“อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” ชี้ เป็นสิทธิแต่ละสำนักโพลทำผลสำรวจ หลังนิด้าโพลบอกเลือกตั้งครั้งหน้า “เพื่อไทย” ไม่ชนะ เชื่อ งบประมาณคลอด-นโยบายทยอยออก-ทำสำเร็จ เรียกความเชื่อมั่น ประชาชนกลับคืนมาได้

วันที่ 22 เมษายน 2567 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลสำรวจนิด้าโพล ที่ระบุว่าเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนไม่เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีผลต่อคะแนนนิยมพรรค พท. และไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งสมัยหน้า พรรค พท.จะชนะการเลือกตั้ง ว่า เป็นเรื่องของผลโพลที่แต่ละสำนัก แต่ละสถาบันมีสิทธิที่จะไปเก็บตัวอย่าง รวบรวมวิเคราะห์ ประเมินและนำเสนอ แต่ถึงขณะนี้ตั้งแต่ที่รัฐบาลเข้ามาทำงานก็ไม่ได้มีฮันนีมูน รัฐบาลเข้ามาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำงานโดยไม่มีวันพัก และก่อนหน้านี้ ก็มีการใช้งบประมาณไปพลางก่อน 

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นการจะไปผลักดันการลงทุนใหม่ๆ หรือโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต้องยอมรับว่ายังไม่สามารถทำได้ ซึ่งทำให้ประชาชนอาจจะยังสัมผัสไม่ได้ว่าการทำงานของรัฐบาลตอนมีงบประมาณแล้วเป็นอย่างไร แต่เมื่องบประมาณผ่านรัฐสภาแล้ว ตนเชื่อมั่นว่าหลายเรื่องที่รัฐบาลทำ ประชาชนจะได้สัมผัสและได้รับผลประโยชน์ และหากวันนั้นมีการทำโพลก็จะเห็นชัดเจน แต่วันนี้ต้องยอมรับว่าเป็นการบริหารขณะที่งบประมาณยังไม่ผ่าน 

“แต่หลังจากนี้ก็ถือว่ารัฐบาลมีงบประมาณแล้ว ซึ่งด้วยความที่งบประมาณปี 2567 มีความล่าช้าแล้ว เราก็จะต้องทำให้งบประมาณปี 2568 มีความทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ เมื่องบประมาณปี 2567 ออกและงบประมาณปี 2568 มา และนโยบายเรือธงต่างๆ ทยอยมา เช่น เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ดิจิทัลวอลเล็ตที่จะมาในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ผมเชื่อว่าประชาชนจะสัมผัสได้ แต่ที่เราพูดไม่ได้หมายความว่าเรานิ่งนอนใจ แต่หมายความว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ครบสี่ปี แล้วผลงานก็จะทยอยออกมาเรื่อยๆ” นายอนุสรณ์ กล่าว

...

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า เมื่อผลงานทยอยออกมาเรื่อยๆ การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ไม่มีใครทำอะไรที่เสียหาย แต่เป็นการปรับเปลี่ยนให้บุคคลที่มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ ปรับรัฐมนตรีให้เข้ากับกระทรวง จึงเชื่อว่าจะบรรจบกันพอดี ทั้งงบประมาณใหม่ก็กำลังจะมา การปรับโครงสร้าง ปรับผู้บริหาร การจัดทำนโยบาย และการปรับนโยบายของพรรค พท.ไปเป็นนโยบายของรัฐบาลผ่านงบประมาณปี 2568 ก็จะยิ่งชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม เราน้อมรับสำนักโพลต่างๆ ซึ่งก็เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเชื่อมั่นว่าในระยะต่อไปนโยบายของรัฐบาลก็จะเห็นผลชัดเจนมากขึ้น

เมื่อถามว่า หากผลงานของรัฐบาลเป็นที่ประจักษ์มากขึ้น มั่นใจหรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรค พท.จะพลิกกลับมาชนะเป็นพรรคอันดับหนึ่งได้ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า แม้แต่นักวิเคราะห์ที่อาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับพรรค พท. ก็บอกว่าโจทย์ของพรรค พท. คือหากสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ มีมาตรการที่สามารถขับเคลื่อนปัจจัยเศรษฐกิจได้ วันนั้นประชาชนก็จะมีคะแนนนิยม มีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลมากขึ้น วันนี้เราไม่อยากใช้คำว่าเร็วเกินไปแต่ที่ผ่านมาเรายังไม่มีงบประมาณ แต่เชื่อมั่นว่าหากมีงบประมาณนโยบายจะดีขึ้นและจะเห็นผลงานชัดเจนขึ้นแน่นอน