ผู้อ่านทุกท่านน่าจะได้เห็นโฉมหน้า ครม.ชุดใหม่ของ “เศรษฐา 2” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะชอบหรือไม่ และถูกฝาถูกตัวอย่างไร อยู่ที่มุมมอง และผลงานที่จะออกมาในอนาคต
ก็เหมือนกับผลงานที่รัฐมนตรีหลายคนทำมาในช่วง 8 เดือนกว่า จนได้รับการปูนบำเหน็จรางวัลกันไป
ส่วนเรื่องของ ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร ซึ่งยื่นใบลาออกต่อนายกฯเศรษฐา หลังถูกปรับออกจากตำแหน่งรองนายกฯ คงเหลือแต่ตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น
ด้วยเหตุผลก็เพราะ สองตำแหน่งควรต้องอยู่ควบคู่ไปด้วยกัน คือ ทั้งรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นเกียรติ และศักดิ์ศรี เสมอกับประเทศอื่นๆที่ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และเจรจาการค้าระหว่างกัน
ในใบลาออกของเขาระบุชัดว่า การปรับเขาออกจากรองนายกฯคงไม่ใช่เพราะเขาไม่มีผลงานแน่ๆ เพราะตลอดช่วงเวลาที่เข้ามาร่วมงานกับ ครม.เศรษฐา 1 เขาทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และที่ผ่านมาก็มีนักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศมากตามที่รัฐบาลแถลงผลงานไปแล้ว
นั่นก็สามารถตอบสนองนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกได้อย่างเด่นชัด จนประเทศไทยหวนกลับมาอยู่บนจอเรดาร์โลกได้อีกครั้ง
งานที่อดีตรองนายกฯ และ รมว.กต.บอกกับมิตรสหายว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเขาก็คือ ความพยายามช่วยชีวิตแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันในอิสราเอลให้ปลอดภัย และนำกลับบ้านได้ถึง 23 คน รวมแรงงานไทยจากที่เดียวกันอีก 8,000 คน และจากเล้าก์ก่ายในเมียนมาอีก 1,000 คนด้วย
ตอนที่เครื่องบินกองทัพอากาศแตะพื้นแผ่นดินไทย ทยอยนำแรงงานไทยกลับมาหาพ่อแม่ และครอบครัวสำเร็จ ดร.ปานปรีย์ไปรับคนเหล่านี้ด้วยตัวเอง เสียงของเขาสั่นเครือ เมื่อได้โอบกอดแรงงานไทยที่เขาช่วยเหลือมาได้สำเร็จ
...
ดร.ปานปรีย์ อาจจะดูเป็นคนนิ่งสงบ ถ่อมตัว พูดไม่ค่อยเก่ง และถอย 1 ก้าวให้แก่นายกฯเสมอ แต่เรื่องของงาน เขาช่วยให้นายกฯเปิดใช้วีซ่าฟรีกับหลายประเทศเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวได้สำเร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว
ยังมีวาระการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมา การฟื้นสัมพันธ์กับอาเซียน สหภาพยุโรป อินเดีย และประเทศมหาอำนาจทั้งสหรัฐอเมริกา และจีน จนทำให้เกิดการเจรจาเพื่อลดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โลกให้แก่ประเทศไทยด้วย และสิ่งที่เขาจะไม่ลดราวาศอกให้ใครก็คือ เรื่องของความไม่ถูกต้อง
มาถึงตรงนี้ แม้นายกฯเศรษฐาจะบอกกับสื่อทำเนียบฯ ว่า ได้ขอโทษ ดร.ปานปรีย์ที่ไม่ได้บอกให้รับรู้ชัดเจนเรื่องการปรับ ครม.ชุดใหม่แล้ว
แต่ มิสไฟน์ ก็ยังเชื่อว่า นายกฯเศรษฐาคงหนักใจไม่น้อย ถ้าต้องหาคนอื่นมาแทนที่เขา เพราะไม่ง่ายที่จะได้คนที่ทำงานได้รวดเร็ว ราบรื่น สุจริต โปร่งใส และไว้วางใจได้ 100% เมื่อเทียบกับนักการเมืองทั้งในพรรค และนอกพรรค
มีตัวอย่างเป็นร้อยๆที่พวกประจบสอพลอ เดินล้อมหน้าล้อมหลัง ได้ดิบได้ดีจนกลายเป็นผู้ชนะในทุกเรื่อง ขณะที่พวกทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นนอตถูกฝังอยู่ในอนุสาวรีย์เล็กๆที่ไม่มีใครจดจำ!
มิสไฟน์
อ่านคอลัมน์ "กระจก 8 หน้า" ทั้งหมดที่นี่