สภาฯเดือดปุด “เศรษฐา-ชวน” ปะทะคารมเดือด “นายหัวชวน” เบรกรัฐบาลตีขลุมเคลมผลงานดันราคายางพุ่ง ขุดอดีต “ทักษิณ” เลือกปฏิบัติ เมินไม่ดูแลจังหวัดไม่เลือก “ไทยรักไทย” แขวะรัฐบาลละเลยกฎกติกาเอื้อช่วยเหลือนักโทษนิรนาม “นายกฯ” ฟาดกลับเลิกใช้มุกเดิมๆ ด้อยค่าพรรคอื่น ก่อน สส.ไหลไม่เหลือ จะไม่เหลือพื้นที่ในสภาฯ มั่นใจ 4 ปีประเทศเจริญมากกว่ารัฐบาลอื่นเคยทำมา “ชวน” กรีดกลับนายกฯลงใต้นิดหน่อยอย่ามาทวงบุญคุณ ยก ปชป.อยู่มานาน ไม่รับใช้พวกโกงบ้านโกงเมือง ก.ก.ดาหน้าถล่มรัฐบาลสมยอมกองทัพ “วิโรจน์” ฉะเกณฑ์ทหารขุมทรัพย์นายพล ขายใบสด.43 ปลอมปีละ 3 พันล้าน เล่นละครตบตาเฉือนที่ทหารให้ชาวบ้านทำกิน “ชยพล” ปูดจ่อใช้พื้นที่ทร.ผุดกาสิโน “เศรษฐา” ย้ำมีฝ่ายค้านขอร่วมรัฐบาล แต่ 314 เสียงพอแล้ว “ชัยชนะ” ท้าเปิดชื่อใครเสนอตัว อย่าพูดลอยๆ
ผลจากการอภิปรายเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อ ครม.โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นำมาสู่วิวาทะระหว่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่มีการ กล่าวพาดพิงกันไปมาจนกลายเป็นประเด็นการเมือง
นายกฯย้ำมีคนขอร่วม รบ.แต่พอแล้ว
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 4 เม.ย. ที่รัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณียืนยันกลางสภาฯ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ว่าเป็นรัฐบาลตัวจริงเสียงจริงว่า ยืนยัน เพราะมีการพูดและตั้งคำถามมาว่าเป็นตัวจริงเสียงจริงหรือเปล่า ตนยืนอยู่ตรงนี้ พูดจริงเสียงจริง ยืนยันทำจริง ทำเพื่อประชาชน ไม่อยากให้ไปพูดอะไรกันมากมาย หลายอย่างที่ฝ่ายค้านอภิปรายเน้นการเดินทางไปต่างประเทศชี้แจงไปแล้วหลายหน ต้องชี้แจงไม่ว่าเศรษฐกิจหรือการดึงดูดนักลงทุน เขตการค้าเสรี (FTA) ต้องไปบอกว่าประเทศเราเปิดแล้ว อันนี้มั่นใจและสบายใจ มั่นใจภายใน 2 ปีข้างหน้านี้จะได้เห็นการลงทุนเข้ามาในประเทศไทย เมื่อถามว่าที่นายกฯพูดชี้แจงต่อสภาฯว่าวันหนึ่งก็ค้านอีกวันขอร่วมรัฐบาล แสดงว่ามีพรรคฝ่ายค้านมาเจรจาขอร่วมรัฐบาล นายเศรษฐากล่าวว่า “ผมเชื่อว่าต้องมีบ้าง แต่เขาคงไม่พูดกับผมหรอก เพราะพูดตลอดเวลา 314 เสียงแน่นแล้วและเราทำงานกันได้ดี ส่วนจะไปคุยอะไรกับใคร เป็นเรื่องของเขาไป แต่ว่ามันมีแน่นอน” เมื่อถามว่า หากพูดคุยกันจริงจะรับเพิ่มหรือไม่ นายเศรษฐาหัวเราะในลำคอพร้อมกล่าวว่า “ผมว่าไม่ อย่างที่บอก 314 เสียงชัดเจนอยู่แล้ว” ส่วนโควตารัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อไหร่ที่คิดว่าพร้อม มีบุคคลที่เหมาะสมเสนอมา เรายินดีอยู่แล้ว
...

