“นายกฯ นิด” ชี้แจงแล้ว เมียนมานำเครื่องบินลงจอดสนามบินแม่สอด เผย ขออนุญาตถูกต้อง ไม่ได้ขนอาวุธหรือกำลังพล ลั่น ไทยให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ความปลอดภัย และหวังให้เกิดความสงบ
เมื่อเวลา 12.35 น. วันที่ 8 เมษายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เครื่องบินโดยสารจากเมียนมาจำนวน 1 ลำ ได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด จ.ตาก ก่อนบินกลับประเทศเวลา 22.00 น. ของวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า ได้รับรายงานจาก นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่นายจักรพงษ์ ได้ชี้แจงไปว่า เป็นการขนย้ายพลเรือนตามปกติ ไม่ได้มีการขนส่งทางการทหาร และมีการขออนุมัติอย่างถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่าง ไม่ได้เป็นการขนอาวุธหรือทหาร
ผู้สื่อข่าวถามย้ำ กระทรวงกลาโหมของไทยได้มีการประสานกันอย่างถูกต้องตามขั้นตอนแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (9 เมษายน 2567) เรื่องนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ส่วนเรื่องใหญ่ที่เรียกประชุมคือเรื่องภายในเมียนมา จึงได้เชิญ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก รวมทั้งที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกำหนดทิศทางให้ไปในทิศทางเดียวกัน
...
ส่วนที่ไทยและเมียนมามีชายแดนติดต่อกันยาว ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับหากมีประชาชนจากฝั่งเมียนมาทะลักเข้ามาในประเทศไทยจากการสู้รบหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีการบริหารจัดการที่เป็นเอกภาพ ชายแดนไทย-เมียนมา มีเขตติดต่อกันประมาณ 2,000 กิโลเมตร อีกทั้งเมียนมาเองก็มีประชากรเกือบ 70 ล้านคนเท่ากับเรา ความประสงค์ของรัฐบาลไทยมีความชัดเจนว่าอยากให้เมียนมาเกิดความสงบ เป็นหนึ่งเดียวกัน ก้าวหน้าไปและเจริญเติบโตก้าวหน้าไปตามศักยภาพที่มี อยากให้เกิดสันติภาพ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ไทยอยากให้มีสันติภาพเกิดขึ้นในเมียนมา
เมื่อถามย้ำอีกว่าหากมีการทะลักเข้ามาของเมียนมา แผนรองรับคืออะไร นายเศรษฐา ตอบว่า ขณะนี้ยังไม่การทะลักเข้ามา และที่ได้รับรายงานที่เข้ามาแล้วก็ยังไม่มีปัญหาอะไร ส่วนประเด็นว่าที่ผ่านมาไทยถูกมองเรื่องของสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการส่งกลับผู้อพยพ เรื่องนี้มีแผนเตรียมการไว้อย่างไรบ้างนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อย่าเพิ่งไปคาดเดาเพราะยังไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ให้ความสำคัญกับเรื่องความสงบ และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายจักรพงษ์ ได้โพสต์ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า “เรื่องเครื่องบินเมียนมาที่เป็นข่าว ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นเรื่องการขอนำเครื่องบินพลเรือนมาลงเพื่อขนสิ่งของพลเรือน ไม่ได้มีการขนกำลังทหาร หรืออาวุธ หรือการขอลี้ภัยตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด เป็นเรื่องคำขอทางการทูตเพื่อนำเครื่องบินพลเรือนมาขนย้ายสิ่งของทางการทูต ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติครับ”