"ทิม พิธา" สรุป Recap ประชุมสภา อภิปรายมาตรา 152 วันที่ 2 ชี้ รัฐบาลไร้วิสัยทัศน์ ไร้ผลงาน ล้มเหลว ละเลย ล่าช้า พร้อมชวนติดตามการอภิปรายอย่างใกล้ชิดในคืนนี้

วันที่ 4 เมษายน 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเมื่อเวลา 18.06 น. ที่ผ่านมา โดนเป็นการ Recap การอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 วันที่ 2 ว่า เป็นการบริหารราชการแบบ Agenda less ไร้วาระ ไร้วิสัยทัศน์ ไร้ผลงาน ล้มเหลว ละเลย ล่าช้า ก่อนสรุปประเด็น ดังนี้ว่า 

เริ่มจาก การสัญญาเรื่องที่จะแก้รัฐธรรมนูญ แม้ว่าปัญหาที่ผ่านมารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นคนก่อ แต่ความคาดหวังที่หวังให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลรับผิดชอบเรื่องนี้ เกิดจากนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้คำสัญญาไว้กับประชาชน ดังนั้น จึงมีคำถามว่าจะจัดทำเสร็จเมื่อไหร่ อีกทั้ง กระบวนการแก้ก็มีปัญหาต่างๆ ที่จะส่งผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ประเด็นต่อมา ความยุติธรรมที่มีการใช้ปัญหาไม่เท่ากัน มีการปฏิบัติไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรักษานอกเรือนจำ และพักโทษที่มีกระบวนการที่น่าสงสัย ไม่โปร่งใส สร้างคำถามแก่ประชาชน และยังมีการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ยุติธรรมต่อผู้มีความเห็นต่างทางการเมือง ตกลงแล้วหลักนิติธรรมที่อยู่ในนโยบายเร่งด่วนที่จะฟื้นฟูอยู่ตรงไหน

ส่วนเรื่องการแก้ปัญหากองทัพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาทหารเกณฑ์ ที่ดินทับซ้อนของกองทัพกับที่ดินทำกินของประชาชน หรือการรุกคืบของกองทัพกับที่ดินอุทยาน พร้อมแสวงหาประโยชน์จากพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะการขายไฟฟ้าและการไล่ที่ออกไป การทำเรื่องเรือหลวงสุโขทัยให้มีความกระจ่าง มีความโปร่งใส ตามหาผู้รับผิดชอบต่อเรือสุโขทัย ความจริงใจในการกู้เรือขึ้นมา  

...

นายพิธา ยังระบุต่อไปถึงความยุติธรรมและความมั่นคงที่ไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประเทศสูญเสียโอกาสสำคัญต่อการแก้ปัญหาในพื้นที่ รัฐบาลไม่มีความแน่วแน่ ไม่มุ่งมั่นมากพอที่จะแก้ปัญหาด้วยแนวทางการเมือง การตั้งงบประมาณก็ไม่เห็นถึงการให้ความสำคัญในการแก้ปัญหา

ขณะที่ปัญหามรดก คสช. ที่รัฐบาลรับต่อมาแต่ไม่จัดการอะไร แถมยังสานต่อ ไม่ว่าจะเป็นการออกใบอนุญาตให้โรงงานที่ปล่อยมลพิษสูงไปตั้งอยู่ที่ใดก็ได้ หรือแม้กระทั่งต่อสัญญาเหมืองทองที่สร้างมลพิษให้กับพี่น้องประชาชนให้ทำกิจการได้ต่อไป จากการสัญญาว่าจะเอาผิดผู้เกี่ยวข้องจากรัฐบาลที่แล้ว ที่ปล่อยให้เกิดปัญหาขึ้นมานั้นไปถึงไหนแล้ว 

ต่อมาเรื่องปัญหาเรื่อง PM 2.5 ที่เกิดจากการเผาในภาคการเกษตร รัฐบาลสัญญาว่าจะลดให้ได้ 50% แต่ปีนี้พบว่าลดลงแค่ 3% เมื่อเทียบกับปี 2566 และไฟป่าที่ได้งบประมาณไม่เพียงพอต่อการป้องกันไฟป่า ไม่มีการเตรียมพร้อมในการรับมือ รวมถึงไม่มีมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าที่มาจากการเผาจากต่างประเทศเข้ามาในไทย ที่จะทำให้หยุดการเผาทางการเกษตรในประเทศเพื่อนบ้านได้ 

สุดท้าย ปัญหาการศึกษาประเทศไทยที่ต้องมาตามแก้ทีหลัง ไม่มีการจัดการปัญหาล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น ครูนอนเวร จ้างนักการภารโรง เพิ่มงบอาหารกลางวันในโรงเรียน ขยายโอกาส สิ่งที่ควรทำกลับไม่ทำ เช่น การไม่ยอมเปลี่ยนหลักสูตรแกนกลางที่ล้าสมัย 

ในช่วงท้าย นายพิธา ยังชวนให้ติดตามการอภิปรายด้วยว่า "จับตาการอภิปราย ม.152 ในคืนนี้ เพราะยังมีประเด็นอภิปรายอีกมากที่ต้องจับตา และติดตามการสรุปการอภิปราย ม.152 ของผมในคืนนี้อย่างใกล้ชิด เพราะความไร้วาระ ไร้วิสัยทัศน์ ไร้ผลงาน มีผลต่อประชาชนคนไทยทุกคนครับ"