันกล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับนายสมศักดิ์เลย แต่จะโทรศัพท์ไปหาช่วงบ่ายๆ กับนายสมศักดิ์ถือว่าเป็นอา-หลานกันอยู่แล้ว
ขรก.หลั่งน้ำตาอำลา “ปานปรีย์”
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีต รมว.ต่างประเทศ เดินทางเข้ากระทรวงเพื่อเก็บของในห้องทำงาน และอำลาข้าราชการ บรรยากาศการอำลามีข้าราชการมาให้อำลาอย่างอบอุ่น หลายคนถึงกับหลั่งน้ำตา เป็นที่สังเกตว่าที่หลังมือของนายปานปรีย์พบรอยเจาะสายน้ำเกลือติดอยู่ จากการสอบถามนายปานปรีย์เล่าว่า เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อคืน ด้วยอาการอ่อนเพลียจากการทำงานหนักต่อเนื่องหลายเดือน วันนี้มาเก็บของบางส่วนบนโต๊ะทำงาน และไปขอบคุณปลัดกระทรวง ทีมงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้การสนับสนุนการทำงานที่ผ่านมา โดยเฉพาะนโยบายสำคัญของรัฐบาลให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี ใน ระยะเวลาอันสั้น ตนและข้าราชการในกระทรวงผ่านวิกฤติหลายอย่างในช่วงเวลาไม่ยาวนาน
ไม่ห่วงงานคนบัวแก้วเก่งๆทั้งนั้น
เมื่อถามว่าเป็นห่วงและมีอะไรฝากถึงรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่ นายปานปรีย์ตอบว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ไม่เป็นห่วง เพราะข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศมีศักยภาพสูงอยู่แล้ว เชื่อว่ารัฐมนตรีใหม่เข้ามาจะทำงานได้ด้วยดี ไม่มีอะไรน่ากังวล สำหรับการสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ เดินทางไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสแทนตนแล้ว อยู่ในระหว่างการประชุม ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำต่อเนื่อง เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศทำงานเข้มแข็งอยู่แล้ว “วันนี้มาไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ยอมรับว่าตกใจเพราะมีข้าราชการทุกระดับลงมาอำลาเกือบทั้งหมด ได้พูดกับข้าราชการไปว่าเป็นการอำลาชั่วคราวนะ ไม่ได้ไปไหน ยังเรียกใช้งานได้ตลอด หากยังเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็ยินดีช่วยไม่มีปัญหาอะไร”
อัด “ดร.ตั๊ก” ไม่รู้จักอดทนอดกลั้น
ด้านนายครูมานิต สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ว่าไม่ส่งผลกระทบกับพรรคเพื่อไทย นายปานปรีย์อาจเก่งเรื่องวิชาการ แต่ไม่มีคุณสมบัติเป็นนักการเมือง ความอดทนอดกลั้นไม่มี บางฤดูเข้าไปอยู่ในพรรคก็หายไป ตอนที่มีพรรคไทยรักษาชาติก็ไปเดินอยู่ในพรรค พอเขาจะจัดตั้งทีมให้ออกไปช่วยงานการเมือง ก็หายไปอีก ยังมองว่านายเศรษฐาให้เกียรตินายปานปรีย์มาก ที่ให้เป็นรองนายกฯควบ รมว.ต่างประเทศ ครั้งนี้ทราบมาว่านายกฯได้พูดคุยแล้วให้รับหน้าที่อยู่ที่กระทรวง เพราะอยากให้คนอื่นมาทำบ้าง หลายเรื่องต้องมีความผูกพันกับพื้นที่ ซึ่งนายปานปรีย์ไม่เคยรู้จักพื้นที่อยู่แล้ว การที่นายปานปรีย์ได้มารับผิดชอบกระทรวงต่างประเทศถือว่าเป็นตำแหน่งใหญ่โตแล้ว
ไม่มีคุณสมบัติเป็นนักการเมือง
นายครูมานิตย์กล่าวว่า ทราบว่าสื่อมวลชนเห็นหนังสือลาออกก่อนส่งถึงมือนายกฯ ทำแบบนี้ไม่แฟร์ทางการเมือง พิสูจน์ให้เห็นว่าคนแบบนี้ขาดน้ำอดน้ำทนอยู่กับการเมืองลำบาก ในที่สุดก็ต้องอัปเปหิตัวเองออกมา เมื่อถามว่านายปานปรีย์ยังคงทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายครูมานิตย์ตอบว่า ไม่ได้ดูถูกดูแคลน แต่เขาเกิดมาไม่ได้มีคุณสมบัติของการเป็นนักการเมือง การเป็นนักบริหารซีอีโอเป็นได้ แต่ทางการเมืองนอกจากเป็นนักบริหารแล้วต้องมีความเป็นนักการเมืองด้วย ต้องบริหารพื้นที่ บริหาร สส. บริหารราชการแผ่นดิน เรื่องทุกข์สุขปากท้องชาวบ้านมีเยอะ ยืนยันว่าไม่กระทบต่อพรรคเพราะนายปานปรีย์ไม่ใช่คีย์แมนคนสำคัญ คนที่เก่งยังมีอีกเยอะ นายปานปรีย์ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย หลายคนบอกว่าเสียดายนายปานปรีย์ แต่ถามว่าพรรคเพื่อไทยเสียดายไหม ไม่รู้ แต่ส่วนตัวไม่เสียดาย คิดว่า สส.คนอื่นเค้าคงคิดเหมือนกัน “อย่าลืมว่าคุณมาอยู่ตรงนี้ได้เพราะพวกผม จึงสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เป็นรัฐมนตรีเป็นเสนาบดีแต่ไม่มาสัมผัสกับผู้แทน”

