“นายกฯ เศรษฐา” ยัน ตัวจริงเสียงจริง และจะเป็น รมว.คลัง ที่แก้จนให้ประชาชน ขอให้เชื่อมั่นในศักยภาพประเทศ เหน็บฝ่ายค้านอย่าเป็นแมลงหวี่ จ้องจะเล่นแต่การเมือง แขวะ กลัวคนงง วันนึงจะเป็นฝ่ายค้าน อีกวันมีข่าวว่าจะขอร่วมรัฐบาล

เมื่อเวลา 15.34 น. วันที่ 3 เมษายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตอบการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝ่ายค้าน ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 ในรอบบ่าย ว่า ขอบคุณในการอภิปรายอย่างแพร่หลาย ยืนยันตนเองไม่ได้ไปไหน แต่เหมือนย้ายทำเนียบรัฐบาลมาอยู่ที่นี่ นั่งทำงานอยู่หลังบัลลังก์และคอยฟังไปด้วย พร้อมกับจดข้อคิดเห็นและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ 

“เรื่องการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ เวลาผมบินไปต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสและสร้างการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ มั่นใจว่าผลจะตามมา ไม่มีหรอกครับที่นายกฯ จะบินไปเหมือนกับแมลงวัน และในขณะเดียวกันก็ไม่อยากเห็นว่าฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ คอยแต่จะจ้องเล่นการเมือง ทั้งๆ ที่รัฐบาลเองก็พยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ ขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชน แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เรื่องของทุจริตคอร์รัปชัน เรามั่นใจว่าเราไม่มี ถ้ามีก็นำข้อมูลมา นำหลักฐานมา ก็ยินดีที่จะโต้แย้งหรือให้ความกระจ่างได้ ยืนยันรัฐบาลยังพร้อมทำงานเพื่อประชาชนต่อไป” ในช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยน้ำเสียงขำขัน

...

นายเศรษฐา กล่าวต่อไปว่า การดึงดูดการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่แค่เอาธุรกิจหรือเม็ดเงินเข้ามาเท่านั้น แต่หลายอย่างเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การอัปสกิล รีสกิล การเทรนบัณฑิตจบใหม่ หรือวิศวกรที่ยังต้องปรับตัวให้เข้ากับอุตสาหกรรมที่มีผลกำไรสูง ต้องใส่เข้าไปในข้อตกลงที่จะมาลงทุนในไทยด้วย เพื่อให้คนของเราได้รับการเทรนหรือการฝึกงานที่เหมาะสม สามารถก้าวไปสู่การมีรายได้สูงขึ้นด้วย 

ส่วนเรื่องที่บอกว่ายังไม่เห็นเม็ดเงินมาลงทุนในตลาดจริงๆ นายเศรษฐา ระบุว่า ถ้าท่านทำงานจริงๆ ก็รู้ คนจะลงทุนเป็นแสนล้าน ต้องใช้เวลาบ้าง ซึ่งเราเห็นสัญญาณที่เป็นบวกๆ และตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง เดินทางไปโปรโมตประเทศที่แสดงเจตจำนงจะมาลงทุนประเทศไทย มีเม็ดเงินเพิ่มมากขึ้น 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นตัวเลขที่ชัดเจนพิสูจน์ได้ ส่วนตัวเลขเงินลงทุน 558,000 ล้านบาท ที่มีผู้อภิปรายสงสัย เป็นตัวเลขที่ยื่นแผนเข้ามาแล้ว แต่เป็นตัวเลขที่จริง และมีอีกหลายบริษัทที่กำลังพูดคุย ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่จับต้องไม่ได้ เชื่อว่าอีก 2 ปีข้างหน้า เราจะเห็นเงินลงทุนเข้ามาในประเทศไทยอย่างมหาศาล ใช้คำว่า สึนามิแห่งการลงทุน ซึ่งตนมั่นใจ และขอให้ท่านมั่นใจ 

ทั้งนี้ เรื่องที่เราไปโฆษณาประเทศกับเรื่องเศรษฐกิจวิกฤติเป็นคนละเรื่องกัน เรื่องวิกฤติหรือไม่เป็นเรื่องที่โต้เถียงกันไป แต่เรื่องที่ไม่ต้องโต้เถียงกันเลยคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ มั่นใจว่าการกระตุ้นเศษฐกิจของไทยต้องเกิดขึ้นแล้ว เชื่อว่าเรามาถูกทาง ซึ่งการออกไปเชื้อเชิญใครเข้ามาลงทุน ต้องให้เขารู้ก่อนว่าเรามีศักยภาพ ถ้าไม่ออกไป เขาจะทราบได้อย่างไร เรามีความพร้อมในทุกมิติ มีสิ่งดีที่ซ่อนเร้นอยู่เยอะ ทั้ง ประชากรที่มีคุณภาพ พลังงานสะอาดที่เรามีศักยภาพสูงมาก ความสามารถในการเป็นศูนย์กลางทางการบิน อาหาร การท่องเที่ยว ค่าครองชีพที่เหมาะสม โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ทำให้เขาสบายใจที่จะเข้ามา ที่สำคัญ จุดยืนทางการต่างประเทศของเรามีความเป็นกลาง ทำให้หลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อินเดีย ไต้หวัน มีความสบายใจที่จะมาลงทุนในไทย ถ้าไม่เชื่อตน ก็ขอให้เชื่อศักยภาพประเทศ ฉะนั้น การเชื้อเชิญให้เข้ามาลงทุนจึงเป็นเรื่องสำคัญ

“ที่ท่านบอกว่า รมว.คลัง ซึ่งกระผมเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่าเป็น รมว. ที่โลกเซ็ง ผมคิดว่าไม่จริงหรอกครับ เพราะว่าการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของผมเนี่ย ผมมั่นใจครับ ผมจะเป็นรัฐมนตรีการคลังที่แก้จนให้กับพี่น้องประชาชน แต่ผมขอฝากไว้นิดแล้วกันนะครับว่า ท่านอย่าเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงงแล้วกัน วันนึงก็จะเป็นฝ่ายค้าน อีกวันนึงก็มีข่าวว่าจะขอเข้าร่วมรัฐบาล กลัวพี่น้องประชาชนจะงงมากกว่า”

นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์การว่างงานบัณฑิตจบใหม่ โดยปีนี้ลดลงจากปีที่แล้ว สะท้อนตลาดแรงงานจบใหม่ดีขึ้น ไม่ได้บอกว่าทำหน้าที่เสร็จแล้ว แต่มาในทิศทางที่ดี และมั่นใจว่าแรงงานจะดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนประเด็นว่ารัฐบาลที่แล้วปราบยางเถื่อนแต่ราคาไม่ขึ้น ไม่ทราบว่าไปปราบที่ไหน แต่ตนเองทำงานกับหลายหน่วย มีผลชัดเจน จับต้องได้ ราคายางพาราขึ้นไม่ใช่อุบัติเหตุ เพราะรัฐบาลนี้ประกาศปราบยางเถื่อนโดยร่วมกับทุกฝ่าย ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจ ซัพพลายลด ดีมานด์เพิ่ม ราคายางก็ขึ้น พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันดำเนินการ “ยืนยันว่าจะทำต่อไป ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ยืนยันครับ ตัวจริงเสียงจริง รัฐบาลเพื่อประชาชนครับ” ก่อนจบการชี้แจงในเวลา 15.44 น.