“สุทิน” พอใจผลงาน 7 เดือนนั่ง รมว.กลาโหม ไม่คิดมากหากถูกปรับ ครม. เชื่อใครมาเป็นต่อก็สานงานได้ มองไม่โหด ใช้ KPI วัดผลงาน 7 เดือน ยัน ไม่คิดย้ายพรรค ยังอยู่เพื่อไทย

วันที่ 19 เมษายน 2567 นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงเวลา 7 เดือนกว่าที่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจผลงาน แต่ยังไม่พอใจเต็ม 100 เพราะหลายเรื่องยังไม่ออกมา ซึ่งก็เป็นขั้นตอนของการเริ่มต้น ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นเรื่องปกติ อย่าไปคิดอะไรมาก วันนี้ก็ทำงาน ที่ข่าวออกมาเพราะกระทรวงนี้เป็นที่น่าสนใจ 

ขณะที่นายกรัฐมนตรีจะมานั่งควบกระทรวงกลาโหมหรือไม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นกัปตันทีม จะเปลี่ยนตำแหน่งหรือสลับตำแหน่งผู้เล่นก็ทำได้ เป้าหมายคือต้องได้ประตูต้องชนะ สำหรับตนเองก็ไม่มีปัญหา และหากนายกรัฐมนตรีมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชื่อว่านโยบายหลายอย่างที่ยังทำไม่สำเร็จ นายกรัฐมนตรีก็จะทำต่อ และที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นนโยบายของรัฐบาล ใครมาอยู่กระทรวงกลาโหมถ้ามาจากพรรคเพื่อไทยก็ต้องทำต่อ ไม่มีปัญหา 

...

ทั้งนี้ หากจะถูกปรับเปลี่ยนหลังทำงานได้เพียงแค่ 7 เดือนกว่า เพราะเพิ่งปรับตัวและเข้าใจระบบการทำงานของราชการ นายสุทิน ระบุว่า ส่วนตัวรู้สึกเสียดาย อยากจะใช้เวลาพิสูจน์ว่าพลเรือนก็เป็นรัฐมนตรีที่ดีได้ นักการเมืองก็มีวุฒิภาวะพอที่จะรับผิดชอบงานความมั่นคงได้ เสียดายตรงนี้นิดเดียว ส่วนเรื่องอื่นไม่เสียดายเพราะใครมาก็ทำต่อได้ หากนายกรัฐมนตรีมากำกับดูแลเอง มีอำนาจสมบูรณ์อยู่แล้ว ก็จะทำได้ดีอยู่ 

“ระยะเวลา 7 เดือนกว่าในการเข้ามาทำงาน จะน้อยใจหรือไม่ก็อยู่ที่เกณฑ์การวัดแต่ละช่วงเวลาว่า 6 เดือนทำได้เท่านี้ก็ดีแล้ว 10 เดือนต้องทำแบบนี้ หรือ 2 ปีต้องทำแบบนี้ สำหรับ 7 เดือนก็วัด 7 เดือน ถ้า 7 เดือนตนเองทำได้แค่นี้ ประมาณนี้ ก็พอใจ มันอยู่ที่เกณฑ์ ที่เอาเวลาเป็นเกณฑ์วัด ซึ่งตนเองไม่ได้มีปัญหา ที่นายกรัฐมนตรีจะใช้ KPI นี้วัด และไม่โหดเกินไป เพราะในอดีตก็ยังมีคนที่เข้ามาทำงานเป็นรัฐมนตรี 2 เดือนและถูกปรับออก นายกรัฐมนตรีประเทศไทยได้เป็น 16 วัน ยังมีเลย 2 เดือนยังมีนายกรัฐมนตรีด้วย อย่าว่าแต่รัฐมนตรี ไม่เป็นไร บ้านเมืองเราเป็นแบบนี้”

นอกจากนี้ นายสุทิน กล่าวอีกว่า ยังไม่เห็นรัฐมนตรีที่มีชื่อออกมาแสดงท่าทีที่จะทำให้เกิดปัญหา ทุกคนก็ให้เกียรตินายกรัฐมนตรี และให้เกียรติพรรค ถ้าทุกคนออกมาแสดงท่าทีโวยวายหรือไม่ให้เกียรตินายกรัฐมนตรีหรือพรรค อันนั้นจะน่าห่วงมากกว่า แต่วันนี้ทุกคนมีท่าทีที่จะให้ความร่วมมือ 

อย่างไรก็ตาม นายสุทิน ยังย้ำด้วยว่า แม้ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ก็ยังอยู่พรรคเพื่อไทย และการจะอยู่ก็ต้องสมัครใจให้อยู่ทั้ง 2 ฝ่าย หากตนเองจะย้ายพรรคก็คงย้ายนานแล้ว เพราะก่อนหน้ามีเหตุการณ์ที่หนักกว่านี้ที่ควรจะย้ายพรรค ตนผ่านมาเยอะแต่ก็ไม่ย้าย ขณะเดียวกันเชื่อว่าหลายโครงการหากคนที่เข้ามาบริหารใหม่ก็ทำต่อได้ และแม้ตัวเองไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ไปอยู่ในฐานะอื่น ก็จะช่วย.