เก้าอี้รัฐมนตรีสมบัติผลัดกันชม
ผู้สื่อข่าวถามว่าพูดแบบนี้เหมือนตัดบัวไม่ให้เหลือใย นายครูมานิตย์กล่าวว่า ไม่ได้บอกว่าตัดบัวไม่เหลือใย แต่ที่ผ่านมาแทบไม่มีโอกาสคุยกับนายปานปรีย์ คนเป็นผู้บริหารต้องมีความผูกพันกับนักการเมือง อย่างนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม วันนี้มีนักการเมืองมาหาจำนวนมาก ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อถามถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้วถูกปรับออกจาก รมว.สาธารณสุข ทั้งที่เป็น กำลังสำคัญของพรรค นายครูมานิตย์ตอบว่า นพ.ชลน่านเป็นนักการเมืองมานานเชื่อว่าคงเข้าใจได้ วันหนึ่งอาจได้กลับมาทำหน้าที่อีก อาจมีน้อยใจบ้างเสียใจบ้าง แต่ทางการเมืองมันคือสมบัติผลัดกันชม คนที่มาเล่นการเมืองทุกคนก็มีเป้าจะเป็นเสนาบดีกันทุกคน ถามว่าอยากเป็นไหม เราก็อยากเห็นแสงไฟ ที่ปลายอุโมงค์เหมือนกัน คิดว่าในพรรคเพื่อไทยไม่ได้แตกแยกอะไร
ร้อง กกต.สอบคุณสมบัติ “พิชิต”
ช่วงสายที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธาน ศปปส. เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัตินายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพิชิตกล่าวว่า เห็นว่านายพิชิต ชื่นบาน เคยต้องคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อปี 2551 ให้จำคุก 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา ในคดีถุงขนม 2 ล้านบาท และยังถูกเพิกถอนใบอนุญาตทนายความ จึงเป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (5) ที่กำหนดว่าต้องไม่ประพฤติผิดในจริยธรรมอย่างร้ายแรง อีกทั้งก่อนหน้านี้มีคำพิพากษาศาลฎีกา วางบรรทัดฐานไว้ว่ากรณีประพฤติผิด ทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้นับย้อนหลังก่อนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย จึงเห็นว่านายพิชิตขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จึงมายื่นให้ กกต.นำเรื่องนี้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคท้าย พร้อมแนบคำขอหากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้วินิจฉัย ขอให้มีคำสั่งให้นายพิชิตหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย
ชง ป.ป.ช.ฟันจริยธรรมนายกฯ
นายพิชิตกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังเห็นว่าเมื่อนายกฯมีหน้าที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งก่อน แต่การไม่ตรวจและทูลเกล้าฯถวายรายชื่อผู้ที่มีปัญหาทางจริยธรรมให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เท่ากับว่านายกฯกระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมด้วย จึงเตรียมไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้เอาผิดนายกฯในเรื่องนี้ คาดว่าจะยื่นได้ในสัปดาห์หน้า และจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีรายอื่นเพิ่มเติม หากพบว่าผู้ใดคุณสมบัติไม่ครบถ้วน จะยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบอีกครั้ง
นายกฯยันถามกฤษฎีกาแล้ว
