“เศรษฐา” ดับข่าวลือปรับ ครม.ดึง ปชป.เสริมทัพร่วมรัฐบาล ยัน 314 เสียงแข็งแกร่ง เพียงพอแล้วยันไม่ได้ให้ความสำคัญกระแสข่าว แต่เน้นปรับการทำงานที่ยังไม่เต็มประสิทธิภาพ “ภูมิธรรม” สำทับแค่ข่าวโคมลอย พรรคร่วมตีกันเกลี่ยเก้าอี้ใหม่ “อนุทิน” เปรยเป็นธรรมหรือจะยกโควตา รมต.ให้คนไม่ได้โหวตให้เป็นนายกฯ “ธรรมนัส” ยัน พปชร. ที่นั่งเพิ่มเติมอีก 1 รอลุ้นคุณสมบัติ “ไผ่ ลิกค์” “โฆษกปชป.” โวยข่าวสวิงขั้วทำพรรคเสียหาย ไม่เคยคุยเรื่องนี้ โวรอชมศึกซักฟอกไม่มีมวยล้มต้มคนดู พท.แสลงหู “ก้าวไกล” เล่นคำหัวข้อญัตติอภิปรายไม่ลงมติ “ประเสริฐ” โวยอภิปรายรัฐบาลไม่ใช่พรรค พท. ฝ่ายค้านเมินถกวิปรัฐบาลขอหั่นเวลาซักฟอกเพิ่มให้รัฐบาล 4 ชั่วโมง “โตโต้” โอ่ให้รอชมข้อมูลล้วน หมัดเด็ด สว.ฝากความหวังฝ่ายค้านจัดหนักขยี้รัฐบาล
จากกรณีที่มีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระบุจะมีการดึงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาร่วมรัฐบาล ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ออกมาปฏิเสธว่าเป็นเพียงข่าวลือ ยืนยันรัฐบาลมี 314 เสียง ถือว่าแข็งแกร่งเพียงพออยู่แล้ว
...
นายกฯร่วมโปรโมตวันผู้สูงอายุ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 เม.ย.ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม ที่โถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นำคณะผู้บริหาร และตัวแทนผู้สูงอายุ เข้าพบนายกฯเพื่อติดเข็มกลัดดอกลำดวนสัญลักษณ์ของผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2567 โดยนายกฯ กล่าวขอบคุณกระทรวง พม.ที่ให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ พร้อมร่วมถ่ายภาพกับผู้บริหารกระทรวง และตัวแทนผู้สูงอายุด้วย สำหรับปี 67 กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) และกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) จัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2567 วันที่ 5 เม.ย.ที่ห้องวายุภักษ์แกรนด์บอลรูม ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ภายใต้แนวคิด “ผู้สูงวัย ศูนย์รวมใจของครอบครัว”
ยืนกรานเงินดิจิทัลชัดเจน 10 เม.ย.
ต่อมาเวลา 11.15 น. นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พูดถึงแผนการใช้จ่ายงบประมาณปี 2568 จะมีการปรับเพื่อนำเงินไปใช้กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ว่า ยังไม่ได้มีการพูด รอวันที่ 10 เม.ย. และนำเข้าที่ประชุม ครม.หนเดียวดีกว่า จะได้ไม่สับสน เมื่อถามว่าในที่ประชุม ครม.ได้พูดถึงการเปิดกาสิโนด้วยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่มี และ ครม.ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ไปพูดคุยกับประเทศจีน เปิดข้อเสนอใหม่ยกเลิกการซื้อเรือดำน้ำเปลี่ยนเป็นซื้อเรือฟริเกตแทน ยังไม่ทราบว่าจะเลื่อนไปเป็นสัปดาห์หน้าหรือเปล่า
สยบข่าวลือปรับ ครม.แกร่งพอแล้ว
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวลือการปรับ ครม.ว่า “ข่าวลือ ท่านพูดถูกคำว่าข่าวลือ มันก็จบที่ข่าวลือ” เมื่อถามว่าแต่มีข่าวถึงขั้นว่าจะดึงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้าร่วมรัฐบาลว่า ไม่เคยมีการพูดคุย อย่างที่เรียนแล้วว่า 314 เสียงแข็งแกร่งพอแล้วในตรงนี้ เรามีความสมัครสมานสามัคคี พูดจากันรู้เรื่องอยู่แล้ว งบประมาณยังไม่ออกเลย วันนี้พูดกันถึงงบฯและการขับเคลื่อนประเทศโดยการใช้งบฯได้สั่งการไปแล้ว อาทิตย์ที่ผ่านมามีการอนุมัติงบฯปี 67 ไปแล้ว ต้องทำงานอย่างจริงจังตอนนี้ เมื่อถามว่า ความตั้งใจของนายกฯคือต้องการให้รัฐมนตรีชุดเดิมขับเคลื่อนงบฯที่เพิ่งผ่านสภาฯใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า วันนี้เราเน้นย้ำและโฟกัสการใช้งบฯขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด
ยัน 2 เก้าอี้ว่างโควตา พปชร.-พท.