“ชัยชนะ” ท้าเปิดชื่อใครไปเสนอตัว
ขณะที่นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายกฯพาดพิงถึงพรรค ปชป. วันนึงจะเป็นฝ่ายค้านอีก วันนึงจะขอร่วมรัฐบาลว่า ขอให้ระบุมาเลยว่าใคร พรรคไหน อย่างไร อย่าพูดลอยๆ เป็นผู้นำประเทศต้องมีวุฒิภาวะ จะออกมาพูดกับสังคมให้เชื่อถือต้องบอกว่าเป็นใคร การอภิปรายมาตรา 152 เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะวิจารณ์หรือแนะนำรัฐบาล นายกฯควรฟังและนำไปแก้ไขจุดบกพร่อง แต่ถ้านายกฯจะทำตัวเป็นซุปเปอร์แมนไม่ฟังใคร คงบริหารประเทศไม่ได้ ที่มีการระบุว่าพรรค ปชป.ขอเข้าร่วมรัฐบาลข่าวก็คือข่าว เป็นการคาดเดาเหมือนกับหมอดูที่ทำนาย ที่บอกว่าพรรค ปชป.ปล่อยข่าวเอง ถามว่าจะปล่อยมาเพื่ออะไร
แต่ไม่ยืนยันอนาคตจะไม่เข้าร่วม
เมื่อถามว่า ถ้ามีการปรับ ครม.ยืนยันว่าพรรค ปชป.จะไม่เข้าร่วมรัฐบาล นายชัยชนะกล่าวว่า การปรับ ครม.ไม่ใช่หน้าที่ฝ่ายค้าน เป็นเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เราพูดไม่ได้ เมื่อถามว่าได้คุยกับสมาชิกพรรคแล้วใช่หรือไม่ว่าไม่มีใครดอดไปคุยกับรัฐบาล นายชัยชนะกล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีการพูดคุยกัน เราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และข่าวนี้ออกมาก่อนจะมีการอภิปรายตามมาตรา 152 ต้องถามว่าออกข่าวอย่างนี้มาเพื่ออะไร ต้องมองเรื่องการเมืองด้วย คิดได้ทั้งหมดอาจจะถูกวางยา หรืออาจรับงานจากใครก็ได้หรืออาจมาจากผู้ประสงค์ดี หรือประสงค์ร้ายก็ได้ เข้าใจการเมืองไทยดี ยืนยันว่า 25 เสียงของพรรค ปชป.ยังรักกันดี ผูกพันสามัคคี และจะสามัคคีมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆไป

“อู๊ดด้า” ฟาดจำคำพูดตัวเองไว้ให้ดี
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป.ให้สัมภาษณ์ถึงนายกฯเปรียบฝ่ายค้านบางพรรคเป็นแมลงหวี่ บางวันเป็นฝ่ายค้าน บางวันขอร่วมรัฐบาลว่า เรื่องแมลงหวี่สะท้อนจิตใต้สำนึกรัฐบาลเทวดาว่ารำคาญเสียงประชาชน รำคาญเสียงสะท้อนวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล เป็นประชาธิปไตยเทวดา ไม่ใช่ประชาธิปไตยตัวจริง เมื่อถามว่า นายกฯยังระบุถึงฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงง หลังมีกระแสข่าวพรรค ปชป.จะไปร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์กล่าวว่า เมื่อสักครู่มีคนให้สัมภาษณ์แล้ว ไม่ใช่หรือว่าเสียงพอแล้ว จะเป็นรัฐบาลเท่านี้ จำคำพูดของตัวเองไว้ด้วย เมื่อถามว่า หากมีการทาบทามพรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาลจะไม่ร่วมใช่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า การทำหน้าที่ของตนเป็นคำตอบอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร นายกฯต้องจำคำพูดตัวเองไว้ด้วยในสิ่งที่พูดไป สิ่งที่นายกฯพูดเผยให้เห็นตัวไอ้โม่งว่ามันมาจากไหน อย่างไร
ก้าวไกลทวงสัญญา รธน.ใหม่
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อ ครม.โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เป็นวันที่สอง โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายทวงถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลสัญญาไว้กับประชาชนว่า การกระทำของรัฐบาลเหมือนตลกหกฉาก โดยฉากสุดท้ายที่ส่งไปศาลรัฐธรรมนูญให้ตัดสินเกี่ยวกับการทำประชามติ ยังไม่รู้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเมื่อใด 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ไตรมาสแรกปี 67 ในมิติของรัฐธรรมนูญอยู่จุดเดิม ให้อำนาจตุลาการเป็นผู้ตัดสิน หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังล่าช้า อาจสร้างความเสียหายประเทศไทยสูญโอกาสมีรัฐธรรมนูญใหม่ใช้ก่อนเลือกตั้ง หากต้องรอฟังศาลรัฐธรรมนูญ ผลอาจมี 2 ทาง คือ 1.ทำประชามติ 2 ครั้ง เป็นไปได้ที่จะจัดรัฐธรรมนูญใหม่และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทันกรอบ 4 ปี 2.หากทำประชามติ 3 ครั้ง เสี่ยงกลับมาเริ่มต้นกระบวนการใหม่ ไม่ได้รัฐธรรมนูญใหม่ และกฎหมายลูกก่อนเลือกตั้ง