เวลา 15.55 น.ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 3/2567 มีนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมด้วย ถึงกรณีมีการร้องต่อ กกต. ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิชิต และเตรียมร้อง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบวินัยร้ายแรงนายกฯ ที่เป็นผู้เสนอชื่อว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่ก่อนจะมีการเสนอชื่อได้ส่งรายชื่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบแล้ว เมื่อถามว่ามั่นใจในข้อกฎหมายเรื่องคุณสมบัติของนายพิชิตใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า ได้ถามคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว มั่นใจ
รมว.กต.คนใหม่ขอรอโปรดเกล้าฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเชิญรัฐมนตรีใหม่หลายคนเข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ได้มอบนโยบายหรือกำชับการทำงานอย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า ยังไม่ได้มอบหมายงานอะไร การพูดคุยกันวันนี้เป็นการพูดคุยกันธรรมดา เมื่อถามว่าเรียกนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ที่ถูกคาดหมายว่าจะได้เป็น รมว.ต่างประเทศมาพูดคุยด้วย นายเศรษฐาตอบว่า นายมาริษมาเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะเป็นที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ติดตามตนเดินทางไปต่างประเทศทุกเวทีอยู่แล้ว และช่วงกลางเดือน พ.ค.มีภารกิจต้องเดินทางไปอิตาลี แต่จะแวะที่ฝรั่งเศสด้วย 1 วัน จึงมีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว เมื่อถามว่านายมาริษคือบุคคลที่จะให้มาเป็น รมว.ต่างประเทศหรือไม่ นายกฯยิ้มและตอบว่า “เดี๋ยวมีการโปรดเกล้าฯลงมาก็จะทราบกันเอง” เมื่อถามว่าแสดงว่านำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯแล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวย้ำว่า เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ แล้วจะทราบกันเองขอให้เป็นไปตามขั้นตอน

“อิ๊งค์” ตั้งทีมคุมสนาม กทม.เอง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ลงนามคำสั่งพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่งตั้งคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบการดำเนินงานของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรค เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ในสภากรุงเทพมหานคร และการปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายและแนวทางของพรรคอาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 63 (7) คณะกรรมการชุดดังกล่าวมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้ 1.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานกรรมการ 2.นายจักรพงษ์ แสงมณี รองประธานกรรมการ 3.นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ 4.นายดนุพร ปุณณกันต์ 5.น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ เป็นกรรมการ และ 6.นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ติดตามและให้คำแนะนำการปฏิบัติงาน การลงพื้นที่ดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชน รับฟังข้อเสนอและความคิดเห็นของ ส.ก. เพื่อร่วมกันพิจารณากำหนดแผนและแนวทางการปฏิบัติงานในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ ส.ก. และประเมินผลการปฏิบัติงานของ ส.ก.ของพรรค เพื่อเสนอให้คณะกรรมการบริหารพรรครับทราบ
เมิน กกต. “ธนาธร” ลุยชวนลง สว.
ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตือนไม่ควรเชิญชวนคนมาลงสมัคร สว.ว่า เพิ่งเดินทางกลับมาจากลงพื้นที่ภาคอีสาน ที่ จ.หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร มุกดาหาร มีผู้ตอบรับ ดีมาก สนใจจะลงสมัคร สว.อิสระจำนวนมาก ดีใจที่การรณรงค์คณะก้าวหน้า ทำให้ประชาชนตื่นตัวและเข้าใจการเลือก สว.มากขึ้น การรณรงค์ให้คนทุกอุดมการณ์สมัคร สว.มากเท่าใด การเลือก สว.จะดีมากขึ้นเท่านั้น ขอเชิญชวนทุกคนหากมีคุณสมบัติให้ไปลงสมัคร สว. การรณรงค์ของเราไม่ต้องการให้ สว.เลือกฝ่าย แต่ต้องการได้ สว.เป็นกลาง ได้ กกต.ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นธรรม คืนความยุติธรรมให้สังคม ไม่ต้องการได้ กกต. ป.ป.ช.สีส้ม ถ้าองค์กรเหล่านี้สนับสนุนพวกเราจะมีปรากฏการณ์ลงถนนกันอีก ดังนั้น กกต.ควรสนับสนุนการเชิญชวนมาเลือก สว. เป็นหน้าที่ กกต.ทำให้ประชาชนตื่นตัวเข้ามามีส่วนร่วม อย่างที่ตนทำอยู่เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบการเมืองไทย อยากให้มองบทบาทพวกตนทำให้คนตื่นตัวทางการเมือง
