"ชัยธวัช" นำทีมก้าวไกล เล่นน้ำสงกรานต์เชียงใหม่ ปัด มาชน "ทักษิณ" ชี้ ใครก็มาได้ ไม่กังวลกลับมาเชียงใหม่บ่อย จะเสียคะแนนให้พรรคเพื่อไทย ขณะ "ศิริกัญญา" ชี้ ดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องถูกที่ถูกเวลาด้วย   

วันที่ 13 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวาน (12 เม.ย.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มาเยือนที่เชียงใหม่ในช่วงเวลาสั้นๆ วันนี้ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค นายพริษฐ์ วัชรสินธุ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ และ สส.เชียงใหม่ทั้ง 7 เขต ร่วมประเพณีปี๋ใหม่เมือง ร่วมขบวนแห่จากสถานีรถไฟเชียงใหม่ มาที่จวนผู้ว่าฯ และร่วมสาดน้ำที่ประตูท่าแพ

นายชัยธวัช บอกว่า มาลงพื้นที่ในช่วงสงกรานต์เล่นน้ำตั้งแต่ลำปาง ลำพูน จนมาถึงเชียงใหม่ ส่วนวันพรุ่งนี้จะไปเชียงรายต่อ ถือเป็นประเพณีสำคัญของชาวเหนือ ส่วนที่มา เชียงใหม่ วันเดียวกันกับ นายทักษิณ มองเป็นเรื่องธรรมดา เพราะนายทักษิณก็เป็นคนเชียงใหม่ ไม่ได้มีวาระทางการเมืองอะไร สงกรานต์ก็เป็นประเพณีไทย มาครั้งนี้ ก็ตั้งใจมาดูเรื่อง สถานการณ์อย่างอื่นด้วยรวมถึง PM 2.5 แต่ดูวันนี้สถานการณ์ฝุ่นก็ยังไม่ได้ดีขึ้น ยังน่าเป็นห่วง พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจจะมาเช็กกระแส เพราะมาทุกปีอยู่แล้ว ปีนี้ก้าวไกลมี สส. 7 เขต ที่เชียงใหม่และภาคเหนือตอนบนเกือบทุกจังหวัด ก็ต้องมาเป็นเรื่องปกติ มาแล้วก็ได้รับกำลังใจจากประชาชนทุกจังหวัดอย่างล้นหลาม

...

นายชัยธวัช ยังย้ำว่า ไม่ได้ห่วงพื้นที่เชียงใหม่ เพราะรับไม้ต่อมาจากนายพิธา แต่เพราะมีภารกิจที่ภาคอีสานจึงแบ่งกันทำหน้าที่ ตนเองลงพื้นที่ภาคเหนือ ไม่ได้มีเรื่องอย่างอื่นส่วนจะป้องกันแชมป์ในจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่นั้นหากพื้นที่ไหน ที่ประชาชนไว้วางใจเลือก สส.ก้าวไกล เราก็ต้องทำงานให้หนักเพื่อรักษาแชมป์ แต่ทำงานให้คุ้มกับความไว้วางใจของประชาชน และไม่กังวลการที่นายทักษิณกลับมาเชียงใหม่บ่อย จะเสียคะแนนไปให้พรรคเพื่อไทย เพราะเชื่อว่า อยู่ที่ตัวเราเองว่า ทำแบบไหนก็ได้แบบนั้น

ขณะนางสาวศิริกัญญา กล่าวถึง โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต หลังนายทักษิณออกปากเอ่ยในวันนี้และไม่ห่วงที่คนวิจารณ์กันมากมาย โดยบอกว่า อยากให้รัฐบาลเตรียมแผนการไว้ ให้ละเอียดมีไทม์ไลน์ชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจเพราะจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้หัวใจ คือ การสร้างความเชื่อมั่น คนถึงจะออกมาจับจ่ายใช้สอย แต่เมื่อไรที่มีความกังวล คนก็จะลังเลที่จะออกมาใช้จ่าย จนไปเก็บออมมากกว่ามาจับจ่าย การกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจะไม่เป็นผล ยิ่งนายทักษิณ เป็นห่วง ก็จะทำให้รัฐบาลยิ่งต้องทำงานหนักขึ้น วางแผนให้ชัดเจนขึ้น ส่วนเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือไม่ หากอัดเม็ดเงิน 5 แสนล้านบาทลงไป ยังไงเสียเศรษฐกิจก็ต้องดีขึ้นแน่นอนแต่จะดีขึ้นแค่ไหนต้องติดตามดู ก้าวไกลไม่ห่วงว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแค่ไหน แต่จะดีขึ้นแค่ไหนหรือใช้เวลานานแค่ไหนต่างหากที่เป็น และนโยบายนี้ก็เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทยหากหมดจากนโยบายนี้ไป ก็จำไม่ได้แล้วว่ามีอันไหนที่เป็นนโยบายเรือธงต่อจากนี้อีก เมื่อตอนหาเสียง เชื่อว่าทุกคนก็มีความคาดหวังมากที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจแต่อยากให้มีมาตรการที่ถูกที่ ถูกเวลา ไม่ใช่ต้องรออีกหกเดือนแต่อาจจะมีมาตรการอย่างอื่นที่กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีรับลูกจะให้กฤษฎีกาตรวจสอบ ถึงแหล่งที่มาของเงินในส่วนของ ธ.ก.ส. ก็เป็นนิมิตหมายที่ดีเมื่อประชาชนมีความกังวล นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ละเลยทำตามที่ประชาชนทวงถาม