ดักคอล็อกสเปกร่างกติกาใหม่
นายพริษฐ์กล่าวว่า ขอทำนาย รัฐบาลมีไพ่ไม้ตายที่เตรียมมาใช้คือ 1.สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) สูตรผสมจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง เพื่อให้โหวตแข่งในประเด็นที่ต้องการผลักดัน 2.กินรวบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่หมกเม็ดไว้ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค พท.ที่มีสัดส่วนจากรัฐบาลและ สส.ฝ่ายรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน 3.ด่านวุฒิสภาที่ได้สิทธิเห็นชอบเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญที่ ส.ส.ร.ยกร่างก่อนนำไปทำประชามติ แม้จะมี สว.ชุดใหม่ ยังยึดโยงเครือข่ายอำนาจเดิม รัฐบาลคิดค้นและทยอยใช้เพื่อควบคุมรัฐธรรมนูญใหม่ หากคำทำนายเป็นจริงคือ รัฐบาลเอาความคิดตนเองเป็นใหญ่ ผลิตนวัตกรรมล็อกสเปกรัฐธรรมนูญ นี่คือประชาธิปไตยที่ขอใบอนุญาต พรรค พท.พยายามออกแบบกลไกให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแทรกแซง เพราะพรรค พท.พ่ายสนามเลือกตั้ง จึงมองว่าไม่ได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง ต้องหากระบวนการ ขอให้รัฐบาลยืนยันจะไม่กินรวบ ไม่ต้องขอใบอนุญาตจาก สว.ก่อนทำประชามติ เพื่อให้ความหวังประชาชนที่ต้องการเห็นประชาธิปไตยเต็มใบไม่แตกสลาย ขอเสนอให้ปฏิเสธคำถามยัดไส้ ตั้งคำถามเปิดกว้าง สนับสนุน ส.ส.ร.จากการเลือกตั้ง 100% ความสำเร็จหรือล้มเหลวของรัฐบาลในการผลักดันรัฐธรรมนูญใหม่จะแสดงถึงความจริงใจและรักษาคำพูดสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน

ฉะเกณฑ์ทหารขุมทรัพย์นายพล
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า คำแถลงนโยบายด้านกองทัพของนายกฯระบุว่า จะเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารเป็นสมัครใจ ลดจำนวนนายพล ปรับปรุงการจัดซื้ออาวุธ นำพื้นที่ไม่จำเป็นของกองทัพให้ประชาชนใช้ประโยชน์ แต่กลับพบว่าเป็นแค่การสมยอมกับกองทัพเพื่อปรุงแต่งตบตาประชาชน เอานโยบายรัฐบาลชุดที่แล้วมาทำต่อ การดำรงอยู่ของกองทัพทำเพื่อความมั่นคงประเทศหรือความมั่งคั่งของผู้เสพสุขอำนาจกองทัพจากรุ่นสู่รุ่น หากไม่ปฏิรูปกองทัพจริงจังจะมีคนกลุ่มหนึ่งฉวยโอกาสตบทรัพย์ ต่อรองเอางบฯกองทัพ ถ้ากองทัพไม่โปร่งใสจะถูกนักการเมืองเอาความดำมืดมาเป็นชนักปักหลัง กรณีรับสมัครทหารออนไลน์ยอดสมัครเพิ่มขึ้น คนละเรื่องกับการลดกำลังพล ไม่มีอะไรใหม่ เป็นสิ่งที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำอยู่แล้ว การปฏิรูปกองทัพแท้จริงต้องปรับปรุงโครงสร้าง กห. ยกเลิกหน่วยงานซ้ำซ้อน นำทหารที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารออกจากระบบที่ต้องมีพลทหารมากขนาดนี้เป็นผลประโยชน์หล่อเลี้ยงบรรดานายพลที่หากินกับการเกณฑ์ทหาร ทุกปีจะมี สัสดีบางกลุ่มนำใบ สด.43 ปลอม หลอกขายคนที่ไม่ต้องการเกณฑ์ทหารใบละ 5 หมื่นบาท 1 ปีหลอกขายได้ 6 หมื่นคน ความเสียหายอยู่ที่ 3 พันล้านบาท รวมทั้งการฝึกทหารในค่ายยกเงินเดือนให้นายพล 1 หมื่นบาท แลกกับการปล่อยทหารออกมา หากลักลอบปล่อยทหาร 2 หมื่นนาย เสียประโยชน์ 2,400 ล้านบาท จึงไม่ยกเลิกเกณฑ์ทหารหรือไม่
เย้ยปัดฝุ่นโครงการ “บิ๊กตู่” มาใช้