เฉ่งคิดแค่สนองใบสั่งผู้มีอำนาจ
เมื่อถามว่ามีคนไปยื่นร้ององค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญให้ตรวจสอบกติกาการเลือก สว. จะทำให้การเลือก สว.สะดุดหรือไม่ นายธนาธรตอบว่า ไม่ใช่เรื่องของเรา หน้าที่เราคือรณรงค์ให้คนตระหนักถึงการเลือก สว. จะมีส่วนพัฒนาการเมืองไทย ฟื้นฟูประชาธิปไตย เช่น แก้รัฐธรรมนูญ การแต่งตั้งองค์กรอิสระอย่างเป็นธรรม ทำหน้าที่เที่ยงตรง ไม่รับใบสั่งการเมือง ไม่ 2 มาตรฐาน ก็อยู่ที่ สว.ชุดถัดไป ระเบียบเลือกตั้ง สว.ของ กกต.ที่ออกมาสัปดาห์ที่แล้ว อนุมานได้หมายถึงไอลอว์และเว็บไซต์ Senate 67.com ที่ประสงค์ให้คนลงสมัคร สว.มีพื้นที่ประกาศเจตนารมณ์ตัวเอง ยังนึกไม่ออกเหตุใด กกต.ต้องการปิดเว็บไซต์นี้หรือห้ามคนรณรงค์ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลต่างๆ คิดได้อย่างเดียวว่าผู้มีอำนาจต้องการเลือก สว.แบบเงียบๆทำกันไม่กี่คนเหมือนครั้งที่แล้วก็จะได้ สว.ที่เป็นพวกพ้องที่จัดตั้งมา ไม่มี สว.คุณภาพ
ว่าที่ผู้สมัครร้องศาล ปค.ระงับข้อห้าม
นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะผู้ประสงค์จะลงสมัคร สว.พร้อมคณะ ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางขอให้พิจารณาเพิกถอนระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 และขอไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้มีคำสั่งระงับการบังคับใช้ระเบียบฯดังกล่าวไว้ก่อน นายพนัสกล่าวว่า อยากให้ศาลปกครองวินิจฉัยเรื่องการแนะนำตัวผู้สมัคร โดยเฉพาะระเบียบ กกต.ข้อที่ 7, 8 และข้อ 11 ห้ามการแนะนำตัวผ่านสื่อทุกชนิด รวมถึงโซเชียลมีเดีย เราคิดว่า กกต.ไม่มีอำนาจมากำหนดและจำกัดสิทธิการแนะนำตัวผู้สมัคร ระเบียบที่ออกมาจำกัดสิทธิพวกเรามากเกินไป ตามรัฐธรรมนูญ สว.ต้องเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ยิ่งศาลไต่สวนเร็วเท่าไหร่ได้ยิ่งดี ตนอาจเป็นคนแรกๆที่แนะนำตัวผ่านเฟซบุ๊กว่าตั้งใจจะลงสมัคร สว. พอมีระเบียบนี้มันเป็นประเด็นว่า จะทำสิ่งนี้ได้มากน้อยแค่ไหน เราต้องการให้สิ่งนี้ชัดเจนขึ้น มองว่า กกต.ไม่น่าจะมีอำนาจกำหนดเงื่อนไขการแนะนำตัวได้แคบถึงเป็นระบบปิด กลายเป็นว่าการจะมี สว. 200 คน ประชาชนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่น่าถูกต้องกับหลักประชาธิปไตย
ซัด กกต.จ้องเก็บข้อมูลข่มขู่ชัด
เมื่อถามว่าที่ กกต.ระบุว่าได้เก็บข้อมูลผู้ประสงค์ลงสมัครในเว็บไซต์ Senate 67 และพร้อมเอาผิด นายพนัสตอบว่า เป็นการข่มขู่ชัดเจน โดยเฉพาะ กกต.ไม่ได้บอกว่ามีอำนาจอะไรที่สามารถดำเนินการอย่างนั้น เห็นว่าสามารถแนะนำตัวผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวได้ เพียงแต่ห้ามชี้นำหรือฮั้วกัน ที่น่าเป็นห่วงคือ มาตรา 36 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. กำหนดโทษไว้ว่า ถ้ากระทำผิดเงื่อนไขหรือวิธีการที่ กกต.กำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงเพิกถอนสิทธิ เลือกตั้ง 5 ปี ดังนั้น ต้องพิจารณาให้ดีว่าถึงขนาดว่า ถ้าทำผิดเงื่อนไขพวกเราต้องติดคุกเป็นปี และถูกตัดสิทธิทางการเมือง หรือสิ่งที่เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ควรมีโทษมากขนาดนี้ เพราะการแนะนำตัวได้ต้องมีการออกสื่อ ดังนั้นหากจะผิดควรผิดไปถึงสื่อมวลชน
ห่วงผู้สมัครสายสื่อเสี่ยงผิด ก.ม.