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังเหลือโควตารัฐมนตรี อีก 1 ที่ต้องขยับเขยื้อนหรือไม่ นายกฯกล่าวตอบทันทีว่า สมมติก็คือสมมติ เพราะท่านบอกว่าสมมติ เราอยู่กับความเป็นจริงดีกว่าในวันนี้ เมื่อถามว่ายังคงสัดส่วนโควตารัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลไว้เช่นเดิมใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ใช่ เป็นข้อตกลงที่ชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อถามว่ายังยืนยันโควตาเดิมของพรรคพปชร.ใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ก็เป็นโควตาเดิมที่อยู่มานานแล้ว เช่นเดียวกับโควตาของพรรคเพื่อไทย (พท.) ก็เป็นโควตาเดิมที่มีมานานแล้ว
ยึดปรับทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ
เมื่อถามว่าเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่เรียกรองนายกฯและรัฐมนตรีเข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า ได้พูดคุยเรื่องการปรับ ครม.หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เป็นการพูดคุยเรื่องเขตการค้าเสรี (FTA) มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ นายปานปรีย์ พหิธานุกร รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ รวมถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU) ไม่มีการพูดคุยเฉี่ยวไปเรื่องปรับ ครม.แม้แต่สักนิดเดียว ไม่ทราบทำไมถึงมีข่าวปรับ ครม.ออกมาช่วงนี้ และไม่ได้ให้ความสำคัญด้วย เพราะให้รัฐมนตรีทุกคนได้ตั้งใจทำงานดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด เป็นเรื่องใจเขาใจเรา หากมีกระแสออกไป แล้วท่านรู้ว่าท่านต้องถูกปรับออกไป อาจมีความกังวล จุดโฟกัสอาจจะเปลี่ยนไป เชื่อว่าที่เรามายืนอยู่จุดนี้ เราเอาพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ควรจะทำงานให้เต็มที่ เมื่อถามว่าจุดยืนและหลักเกณฑ์ของนายกฯ หากจะปรับ ครม.มีอะไรบ้าง นายเศรษฐากล่าวว่า ถ้าเกิดว่าทำงานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพและขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลไม่ได้ต้องพิจารณาตรงนี้ เมื่อถามว่า ตอนนี้ยังได้อยู่ใช่หรือไม่ นายกฯ ยิ้มก่อนตอบว่า “ก็ยังทำกันอยู่”
“ภูมิธรรม” โบ้ยแค่ข่าวโคมลอย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกระแสการปรับ ครม.ที่อาจดึงพรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาลว่า ต้องถามนายกฯ ไม่มีใครทราบ เป็นอำนาจของนายกฯจะปรับหรือไม่ปรับตามสถานการณ์ ไม่เคยได้ยินจากนายกฯคุยล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ไม่มีการพูดเรื่องนี้ ได้ยินจากสื่อเท่านั้น รวมถึงที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ข่าวลือ ต้องไปดูว่าออกมาจากตรงไหน อาจมีทั้งตั้งใจพูดและไม่ตั้งใจ หรือพูดคาดการณ์ต่างๆ แต่ 314 เสียงของรัฐบาล ทำไมเสียงจะไม่พอ มันทำหน้าที่ของมันอยู่แล้ว ส่วนจะปรับ ครม.หรือไม่คนละเรื่องกัน และยังไม่รู้ว่าปรับหรือไม่ อย่าเพิ่งไปคิดไกล ยังไม่มีการพูดคุยกัน ยังเป็นเรื่องโคมลอย ถ้าเป็นเรื่องชัดเจนค่อยมาว่ากัน เมื่อถามอีกว่า หากดึง ปชป.เข้ามาจะมีปัญหาหรือไม่ เพราะในพรรคร่วมรัฐบาลยังมีหลายคนที่รอเป็นรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี ไม่มีอะไรเลย ทุกคนยังทำงานดี พูดคุยกันได้ดี