นายวิโรจน์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ดินราชพัสดุ 12 ล้านไร่ ครอบครองโดยกองทัพ 6.25 ล้านไร่ กองทัพบกถือมากสุด 4.5 ล้านไร่ อยู่ใน จ.กาญจนบุรี และราชบุรีถึง 3 ล้านไร่ ที่ดินบางส่วนถูกนำไปใช้ทำสวัสดิการธุรกิจทั้งสนามกอล์ฟ บ้านพักตากอากาศ สนามมวย โดยไร้ความโปร่งใส แต่รายงานผลกำไรธุรกิจทุกเหล่าทัพเพียงปีละ 70-80 ล้านบาท ที่ตลกร้ายคือกองทัพฮุบที่ดินจำนวนมหาศาล ขณะที่เกษตรกรมากกว่าครึ่งไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง แม้รัฐบาลนายเศรษฐาพยายามเอาที่ดินกองทัพมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์ ตั้งชื่อสวยหรูโครงการธนารักษ์เพื่อราษฎร์ หรือหนองวัวซอโมเดล แต่ไม่ใช่โครงการใหม่ แค่เอาโครงการ พล.อ.ประยุทธ์มาปัดฝุ่นเปลี่ยนชื่อ ตราบใดที่นายสุทิน คลังแสง เป็น รมว.กลาโหม อยู่ อนาคตของธุรกิจ อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศมีแต่มืดมน พอกันทีกับการเล่นละครตั้งชื่อซีรีส์ การพัฒนาร่วมกัน หวังได้คะแนนเสียงเลือกตั้ง ประชาชนเขากินข้าว เลิกกินช็อกมินต์แล้ว รัฐบาลไม่ได้คิดใหม่ทำเป็น แต่เป็นการทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้านายสุทินกับนายเศรษฐายังฝืนทำแบบนี้ ประชาชนจะยิ่งรู้สึกไม่ไว้วางใจกองทัพ
ท้าขอใบเสร็จเงินทอนกองทัพ
เวลา 10.45 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ชี้แจงว่า ฟังฝ่ายค้านวิจารณ์กระทรวงกห. เรื่องกองทัพเป็นเรื่องเดิมๆ ผิดหวังเล็กน้อยมีแต่น้ำ ยืนยันกองทัพมีไว้เพื่อความมั่นคงประเทศ ไม่ใช่ความมั่งคั่งของใคร วาทกรรมด้อยค่า เช่น ภาพลักษณ์ตกต่ำ ใช้ไอโอดำมืดเหล่านี้ ขอเวลารัฐบริหารงานให้ครบ 4 ปี ประชาชนจะตระหนักดีตอนจบว่าคนที่ใช้ไอโอครอบงำให้คนหน้ามืดตามัวคือใคร เชื่อว่า 7 เดือนมีพัฒนาทางที่ดีขึ้น ขอเวลาอีกสักพักจะเห็นผลงานที่ทำต่อเนื่อง เช่น เกณฑ์ทหารด้วยความสมัครใจ หนองวัวซอโมเดล รวมถึงการคืนพื้นที่ต่างๆให้ประชาชนใช้ประโยชน์ เรื่องเงินทอนพูดมาหลายหน ถ้ามีให้เอาหลักฐานมา เรือฟริเกตที่ฝ่ายค้านเชียร์เหลือเกิน ถ้าตนพูดกลับไปว่ามีเงินทอน พวกท่านคงไม่พอใจ ขอให้เอาหลักฐานมาพูดกัน เรือฟริเกตที่สนับสนุนให้ต่อในประเทศไทยเป็นหลักการดี แต่มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และอีกหลายอย่างหลายมิติ พยายามพูดคุยกันอยู่ เพื่อให้กองทัพได้ของดีที่สุด ฟังมา 40 นาที เข้าใจว่าเป็นฝ่ายค้านที่งงอยู่เหมือนกัน เพราะเคยพูดเอาเรือประมงมารบแทนเรือรบ แต่วันนี้มาสนับสนุนให้ซื้อเรือรบเลยงง ขอให้พูดเนื้องานดีกว่า เราจะพัฒนากองทัพต่อไป ซื้ออาวุธให้โปร่งใส คำนึงถึงการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆจะได้จากการซื้อขายอาวุธ
ขยี้กองทัพตีนแมวฮุบที่ชาวบ้าน
นายชยพล สะท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงเรื่องที่ดินกองทัพว่า นายกฯสั่งการนโยบายวันที่ 25 ธ.ค.66 ให้กองทัพมอบที่ดินเป็นของขวัญให้ประชาชน ในโครงการหนองวัวซอโมเดล จ.อุดรธานี น่าดีใจที่ชาวบ้านจะได้ที่ดิน แต่กลับเป็นสัญญาเช่า ชาวบ้านไม่เอาด้วย ยืนยันไม่ใช่ผู้บุกรุกที่ดิน อยู่มาก่อนตั้งแต่ปี 2476 ก่อนทหารจะมาขอแบ่งที่ดินไปทำสนามยิงปืน ก่อนเคลมเป็นของตัวเองจนเป็นข้อพิพาทกันมาตลอด กรณีหนองวัวซอโมเดล หากชาวบ้านยินยอมเซ็นเช่าที่ดินเท่ากับยอมรับเป็นผู้บุกรุกที่ดิน หรือที่ดินวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ตั้งแต่ปี 2496 มีการแบ่งพื้นที่ระหว่างสนามซ้อมยิงปืนของกองทัพกับที่ดินชาวบ้านชัดเจน แต่ตอนหลังกองทัพมาขอเคลมพื้นที่เอาที่ดินชาวบ้านไปหมด แต่ยังมีหน้ามาบอกใจดีจัดสรรที่ดิน 500 ไร่ ให้ประชาชนทำกิน ทั้งที่เป็นที่ดินของชาวบ้านมาก่อน สรุปนี่คือแซนต้าหรือตีนแมว อย่าเร่งทำโครงการเพื่อการโฆษณา ยังมีโครงการสร้างหน่วยต่อสู้อากาศยานและรักษาชายฝั่ง จ.ภูเก็ต วงเงิน 721 ล้านบาทของกองทัพเรือ แต่เกินครึ่งเป็นการก่อสร้างบ้านพัก น่าสงสัยคือไปทำในพื้นที่ป่าสงวนบางขนุน อาศัยจังหวะการเปลี่ยนระเบียบคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2565 ที่การขอใช้พื้นที่ป่าสงวนฯต้องขอความเห็นชอบจากสภาท้องถิ่น เป็นการแจ้งเพื่อทราบ เพื่อฮุบที่เป็นของกองทัพเรือ อ้างความมั่นคงสร้างบ้านพักในป่าสงวนตากอากาศ สร้างความมั่งคั่งให้พวกพ้องตัวเอง สะท้อนภาพทหารครองเมือง
ปูดนำพื้นที่ ทร.ทำกาสิโนถูก ก.ม.