น.ส.ชลณัฏฐ์ โกยกุล ผู้ประสงค์รับเลือกเป็น สว. กล่าวว่า ตัวระเบียบ และกฎหมายขัดแย้งกัน ถ้าผู้สมัครหาเสียงแนะนำตัวกับประชาชนทั่วไปไม่ได้ เกิดคำถามว่า ในการดำเนินการจะแยกอย่างไรว่าใครเป็นผู้สมัครบ้าง โดยเฉพาะ www. senate67.com ถูก กกต.สั่งปิด กกต.ข่มขู่ให้เอาลง ยืนยันว่ากลุ่มที่แสดงเจตจำนงสมัครไม่ได้มีสี ไม่ว่าจะส้มหรือสีใดก็ตาม ขอย้ำถึงความเป็นอิสระ แต่หากหลักการอุดมการณ์ ในการทำหน้าที่ไปตรงกับกลุ่มพรรคการเมืองใด ไม่ใช่เรื่องแปลก นอกจากนี้ยังห่วงการทำหน้าที่นำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ด้วยระเบียบที่ซับซ้อนและมีข้อจำกัด โดยเฉพาะผู้เตรียมสมัคร สว.ที่เป็นผู้ประกาศข่าวหรือเป็นผู้ก่อตั้งสำนักข่าว ที่มีข้อห้ามว่าไม่ให้ผู้สมัครให้สัมภาษณ์ออกสื่อ ทำให้สุ่มเสี่ยงฝ่าฝืนระเบียบ ถูกตัดสิทธิการสมัคร แต่กฎหมายไม่ได้ระบุฐานความผิดไว้ว่าขัดต่อมาตราใด
ไอลอว์ยันตั้งเว็บไซต์ช่วยงาน กกต.
ขณะที่นายยิ่งชีพ อัชชานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กล่าวว่า ไอลอว์ตั้งใจทำเว็บไซต์ senate67.com ช่วย กกต.ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกติกาการเลือก สว. และข้อมูลผู้สมัคร สว.ว่ามีใครบ้าง เพื่อให้ผู้สมัครมีพื้นที่ออกสื่อสาธารณะได้อย่างเท่าเทียม ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผู้สมัคร แต่ระเบียบของ กกต.ที่ออกมา ไม่มีความชัดเจนว่าสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้ อะไรที่กฎหมายไม่ได้สั่งห้ามก่อนหน้านี้ในเว็บไซต์สามารถทำได้ แต่หลายคนที่ให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ดังกล่าวกังวลว่าจะถูก กกต.ตีความเป็นความผิด ทำให้ไอลอว์ตัดสินใจนำข้อมูลทั้งหมดออกไว้ก่อน หลังจากนี้อีก 1-2 วัน หากศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระบบจะกลับมาให้มีฟังก์ชันตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร สว. และยืนยันว่าข้อมูลผู้ที่จะลงสมัคร สว.ทั้ง 1,300 กว่าคน ยังเก็บอยู่ในชั้นความลับ ไม่มีการจัดตั้ง หรือเข้าถึงข้อมูลได้

ภท.สั่งห้ามแกนนำ-สส.พัวพัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกประกาศพรรค ภท. ห้ามกระทำการโดยวิธีการใดๆในการเลือก สว.ว่า ตามกฎหมายเลือกตั้งห้ามกรรมการบริหารพรรค หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นใดในพรรค สส. กระทำอันเป็นการช่วยเหลือ หรือทำให้ผู้สมัครใดไม่ได้รับเลือก จึงประกาศให้ตำแหน่งข้างต้น รวมถึง สส.ทุกคนในพรรคปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
รบ.จัดงานสโมสรสันนิบาต 4 พ.ค.
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมจัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคลในวันที่ 4 พ.ค. เวลา 19.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เป็นประธานฯ ทั้งนี้ รัฐบาลได้เชิญคณะองคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ คณะรัฐมนตรี องค์กรตามรัฐธรรมนูญ สส. สว. หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ข้าราชการทหาร-ตำรวจระดับ พล.อ.ขึ้นไป ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง เอกอัครราชทูต กงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศต่างๆ ประจำประเทศไทย กงสุลอาชีพ องค์การระหว่างประเทศภายใต้องค์การสหประชาชาติ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย และประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย พร้อมคู่สมรส เข้าร่วม
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่