ให้ “จักรภพ” ต้องเคลียร์ตัวเองก่อน
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่ากรณีนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯพร้อมกลับมาเล่นการเมืองจะมาช่วยรัฐบาลหรือไม่นั้น นายจักรภพต้องเคลียร์เรื่องราวของตัวเองให้เรียบร้อยก่อน แต่ถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ คนแบบนี้น่าเสียดายน่าจะได้แสดงบทบาทแก้ไขปัญหาประเทศด้วย แต่ถึงอย่างไรต้องจัดการตัวเองก่อน เมื่อถามว่าหากเคลียร์แล้วจะนำความรู้ความสามารถของนายจักรภพมาใช้หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ ส่วนกรณีนายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกฯโพสต์ข้อความว่า “คนในกระบวนการยุติธรรมมาบ่นต้องทำคดีตามธงที่ผู้ใหญ่ต้องการ ทั้งที่เห็นว่าผิดหลักการและกฎหมาย และทำให้เกิดผลเสียระยะยาว เราจะอยู่อย่างนี้จริงๆหรือ” ต้องไปถามนายธงทองว่ารู้สึกกับสถานการณ์แบบไหนอย่างไร แต่รัฐบาลไม่ได้ล่วงล้ำอำนาจของคนอื่น ยืนยันว่านายธงทองยังเป็นที่ปรึกษาของนายกฯอยู่
“สุทิน” เมินเก้าอี้โยกบอกยังสบายใจ
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลังจะควบ รมว.กลาโหมว่า พูดกันมานานแล้ว สัญญาณการปรับ ครม.ยังไม่ทราบ ยังไม่ได้คิด ยังไม่มีสัญญาณล่าสุดจากนายกฯ ตอนนี้ยังสบายใจ ทำงานปกติ สนุกกับงานอยู่ แต่หากถูกปรับจริง ตนอย่างไรก็ได้ แม้ยังไม่ถึงจุดสูงสุดของชีวิต แต่ได้โอกาสทำงานให้ประเทศชาติดีที่สุด พูดจริงๆว่าไม่คิดเรื่องปรับ ครม.เลย อ่านข่าวแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยมีเหตุผล การมีชื่อตกเป็นเป้าทุกครั้งที่มีกระแสข่าวปรับ ครม.แปลว่าน่าสนใจตลอด ดูจากข่าวการนำพรรคใดเข้ามา ดูไม่มีเหตุผล ครม.มือแน่น ในสภาฯก็แน่น ไม่มีปัญหาอะไร เสถียรภาพ สส.ยังแน่น ไม่เชื่อกระแสข่าวจะดึงพรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาล ดูไม่มีเหตุผล สส.มือเยอะอยู่แล้ว ไม่มีเสียงปริ่ม ไม่เห็นมีวิกฤติสภา ครม.ก็แน่น คงยังไม่ใช่บรรยากาศที่จะปรับ แต่เฉยๆ ใครจะมาหรือไป ไม่มีปัญหา
รมต.ประสานเสียงไร้สัญญาณขยับ
นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า ยังไม่ได้รับทราบจากใคร ยังไม่ได้มีการติดต่อ หรือได้ยินถึงการปรับ ครม. นายกฯยังไม่ส่งสัญญาณทุกคนทำงานด้วยความเต็มที่ตามที่นายกฯสั่ง เมื่อถามว่าปรับ ครม.ช่วงนี้เหมาะหรือไม่ นางพวงเพ็ชรตอบว่า ยังไม่แน่ใจ เพราะยังไม่ได้รับสัญญาณจริงๆ และต้องเร่งทำงานตามที่นายกฯได้สั่งว่าทุกคนยังขยันไม่พอ ต้องเร่งทำงานเพิ่มมากขึ้น
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า ยังไม่ได้พูดเรื่องนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกฯ และยังไม่ได้มีการส่งสัญญาณมา เมื่อถามว่าโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีที่ค้างอยู่ของนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรค พปชร. จะส่งสัญญาณว่าจะปรับหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะมีอะไร
“ธรรมนัส” ลุ้น “ไผ่” คุณสมบัติครบ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวถึงกระแส ครม.หลังมีชื่อหลายคนหลุดเก้าอี้ว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ยินรัฐมนตรีพูดคุยกันถึงประเด็นดังกล่าว ไม่มีใครทราบ เมื่อถามว่า คุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของนายไผ่ ลิกค์ สส. กำแพงเพชร พรรค พปชร. ที่อยู่ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ให้รอดูวันที่ 3 เม.ย.และไม่มีการปรับ ครม.ในสัดส่วนของพรรค พปชร.มีแต่เพิ่ม เมื่อถามถึงกระแสที่มีพรรค ปชป.เข้ามาร่วม ครม. มีโอกาสที่พรรค พปชร.จะเสีย 1 เก้าอี้ให้พรรคปชป. ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ไม่ทราบ โควตาของพรรคพปชร.เหมือนเดิม เพิ่มเติมอีก 1 และของเรารักกันเหมือนเดิม เมื่อถามว่านี่เป็นคำการันตีจากนายกฯแล้วใช่หรือไม่ว่าได้ 4 เก้าอี้เท่าเดิม ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า นายกฯให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล นี่คือสาระสำคัญ
“เสี่ยหนู” ชี้เป็นธรรมหรือให้โควตาคนอื่น
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ไม่ได้มีการพูดคุยถึงการปรับ ครม. เป็นเรื่องของนายกฯ กระแสข่าวที่พรรค ปชป.จะมาร่วมรัฐบาล ไม่ทราบเลย เพราะคนที่จะเข้ามาหรือปรับอะไรอยู่ที่นายกฯ เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วมรัฐบาลแล้วจะต้องเกลี่ยโควตารัฐมนตรีใหม่ นายอนุทินกล่าวว่า มันยังไม่มีเรื่องนี้ นายกฯยังไม่แจ้งอะไรให้พรรคร่วมรัฐบาล อย่าไปคิดอะไรล่วงหน้า เมื่อถามย้ำว่า หากมีการปรับ ครม.พรรค ภท.ต้องมีโควตาเท่าเดิม
นายอนุทินตอบว่า พรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ 300กว่าเสียง เป็นพรรคที่โหวตให้ท่านเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ การที่จะเอาคนที่ไม่ได้โหวตเข้ามา ต้องดูว่าจะทำความเป็นธรรมอย่างไรให้ พรรคร่วมรัฐบาลที่ตั้งใจเอานายกฯเศรษฐาเข้ามาเป็นนายกฯ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า การปรับครม.ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำ รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ว่ามีแนวทางอย่างไร แต่เชื่อคงหารือและพูดคุยกัน
โฆษก ปชป.ปัดไม่รู้ข่าวสวิงขั้ว
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวมีชื่อบุคคลในพรรคปรากฏในโผการปรับ ครม.ว่า ไม่ทราบว่ามีแหล่งที่มาจากที่ใด ต้องไปถามคนปล่อยข่าวนี้ ในพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค หรือประชุมร่วมระหว่าง สส.กับกก.บห.พรรค เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ไม่ได้พูดคุยกัน ไม่อยากให้มีรายงานข่าวลักษณะนี้ จะทำให้เสียหายได้ การจะร่วมรัฐบาลคือ เรื่องใหญ่ที่มีกระบวนการกลไกในพรรคต้องพูดคุยกัน เป็นอำนาจของคณะ กก.บห.และ สส.ยังไม่ได้มีการหยิบยกมาพูดกัน พรรค ปชป.ทำหน้าที่ฝ่ายค้านต้องทำให้เต็มที่ ช่วงนี้มีการอภิปรายทั่วไป ทางการเมืองความเป็นสถาบันการจะมาเป็นมวยล้มไม่มีใครทำกัน ประชาชนจับตามองอยู่ตลอด ในฐานะ กก.บห.พรรคคนหนึ่งยืนยันว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ในคณะกรรมการบริหารพรรค ขอยืนยันว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ไม่เคยคุยกับใครทั้งสิ้น
“ประเสริฐ” ติง รบ.ไม่ใช่พรรค พท.