นายชยพลกล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีกองทัพเรือได้รับสัมปทานทำเหมืองหิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ปี 2556 จากกระทรวงอุตสาหกรรม ทราบว่าอนุญาตสมัยรัฐบาลยุคยิ่งลักษณ์ ฟันรายได้ 200 ล้านบาท แต่มีความผิดชัดเจน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้ว่า ทร.ไม่สามารถดำเนินกิจการแข่งกับเอกชนได้ จึงถูกระงับกิจการและสั่งฟื้นฟูพื้นที่กลับสู่สภาพเดิม แต่จนปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการใดๆ และยังมีกรณี ทร.ได้โครงการทำรันเวย์ที่ 2 กับเทอร์มินอลใหม่สนามบินอู่ตะเภา ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง ได้เป็นผู้รับผิดชอบระบบไฟฟ้า ประปา ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบจัดการขยะ ระบบจัดการเชื้อเพลิง ของเมืองมหานครการบิน 6,500 ไร่ ล่าสุดทราบว่ารัฐบาลเล็งๆว่าจะก่อสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีบ่อนกาสิโนมาอยู่ในแหล่ง ทร.บริเวณโซนนี้ด้วย รัฐบาลชุดนี้เข้าขากันดีกับกองทัพ ขอให้คู่หูดูโอ้ “ทินและฐา” เลิกทำโครงการฉาบฉวยเพื่อคอนเทนต์โฆษณา เอาประชาชนเป็นเหยื่อการตลาด ธุรกิจกองทัพมีมากมาย ไม่รู้เมื่อไรจะเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ คงมีแต่คงแย่งกันช้อน เพราะมั่นคงอย่างมั่งคั่ง
จับปาหี่กู้เรือรบสุโขทัยอับปาง
นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก.ก.อภิปรายว่า มาตามหาปาหี่จุดเรือสุโขทัยอับปางยังไม่คืบหน้า ผบ.กองเรือยุทธการตั้งโต๊ะแถลงต่อสื่อมวลชนกลางทะเล แต่เจอปาหี่เบ้อเริ่มอยู่ในคำแถลง ผบ.กองเรือยุทธการ ผลภารกิจเก็บกู้วัตถุพยานต่างๆไม่มีประโยชน์ มีแต่เสื้อชูชีพ ป้ายชื่อ ระฆังเรือ ธงผืนใหญ่ ที่นำมาใช้ประโยชน์ไม่ได้ คำแถลงที่ระบุถ่ายภาพครบถ้วน 58 จุด ไม่จำเป็นต้องกู้เรือขึ้นมา ทำไมก่อนหน้านี้จึงสรุปไม่ได้ ได้ภาพมาหมดแล้วทำไมให้รอ 15 เดือนพอถึงฤดูงบฯมาของบเพิ่มบอกไม่พอ เหตุใด ทร.ไม่พยายามหาข้อพิสูจน์ ถ้าปรากฏขึ้นมาจะฉิบหายถ้วนหน้า การล่มของเรือมาจาก 2 สาเหตุคือ 1.มีการซ่อมแซมเรือก่อนออกไป 2.เติมน้ำมันน้อยไป ทำให้เรือโคลงเคลง กรมอู่ทหารเรือ ต้องตอบคำถามให้ได้ เป็นเรือรบลำแรกของโลกที่ล่มเพราะเจอคลื่น มีคนไปสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตตอบว่าไม่มีเสื้อชูชีพ จากนั้นโดนสั่งปิดปากหายตัวไปไม่มีใครเจอผู้รอดชีวิต 76 คนอีกเลย กรณีบิ๊ก ต.กับบิ๊ก จ. นายกฯห่วงว่าจะมายุ่งกระบวนการสอบสวน ท่านสั่งเด้ง กรณี ทร.ทำได้ เพราะตำรวจกับทหารเรือไม่ต่างกัน จะเหยียบเรือ 2 แคมไม่ได้ ต้องเลือกระหว่างผู้มีอำนาจกับวิญญาณผู้เสียชีวิต

“บิ๊กทิน” ยันเรือสุโขทัยล่มไม่มีจับแพะ
ต่อมานายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ชี้แจงว่ากรณีเรือหลวงสุโขทัยฯล่ม คณะกรรมการยังสอบสวนไม่จบ รัฐมนตรีจะไปฟันธง ลงโทษเลยไม่ได้ วันที่ 9 เม.ย. จะมีการสรุปว่าเรือหลวงสุโขทัย ใครผิดใครถูก ใครควรได้รับโทษ อาจมีการตั้งกรรมการสอบซ้ำอีกก็ได้ ต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ต้องไม่มีแพะเด็ดขาด การปฏิรูปโครงสร้างกองทัพ ใช้ไม้อ่อน ให้คนในปฏิรูปกันเองก่อน ถ้าไม่ได้ค่อยใช้คณะกรรมการภายนอก ได้ตั้งคณะทำงาน 8 ชุด เช่น ชุดปรับลดกำลังพล เสนอปรับโครงสร้างกองทัพ ระยะยาว ระยะสั้น นายพลมี 2 ประเภท 1.อยู่ในกำลังหลัก มีตำแหน่งหน้าที่มีกำลังหลัก 2.ไม่มีกำลัง ไม่อยู่ในตำแหน่งหลัก เช่น ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ ที่ปรึกษา กลุ่มที่ไม่มีภารกิจชัดเจนจาก 700 กว่าคนจะเหลือครึ่งหนึ่งในปี 2571 กลุ่มหลักมี 2,900 คน ถ้าเข้าสูตรชุดที่เสนอมา ในปี 2571 จาก 2,900 คน จะเหลือ 1,300 คน ถ้าเป็นสาวลดความอ้วน ผอมเลย 4 ปีวูบลดลงขนาดนี้
อย่าปลูกฝังให้เด็กปฏิเสธกองทัพ
