“นายกฯ เศรษฐา” ลุกแจง หลัง “ชัยธวัช” ผู้นำฝ่ายค้านเปิดการอภิปราย ยัน รัฐบาลทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง ถ้ามีข้อกล่าวหาขอเหตุผลและหลักฐาน มั่นใจรัฐมนตรีทุกคนพร้อมตอบ

เวลา 09.58 น. วันที่ 3 เมษายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงครั้งแรกในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 หลัง นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิด 

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยินดีที่รับฟังทั้งจาก สส.ฝ่ายค้าน และ สส.ฝ่ายรัฐบาล ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะมาตอบข้อสงสัย รัฐบาลจะพยายามตอบให้เกิดความกระจ่าง ในส่วนของข้อเสนอที่เป็นประโยชน์จะนำไปปฏิบัติ ขอให้ใช้เวลา 2 วันนี้อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ ทำให้ประชาชนได้รับข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ซึ่งจากการเริ่มมาก็พูดแรงพอสมควร อาทิ สิ้นหวัง ล้มเหลว ไม่โปร่งใส ถอยหลัง วกวน แต่เชื่อว่าหลายอย่างที่รัฐบาลทำเพื่อให้เกิดแสงสว่างกับประชาชน ถ้ามีอะไรก็ขอให้บอกมา จากการทำงานมา 6 เดือน มั่นใจว่ารัฐบาลทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง 

...

ในเรื่องหนี้สิน มีการตั้งคณะทำงานแก้ไขหนี้นอกระบบ รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย ประเด็นราคาพลังงานก็ดูแลราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล รวมถึงค่าไฟ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เรื่องยาเสพติดก็มีการเดินหน้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ซึ่งไตรมาส 4 ปี 2566 จับยาบ้าได้มากขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวก็มีการทำอีกหลายอย่าง รวมถึงวีซ่าฟรีไทย-จีน ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาก โดยจะยกระดับในเรื่องต่างๆ ต่อไป จะทำให้พาสปอร์ตไทยมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น 

ประเด็นรายได้พี่น้องเกษตรกร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตระหนักดี สส.รัฐบาล 314 เสียง เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ยืนยันว่ารัฐบาลรับฟัง ซึ่งราคายาง ราคาข้าว และพืชผลอื่นๆ ก็ดีขึ้น ไม่มีการประท้วง อีกทั้งมีการเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ ซึ่งไม่เคยมีการทำมาก่อนในอดีตในการเรียกทูตพาณิชย์มาพูดคุยเพื่อผลักดันสินค้าไทย ส่วนเรื่องฝุ่น PM 2.5 ก็มีการดำเนินการ พ.ร.บ.อากาศสะอาด แม้ว่า จ.เชียงใหม่ ฝุ่นยังสูงติดอันดับโลก แต่ปีนี้จุดความร้อนลดลงมากจากปีก่อน ย้ำว่าให้ความสำคัญกับสิทธิพื้นฐานของประชาชนทุกคน 

นายเศษฐา กล่าวไปถึงการกล่าวหาว่าไม่มีตัวตนบนเวทีโลก ตนเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ยืนยันว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องไป หลังรับตำแหน่งก็ต้องไปพบปะพูดคุย บางวงประชุมไม่ได้ไปมาแล้วกว่า 12 ปี การเจรจา FTA ก็ทำต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทุกเรื่องต้องใช้เวลา เพราะเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศ 7 เดือน เชื่อว่าทุกคนมีความปรารถนาดี ถ้ามีข้อกล่าวหาก็ขอเหตุผลและหลักฐาน โดยหลังการเลือกตั้งประเทศก้าวไปสู่การเป็นประชาธิปไตยที่ดีขึ้น พร้อมระบุในช่วงท้ายว่า ยินดีรับข้อเสนอและรัฐมนตรีทุกคนพร้อมชี้แจง ก่อนจบการชี้แจงในเวลา 10.07 น. และเข้าสู่การอภิปรายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์.