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลตั้งหัวข้อการอภิปรายตามมาตรา 152 ว่า “รัฐบาลเพื่อใคร หัวใจไม่ใช่ประชาชน” ว่าดูเหมือนเป็นคำล้อนโยบายหาเสียงของพรรค พท. อยากจะฝากไปบอกว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสมจากหลายพรรค การอภิปรายตามมาตรา 152 กำหนดให้เสนอแนะแนะนำรัฐบาลเท่านั้น จึงไม่อยากให้ระบุไปถึงพรรคการเมือง ธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา ถ้าอภิปรายผลงานรัฐบาล ไม่ใช่อภิปรายพรรคการเมือง กรณีฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯยอมรับว่า มีความพยายาม แต่เราไม่ได้หนักใจอะไร เพราะเป็นไปตามกระบวนการกฎหมายทุกอย่าง ตอบคำถามได้ทุกเรื่อง เชื่อว่าไม่กระทบความนิยมพรรค เพราะชี้แจงได้ถึงหลักการและเหตุผลที่ไปที่มาได้ชัดเจน ไม่ได้ทำอะไรผิดกติกาเลย ขอให้สบายใจได้ เราพร้อมตอบทุกปัญหาในสภาฯ
“สมศักดิ์” ไม่หวั่นพาดพิงนายใหญ่
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลต้องเตรียมบุคลากรให้ตรงกับคำถาม วุฒิสภาอภิปรายที่ผ่านมา มีตารางชัดเจนช่วงเช้า กลางวัน เย็น อภิปรายเรื่องอะไร แต่ครั้งนี้ยังไม่มีตาราง กรณีพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คงตอบกันไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องใช้องค์ความรู้มากมาย เป็นงานประจำของฝ่ายข้าราชการประจำที่ต้องตอบตามนั้น ตอบตามข้อเท็จจริงไป ไม่ได้ยากอะไร ไม่ใช่ เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงของผู้ไปตอบ เมื่อถามว่าการอภิปรายเกี่ยวกับนายทักษิณทำให้ประท้วงกันวุ่นวายหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า เป็นสีสันการเมือง หากอภิปรายเรื่องนี้ถือว่าให้เกียรติผู้อาวุโส อดีตนายกฯ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เป็นเรื่องที่ดี
“สุทิน” บอกไม่ต้องใช้องครักษ์
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวว่า เป็น การทำงานปกติ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นหรือน่ากังวล ไม่มีประเด็นเผ็ดร้อนหรือประเด็นใหม่ที่น่าตกใจ เมื่อถามว่าหลายฝ่ายมองว่าจะมีการขยายผลเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสุทินกล่าวว่า สังคมแลกเปลี่ยนเรื่องนี้พอสมควรแล้ว คิดว่ายอมรับในเหตุผลของระบบ ส่วนที่กระทรวงกลาโหมเป็นตำบลกระสุนตก เพราะเป็นกระทรวงน่าสนใจ โดยตนไม่มีองครักษ์ ยืนคนเดียวได้ ไม่มีปัญหา
“ทวี” มอง รมต.ควรชี้แจงเอง