นายสุทินกล่าวอีกว่า เรื่องที่ดินไม่ได้หลอกชาวบ้าน เช่น ที่หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ไปจัดการให้ชาวบ้านพิสูจน์สิทธิ เสร็จแล้วให้เช่าราคาไร่ละ 20 บาท ส่วนธุรกิจ ปัญหาสวัสดิการกองทัพ คณะทำงานสรุปว่าม้า มวย หวย กอล์ฟ หรือปั๊มน้ำมันจัดระบบใหม่หมด แยกเป็นสวัสดิการเชิงธุรกิจและสวัสดิการภายในกองทัพ การยกเลิกการเกณฑ์ทหารจะใช้วิธีโดยธรรมชาติ ต้องสมดุลจากภัยคุกคามและบทเรียนหลายประเทศในยุโรป เอเชีย ยกเลิกแล้วกลับมารื้อฟื้นการเกณฑ์ และการไปปลูกฝังให้เด็กละทิ้ง หันหลังให้ความมั่นคงปฏิเสธกองทัพอันนี้อันตราย เรือฟริเกต กมธ.งบฯไปตัดจบ ทร.ไม่ได้เรือฟริเกต แต่แทงม้าผิดตัวซื้อหวยผิดล็อก ก.ก.เชียร์ ถ้าปีหน้าตนให้ ทร.อย่าบ่น
“เบญจา” บี้เอาผิด “บิ๊กตู่” ปมเหมืองทอง
เวลา 14.30 น. น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. อภิปรายถึงปัญหาเหมืองทองอัคราว่า เป็นมรดกบาปของคนไทย เป็นละครฉากใหญ่ตบตาประชาชน พยายามเจรจายกสมบัติชาติต่อประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ 4 แปลงให้เอกชนไปอีก 10 ปีเอื้อประโยชน์กลุ่มทุนวีวีไอพี ยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรค พท.ฝ่ายค้านขณะนั้นอภิปรายเล่นใหญ่ลั่นวาจา พล.อ.ประยุทธ์ หลุดจากอำนาจ พรรค พท.เป็นรัฐบาลจะยื่นดำเนินคดี เป็นไปไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ หรือเป็นแค่เทคนิคโฆษณาหาเสียง พรรค พท.และนายเศรษฐามีอำนาจจริงหรือไม่ หรือมีอำนาจนอกทำเนียบฯขี่คออยู่ ผ่านมา 212 วันนอกจากไม่เอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่สบาย รัฐบาลนี้ทำเพื่อใคร อย่าให้สิ่งที่พรรค พท.เคยขึงขังจบอย่างไก่กาปาหี่แค่ละครฉากใหญ่โฆษณาหาเสียง มวยล้มต้มคนดู โดย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทั้งนายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พากันประท้วงพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ ประธานที่ประชุม ต้องคอยเตือน
“ชวน” กรีดลงใต้นิดอย่ามาทวงบุญคุณ
จากนั้นนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป.อภิปรายว่า ขณะนี้ราคายางขึ้นเป็นเรื่องน่าดีใจ ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลังและ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ระบุเป็นเพราะการปราบยางเถื่อนแล้วราคายางจะดีไม่เกี่ยวกัน เหตุผลหลักที่ราคายางขึ้นคือ อุปสงค์ อุปทาน ราคายางขึ้นทุกประเทศ ถ้าอนาคตยางราคาตกรัฐบาลจะโดนเกษตรกรด่าเพราะเข้าใจผิดปราบยางเถื่อนแล้วราคาดี รัฐบาลต้องบอกความจริงประชาชน กรณีนายเศรษฐาลงพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ วันที่ 29 มี.ค.67 บรรยายให้นักธุรกิจฟังระบุว่าขออย่าไปเชื่อวาทกรรมที่มีผู้นำบางท่านพูดว่า พรรค พท.ไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ สนามบินภูเก็ต พรรค พท.ไม่มี สส. แต่ลงทุนไปหลายหมื่นล้านบาท ขอฝากถึงนายกฯอย่าไปคิดว่ามี สส.เพื่อไทยอยู่หรือไม่มี หน้าที่นายกฯต้องไป ไปนิดเดียวอย่าทวงบุญคุณ ก่อนหน้านี้ที่นายกฯไปภูเก็ต เพราะมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของนายกฯอยู่ที่นั่น สิ่งที่อยากบอกคือ ภูเก็ตทำรายได้ท่องเที่ยวอันดับ 1 รองจาก กทม. ต้องช่วยกันพัฒนา
พท.เต้นผาง “นายหัว” แขวะนายใหญ่
นายชวนกล่าวว่า กราบเรียนนายกฯเศรษฐาที่ไม่ใช่นายกฯอีแอบว่า คำพูดที่ว่า มีผู้นำบางคนพูดว่า เพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญภาคใต้นั้น เอามาจากไหน ตนไม่เคยพูด ได้พูดในวันแถลงนโยบายว่าภาคใต้ถูกเลือกปฏิบัติ คนเลือกปฏิบัติพูดตรงไปมาว่า เมื่อเราได้รับเลือกมาจากประชาชนต้องพัฒนาจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อน คนพูดคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นการเลือกปฏิบัติ ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรค พท.ประท้วงว่าขอให้อภิปรายอยู่กรอบ นายชวนโต้ทันทีว่า “ไม่มีใครอยู่ในกรอบเท่าผม” จนประธานที่ประชุมขอให้นายชวนเลี่ยงเอ่ยชื่อบุคคลภายนอก ก่อนที่นายชวน อภิปรายต่อว่า ยืนยันในวันแถลงนโยบายไม่เคยพูดเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ แค่พูดถึงการเลือกปฏิบัติทำให้เสียโอกาส ขอให้รัฐบาลช่วยชดเชยการเสียโอกาสอันเกิดจากการเลือกปฏิบัติเท่านั้น ตนไม่ใช่คนพูดพล่อยๆ ในชีวิตการเมืองมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่คนพูดบ่อย พูดพล่อย บ้าน้ำลายรายวัน พูดอะไรเป็นเรื่องจริง และรับผิดชอบ ถ้านายกฯข้องใจ เมื่อท่านไปเข้าใจผิดและพูดกระทบตนก็ไม่ได้โกรธเคือง แต่สิ่งที่ท่านพูดไป คนฟังมีความรู้สึกทำไมนายกฯ ต้องมานินทานายชวน หลีกภัย
