“ประเสริฐ” ขอบคุณ “รังสิมันต์ โรม” อภิปรายเปิดโปงขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้จับกุมมาโดยตลอด กำลังสาวไปให้ถึงทุนจีน ยันปมนายตำรวจใหญ่เกี่ยวข้องคอมเพล็กซ์ในเมียนมา นายกฯ ไม่ปล่อยไว้แน่
เมื่อเวลา 21.43 น. วันที่ 3 เมษายน 2567 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 ที่มี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในการประชุม
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวชี้แจง นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า การอภิปรายเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ของนายรังสิมันต์โรม ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์โดยจะนำไปทำงานในเรื่องนี้ต่อไป โดยเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลายประเทศในอาเซียนล้วนมีหมด ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปประเทศกัมพูชา เพื่อหารือเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่นเดียวกับที่ นายกฯ กัมพูชา เดินทางมาไทย ก็มีการหารือถึงเรื่องนี้ ขณะที่การจับกุมที่ จ.นครศรีธรรมราชล่าสุด ยอมรับว่ามีนักการเมืองระดับท้องถิ่นเกี่ยวข้องและขณะนี้กำลังเชื่อมโยงข้อมูลให้ไปถึงทุนจีน
ส่วนประเด็นเรื่องคนไทยเดินทางไปรักษาตัวในเมืองเล่าก์ก่าย ประเทศเมียนมา เบื้องต้นพบว่ามีหมายจับคนไทยจำนวน 10 คน ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีทั้งถูกหลอก และเต็มใจไป ซึ่งทางกระทรวงก็มีการติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนที่มีนายตำรวจใหญ่ อดีตนายตำรวจทหาร เกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของคอมเพล็กซ์ในชายแดนเมียนมา ยืนยันว่า นายกฯ ไม่ปล่อยแน่นอน จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย
...
ส่วนที่ นายรังสิมันต์ โรม เน้นเรื่องเมียวดีและสีหนุวิลล์ ยืนยันว่ามีการจับกุมมาโดยตลอด โดยเฉพาะฝั่งไทย และกำลังทำงานร่วมกันในทางลับ
ขณะที่คณะกรรมการสอบเส้นทางการเงิน ทางรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ และมีแผนอย่างชัดเจน กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงจะยกเป็นเรื่องวาระแห่งชาติ จึงขอบคุณ นายรังสิมันต์ โรม ที่เสนอข้อมูลเข้ามา เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อไป
จากนั้น นายรังสิมันต์ โรม กล่าวอภิปรายต่อว่า การเดินทางไปทำงานของคนไทยที่เมืองเล่าก์ก่าย สามารถช่วยเหลือมาได้ 500 คน แต่ตัวเลขไม่นิ่งเนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ได้เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง จึงขอให้เริ่มต้นประชาสัมพันธ์ว่า หากเดินทางกลับมาจะไม่ดำเนินคดี เพราะบางครั้งมีการเรียกส่วยของเจ้าหน้าที่รัฐ อยากให้กำชับว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไม่ทำแบบนี้
ส่วนเรื่องบัญชีม้า พบว่ามีมากกว่า 4 แสนบัญชี และปัจจุบัน พบว่าไม่มีการจัดการกับบัญชีม้า ที่เป็นแหล่งฟอกเงินแล้ว ขณะที่เรื่องจุดผ่านแดน เมียนมา นายกฯ สามารถสั่งได้เลย จึงขอให้ตรวจสอบว่าท่าข้ามเรือ ถูกต้องหรือไม่ และสุดท้ายอยากเห็นเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ เชื่อว่าหน่วยงานความมั่นคงมีศักยภาพ แต่ต้องใช้คนให้เป็น และให้งบประมาณ ด้านนายประเสริฐ ได้กล่าวว่าจะรับข้อเสนอไปพิจารณา