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือการอภิปรายทั่วไป โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่จะหยิบยกกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาพูดว่า การอภิปรายของ สส.ตามมาตรา 152 มันคือกระทู้ใหญ่ เป็นประโยชน์กับรัฐบาลที่เพิ่งมาบริหารบางอย่างอาจมองไม่รอบด้านหรือมีอะไรซุกไว้ใต้พรม เป็นเรื่องดีที่กระทรวงยุติธรรมจะได้เข้าไปตรวจสอบ ความจริงควรจะปล่อยให้รัฐมนตรี ตอบ เพียงแต่ว่าถ้าพาดพิงแล้วผิดข้อบังคับควรจะเป็นสิทธิ สส. แต่ถ้าเป็นการถามควรจะรอให้รัฐมนตรีตอบ เมื่อถามว่าฝ่ายค้านยืนยันชัดเจนต้องเอ่ยชื่อนายทักษิณ ขณะที่ประธานสภาฯบอกไม่ให้เอ่ยชื่อจะวุ่นวายหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ยังไม่ได้ยินคำพูดนี้ แต่มีข้อบังคับอยู่แล้ว เรารู้ว่าเจตนาอย่างไร ขณะนี้ฝ่ายค้าน รัฐบาลพัฒนาไปเยอะ ประธานสภาฯเป็นประธานมาหลายสมัยแล้ว คงรักษาการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
อาการป่วย “ทักษิณ” ยึดคำแพทย์
เมื่อถามว่า อาการป่วยของนายทักษิณที่เห็นขณะนี้มีพัฒนาการเหมือนคนปกติ ทั้งที่ก่อนหน้านี้กระทรวง ยธ.การันตีว่าป่วยหนัก พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่าไม่ได้ถามอาการนายทักษิณ เรื่องการป่วยมาตรฐานเราคือยอมรับความเห็นของแพทย์ทุกอย่าง ไม่ใช่แพทย์คนเดียว แต่เป็นคณะแพทย์ ถ้าเราไม่ยอมรับกันเลย เรามีองค์กร เราเขียนกฎหมายให้องค์กรแล้ว แต่ถ้าในอนาคตเห็นว่าควรจะแก้ไขกฎหมายอย่างไร รัฐบาล เปิดกว้างรับฟังการแก้ไข
พท.อัดค้านดะคนไทยเสียโอกาส
นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค พท.กล่าวว่า การเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 วันที่ 3-4 เม.ย. รัฐบาลพร้อมตอบคำถาม ไม่น่ากังวล เชื่อมั่นความเป็นกลางของประธานที่ประชุมสภาฯ จะบังคับใช้ข้อบังคับเคร่งครัดกรณีอภิปรายพาดพิงบุคคลภายนอก นับตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง และ ครม. บริหารราชการแผ่นดิน 7 เดือน ลงพื้นที่อย่างหนัก เป็นรัฐบาลไม่ถึง 10 เดือน ยังไม่มีงบฯ แต่ผลงานมากมายเป็นที่ประจักษ์ เช่น ลดค่าครองชีพ ค่าพลังงาน ค่าไฟฟ้า ราคายางพุ่ง 90 บาท/กก.สูงสุดในรอบ 7 ปี รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เข้าใจดีถึงความเป็นห่วงของฝ่ายค้าน เราเป็นห่วงประชาชนไม่แพ้กัน แต่บางเรื่องต้องใช้งบฯ บางเรื่องต้องใช้เวลาแก้กฎหมาย ต้องรอบคอบ ไม่ได้ทำง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ ที่พรรค ก.ก.ตั้งคำถามเราเป็นรัฐบาลเพื่อใคร ประชาชนไม่ได้อะไร อยากให้ฝ่ายค้านมองประเด็นให้ถูกต้องว่าการอภิปรายมาตรา 152 เป็นการอภิปรายรัฐบาล ไม่ใช่อภิปรายพรรค พท. ฝ่ายค้าน “ทวงทุกอย่าง แต่ค้านทุกสิ่ง” อาจทำให้คนไทยเสียโอกาส เมื่ออภิปรายเสร็จนายกฯ คนที่ 30 ยังอยู่เหมือนเดิมคือนายเศรษฐา ไม่มีนายกฯครึ่งเบอร์ ไม่ต้องห่วง ยังมีเวลาอีก 3 ปีกว่า ทำให้นโยบายหาเสียงเป็นจริงได้
ยกเสียงชาวบ้านข่มพอใจผลงาน รบ.