แซะเลือกปฏิบัติช่วยนักโทษนิรนาม
นายชวนกล่าวว่า นโยบายรัฐบาลที่ระบุจะสร้างความชอบธรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ฟื้นฟูหลักนิติรัฐ นิติธรรมที่เข้มแข็ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรณีนักโทษที่ไม่ขอเอ่ยชื่อ รัฐบาลปล่อยปละ ละเลยไม่ให้กฎเกณฑ์กติกา ความถูกต้อง เสมอภาค การไม่เลือกปฏิบัติเกิดขึ้น อ้างเป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ มีคำถามว่ารัฐบาลจะดำเนินการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร ไม่เกี่ยวกับคนป่วย แต่เกี่ยวกับการปฏิบัติถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ รัฐบาลที่เป็นผู้บังคับบัญชาจะดำเนินการอย่างไร ถ้าเลือกปฏิบัติความสุขประชาชนจะไม่เกิดขึ้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนต้องยอมรับคือ ถ้าต้องการให้ประชาชนมีความสุข ต้องทำให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น
นายกฯสวน ปชป.เมินแก้ราคายาง
ช่วงเย็น เวลา 17.45 น. บรรยากาศการอภิปรายดุเดือดเข้มข้นขึ้นทันที หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ลุกขึ้นโต้ตอบนายชวน หลีกภัย เรื่องราคายางพาราด้วยถ้อยคำเชือดเฉือนว่า การอธิบายราคายางพูดไปแล้ว แต่ยังวกไปเวียนมาอีก วิธีบริหารงานของ 2 พรรคไม่เหมือนกัน รัฐบาลเข้าใจปัญหาลงรายละเอียดทุกเม็ด ทำให้ยางราคาขึ้น ประเทศไทยควบคุมราคายางโลกอยู่ 30% เราคือมหาอำนาจยางพาราโลก เป็นพี่ใหญ่ยางพารา การปราบยางเถื่อนไม่ได้สั่งอย่างเดียว แต่กระชับพื้นที่ทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการคลัง กรมศุลกากร ช่วยกันทำงาน ถ้าเราทำจริงจังทำได้ เพียงแต่ในอดีตไม่เคยทำ รมว.เกษตรฯ รมว.พาณิชย์ รัฐบาลที่แล้วเป็นคนใต้ มีกินมีใช้จากยาง แต่ไม่ได้ดูแลอะไรเกินกว่าที่ตัวเองควรทำ รัฐบาลนี้ทำงานแท้จริงเพื่อประชาชน จะรักษาราคายางให้สูงต่อไป แต่ราคาผู้อภิปรายเรื่องนี้ในสายตาประชาชนจะเป็นอย่างไรตนรับผิดชอบไม่ได้
ซัด “ชวน” ใช้มุกเดิมด้อยค่าพรรคอื่น
นายเศรษฐากล่าวว่า ฝ่ายค้านก็ยังวกไปเวียนมา เป็นฝ่ายค้านที่ยังงงๆอยู่ นายชวนพูดวันที่ 12 ก.ย.66 ว่า พรรค พท.พัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกเขา พูดชัดเจน แต่ตนพิสูจน์ให้เห็นเป็นนายกฯคนทั้งประเทศ ไม่เคยเป็นแยกตามคะแนนเสียงที่ได้รับ การไปจังหวัดชายแดน ภาคใต้หลายครั้งเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็น มุกด้อยค่าพรรคที่อยู่คนละพรรคกับท่านเป็นมุกเดิมๆ ลองใช้มุกใหม่บ้าง ทุกวันนี้ สส.พรรคไหลไปอยู่พรรคอื่น คะแนนเสียงพรรคตัวเองลดลงทุกวัน ลองอะไรใหม่ๆบ้างดีกว่า วันหลังจะไม่เหลือพื้นที่ในสภาฯ ขอให้ท้าทายหน่อย ไม่ใช่เอามุกเดิมๆมาพูดตลอด ท่านแสดงแบบนี้มาตลอดตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯทักษิณ อยากเปลี่ยนมุมมองใหม่ ไม่อยากพูดยาวให้เสียเวลา มุมมองเราไม่เหมือนกัน รัฐบาลเข้าใจอดีต มองไปในอนาคต มั่นใจภายใน 4 ปีประเทศจะเจริญมากกว่าที่รัฐบาลอื่นเคยทำมา นายกฯคนนี้ไปทุกพื้นที่ มองเห็นทุกภูมิภาค ทำงานทุกวันเพื่อคนไทย ทุกภารกิจจะพิสูจน์คำพูดในวันนี้
มีดโกนกรีดกลับ ปชป.ไม่รับใช้คนโกง
จากนั้นนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. ลุกขึ้นตอบโต้ทันทีว่า ยืนยันว่าสิ่งที่นายกฯไปพูดกับนักธุรกิจว่า อย่าไปเชื่อคำพูดที่ตนไปพูด ยืนยันว่าไม่เคยพูดตามที่นายกฯอ้าง ไม่เกี่ยวกับมุกเดิม มุกเก่า แต่เป็นความจริงที่ปรากฏตลอดไป คำตลบตะแลงไม่ยั่งยืน สิ่งที่นายกฯกระแนะกระแหนตนไม่จริง ตนไม่พูดสับปลับหรือพูดอะไรไม่รับผิดชอบ ไม่กล่าวหาใคร ไม่เป็นความจริง คนโกหกกับคนโกงบ้านโกงเมืองเป็นพวกเดียวกัน ส่วนเรื่องยางภาวนาให้เป็นอย่างที่ท่านพูด ให้ราคาดีตลอดไป ความคิดพวกตนคืออุปสงค์ อุปทานคือตัวสำคัญในการกำหนดราคายาง ประเด็นสาระเหล่านี้ไม่ควรพาดพิงไปถึงพรรคอื่น พรรค ปชป.อยู่มานาน ไม่รับใช้พวกโกงบ้านโกงเมือง ไม่ใช่อีแอบเข้ามามีอำนาจโดยไม่ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ขอให้ท่านอยู่ในประเด็นประโยชน์บ้านเมือง ไม่ใช่ไปจดอะไรมาแล้วมาอ่าน พูดกระแนะกระแหน ยืนยันไม่โกรธท่านที่เข้าใจผิดคิดว่าตนไปพูดว่าพรรค พท. แต่พูดถึงพรรคไทยรักไทยที่เลือกปฏิบัติในช่วงนั้น ไม่ใช่คนพูดบ้าน้ำลายรายวัน อะไรพูดไปแล้วพร้อมรับผิดชอบ
เด็ก พท.รุมกินโต๊ะโต้เดือด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายชวนพูดจบ สส.เพื่อไทยพากันลุกขึ้นตอบโต้ โดยนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรค พท.ขอใช้สิทธิพาดพิงที่นายชวนพูดถึงพรรคไทยรักไทยว่า นายชวนแผ่นเสียงตกร่อง ขอให้เลิกสักทีเรื่องเก่าๆ ให้เดินหน้า โตๆกันแล้วเคยเป็นอดีตนายกฯแผ่นเสียงตกร่องมา 20 ปีแล้ว ทำให้นายชวนตอบโต้ว่า อาจแผ่นเสียงตกร่องจริง เพราะความชั่วอยู่เหมือนเดิม ถ้าเปลี่ยนไปตนก็ไม่ยํ่าอยู่ที่เดิม การทุจริตการเลือกปฏิบัติมีผลพวงมาถึงปัจจุบันนี้ ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรค พท.สวนว่า นายชวนอภิปรายพาดพิงพรรค พท.เลือกปฏิบัติ การบริหารงานในอดีต สิ่งที่นายชวนอภิปรายว่าพูดความจริง แต่เป็นความจริงในความเข้าใจของท่านคนเดียวหรือไม่ แล้วพาดพิงให้พรรคอื่นเสียหาย ด้านนายชวนตอกกลับว่า สิ่งที่พูดเป็นข้อเท็จจริง ไม่ได้คิดเอาเอง บอกได้ว่าการพูดว่าเลือกปฏิบัติใครเป็นคนพูด เป็นสิ่งที่อดีตนายกฯพูดตรงๆต่อหน้าประชาชน ใครเลือกเราก็พัฒนาจังหวัดนั้นก่อน จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ยืนยันในความจริงที่พูด
นายกฯแจกแท็บลอยด์ผลงานไป ตปท.
ช่วงบ่าย ที่รัฐสภา ระหว่างการประชุมสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติวันสุดท้าย นายกฯได้ให้ทีมงานนำเอกสารแท็บลอยด์ หน้าปก “IGNITE THAILAND Bulletin 6 เดือน 14 ประเทศ ภารกิจต่างแดน เปิดประตูประเทศไทย ไปสู่เวทีโลก” ขนาด A 3 ทั้งหมด 8 หน้า จำนวน 200 เล่ม หน้าปกภาพนายกฯและทีมเศรษฐกิจ เนื้อหาสรุปผลงานภารกิจการเยือนต่างประเทศตั้งแต่เดือน ก.ย.66-ม.ค.67 มาแจกจ่ายให้ สส.ในสภาฯด้วย
ไม่หวั่นฝรั่งเมินแกงไตปลา
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง กล่าวถึงกรณี “แกงไตปลา” ถูกจัดอันดับให้เป็นเมนูยอดแย่ที่สุดในโลกจากเว็บไซต์ TasteAtlas ว่า เป็นเรื่องลิ้นใคร ลิ้นมัน เขามีสิทธิจะเขียนอะไรก็ได้ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมด้วยว่าความจริงอาหารไทยหลายชนิดติดอันดับท็อปเทนของโลก เชื่อว่าแม้แกงไตปลารสเผ็ด แต่มีความเข้มข้น ส่วนตัวชอบมาก อาหารไทยหลายอย่างมัสมั่นไก่ ขนมครก ต้มยำกุ้ง ผัดไทย แม้แต่ผัดกะเพรา เป็นที่ชื่นชอบของต่างชาติ แต่เราเองต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิทธิเสรีภาพต่างชาติอาจไม่คุ้นชิน อาจไม่ถูกปากชาวต่างชาติ เพราะแกงไตปลาหากไม่เผ็ดไม่ใช่แกงไตปลา รัฐบาลนี้และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ส่งเสริมเรื่องอาหารอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

“ประเสริฐ” ตื่นเร่งปราบโจรไซเบอร์
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบ.ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช. สอท.) ตามที่นายกฯสั่งการให้แก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ภายใน 30 วัน นายประเสริฐแถลงว่า หารือได้ข้อสรุปว่า ดีอีจะบูรณาการกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารต่างๆ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กวาดล้างซิมม้า บัญชีม้า กำหนดให้ผู้ซื้อสินค้าออนไลน์เห็นสินค้าก่อนชำระเงิน ปรับปรุงเอสเอ็มเอสที่มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางประสานประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงจีน ร่วมกันปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตัดเสาสัญญาณโทรศัพท์เถื่อนตามแนวชายแดน โดยให้ สอท.รายงานทุกสัปดาห์ และจะประชุมอีกในวันที่ 9 เม.ย.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่