น.ส.ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรค พท. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบประชาชนต่างสะท้อนความเห็นพอใจนโยบายรัฐบาลมาก เช่น 30 บาท รักษาทุกที่ ประชาชนฝากความขอบคุณมายังพรรค พท. ที่พัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ทำให้ได้รับการรักษาทั่วถึง ช่วยรักษาชีวิตประชาชนเป็นอย่างมากและประชาชนฝากกำลังใจให้รัฐบาลเดินหน้าลุยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต อย่าไขว้เขวเสียงวิจารณ์แม้จะเลื่อนไทม์ไลน์ คาดว่าประชาชนจะได้รับเงินดิจิทัลช่วงปลายปี อยากให้รัฐบาลทำให้สำเร็จ ช้าไม่เป็นไร พรรค พท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เน้นทำงานร่วมกับทุกฝ่าย เน้นเนื้องาน ไม่ใช่เนื้อหาวาทกรรมที่เลื่อนลอยไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ
วิป 3 ฝ่ายหารือเคลียร์หั่นเวลา
ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ กล่าวว่า ได้นัดวิป 3 ฝ่าย มาหารือวันที่ 3 เม.ย. เวลา 08.00 น. เพื่อพูดคุยกรอบเวลาการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 วันที่ 3-4 เม.ย.หลังจากวิปรัฐบาลขอปรับลดเวลาการอภิปรายของฝ่ายค้านจาก 22 ชั่วโมง เหลือ 18 ชั่วโมง เพื่อไปเพิ่มให้ฝ่ายรัฐบาลจาก 6 ชั่วโมงเป็น 10 ชั่วโมง คงยากที่จะขยายเวลาอภิปรายออกไปวันที่ 5 เม.ย.อีก 1 วัน ทุกฝ่ายรับรู้และเตรียมตัวไว้แล้ว จะอภิปรายเพียง 2 วันคือวันที่ 3-4 เม.ย.เท่านั้น
ฝ่ายค้านไม่ร่วมเจรจาเพิ่มเวลา ครม.
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะวิป รัฐบาลให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ นัดวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาลร่วมหารือกำหนดรายละเอียดการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านเท ไม่ยอมมาตามนัดหมาย จนนั่งรอเก้อในห้องประชุม เดิมวิป 2 ฝ่ายหารือไว้คร่าวๆฝ่ายค้านได้ 22 ชั่วโมง รัฐมนตรีได้ 6 ชั่วโมง แต่เมื่อดูจากการอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภา (สว.) ครม.แจ้งวิปรัฐบาลว่ารัฐมนตรีได้ชี้แจงแค่ 3 ชั่วโมงต่อ 1 วัน ไม่เพียงพอ จะส่งผลกระทบต่อการรับรู้ของประชาชนที่รับฟังจะเข้าใจผิด มีผลต่อภาพลักษณ์รัฐบาลได้ จึงขอเวลามากขึ้นจาก 6 ชั่วโมงเป็น 10 ชั่วโมง ฝ่ายค้านเดิมจาก 22 ชั่วโมงเหลือ 18 ชั่วโมง แต่ฝ่ายค้านไม่มาร่วมประชุม กลับไปตอบโต้ผ่านสื่อมวลชน ประธานสภาฯจึงขอนัดหมายมาประชุมใหม่วันที่ 3 เม.ย. เวลา 08.00 น. ถ้ายังพูดคุยไม่รู้เรื่องต้องเสนอให้โหวตในที่ประชุมสภาฯ ขอเรียกร้องให้ฝ่ายค้านได้เข้าร่วมประชุมวิป 2 ฝ่ายในวันที่ 3 เม.ย.ก่อนประชุมสภาฯ
วอนใจเย็นห่วงอนาคตไม่ราบรื่น
นายอัครเดชกล่าวอีกว่า ขอให้ฝ่ายค้านเข้ามาร่วมประชุม ใจเย็นมาพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ไม่ต้องลงมติในสภาฯจะดีกว่า ถ้าถึงขั้นลงมติแบ่งเวลากันจะทำให้การทำงานร่วมกันในอนาคตไม่ราบรื่น ดังนั้นจากนี้ไป อยากให้ 2 ฝ่ายเคารพเหตุผลซึ่งกันและกัน ไม่อยากเห็นการตอบโต้ไปมาผ่านสื่อ ฝ่ายรัฐบาลไม่อยากให้ฝ่ายค้านเอาประเด็นนี้มาเล่นเกม รัฐบาลไม่ขอเล่นเกมด้วย เพราะเราคำนึงถึงเหตุผล ทำอย่างไรให้การอภิปรายตามมาตรา 152 ราบรื่นเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
“โตโต้” โอ่ซักฟอก รบ.ล้วนหมัดเด็ด
นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรค ก.ก. เตรียมประเด็นค่อนข้างครอบคลุมทุกเนื้อหา ยืนยันว่าการอภิปรายจะเป็นประเด็นสำคัญที่สมควรติดตาม เมื่อถามว่า กรณีที่มีกระแสข่าวพรรค ปชป.จะเอนเอียงไปฝั่งรัฐบาล นายปิยรัฐกล่าวว่า ไม่เข้าใจความหมายของการเอนเอียงไปฝั่งรัฐบาล จะเป็นในเนื้อหาหรือไม่ เราควรรับฟังพร้อมกัน แน่นอนว่าทั้งหมดอาจไม่ถูกใจพี่น้องประชาชน เพราะต้องการทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุล และการอภิปรายตามมาตรา 152 ไม่ได้ลงมติอยู่แล้ว คงไม่มีใครยกมือให้ผ่านหรือไม่ผ่าน การซักถามอาจเป็นประโยชน์กับรัฐบาลด้วยซ้ำไป ถ้ารัฐมนตรีตอบได้หรือรับฟังข้อเสนอแนะของ สส.ฝ่ายค้านจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล แต่ถ้าบอกว่าเอนเอียงก็เอนเอียงต่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ถ้าถามแล้วประชาชนถูกใจ รัฐมนตรีตอบได้ นำไปปรับปรุงแก้ไข จะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน
แจง “โรม “จัดหนักไปแล้วปม “ทักษิณ”
นายปิยรัฐกล่าวอีกว่า ที่ติติงว่าหัวข้อของฝ่ายค้านไม่สร้างสรรค์ จะสร้างสรรค์หรือไม่อยู่ที่เนื้อหา หัวข้อเป็นเหมือนน้ำจิ้มเชิญชวนให้ประชาชนติดตาม อาจตั้งเป็นประเด็นให้สังคมติดตาม เนื้อหาการอภิปรายอยากให้คนติดตามวันที่ 3-4 เม.ย.น่าสนใจแค่ไหน บางฝ่ายระบุไม่มั่นใจถึงการอภิปรายกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ของพรรค ก.ก. เรื่องนายทักษิณเราไม่ต้องพูดถึงก็ได้ เพราะล่าสุดนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.จัดหนักพอสมควรแล้ว ไม่ต้องอภิปรายมาตรา 152 ก็จัดหนักกันไปแล้ว ถ้าถึงลูกถึงคนกว่านั้นจะเป็นเรื่องรายละเอียด มั่นใจว่าทุกเรื่องมีสาระสำคัญ เรื่องนายทักษิณเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม มีหัวข้อนี้อยู่
ปชป.ยันไม่มีมวยล้ม อย่ากลัวเกินเหตุ
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า พรรคได้เตรียมข้อมูลและพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่า 7 เดือน ที่รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินมีข้อบกพร่อง ไร้ประสิทธิภาพ เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง โกหกหลอกลวง พี่น้องประชาชน มีความสำเร็จสูงสุดอย่างเดียวของรัฐบาลคือ เรื่องนายทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลอย่ากังวลจนเกินไป ขอเตรียมคำตอบไว้เท่านั้น สส.ของพรรคไม่กังวลการประท้วง ต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับ กระบวนการ ในการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาด ถ้าอภิปรายไม่ได้เลยคงไม่ใช่ อย่ากลัวจนเกินเหตุ
ฉะ “นิพิฏฐ์” อย่าด้อยค่าไม่ใช่อะไหล่
นายราเมศกล่าวอีกว่า วันนี้ สส.พรรค ปชป. เตรียมอภิปราย ได้ประชุมหารือกลุ่มย่อยตลอดทั้งวัน กรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ได้กล่าวหาพรรค ต้องบอกว่า ปชป.เป็นสถาบันทางการเมือง ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ไม่มีการแก้ผ้ารอใครเพื่อไปร่วมรัฐบาล นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคสั่งลุยเต็มที่ การยกเรื่องคดีตีนไก่มากล่าวหาหัวหน้าพรรคว่า คงไม่กล้าอภิปรายไม่จริง เพราะคดีต่างๆนายเฉลิมชัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พรรคไม่เคยรอเป็นอะไหล่ให้รัฐบาล นายเฉลิมชัยมาจากการเลือกตั้ง ใครไม่ชอบส่วนตัวไม่เป็นไร แต่ต้องให้โอกาสบริหารพรรคตามระบบ
สว.หวังฝ่ายค้านขยี้หนักรัฐบาล
นายประพันธ์ คูณมี สว. กล่าวว่า หากฝ่ายค้านทำหน้าที่เข้มแข็งในการอภิปรายประเด็นสำคัญทั้งการเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนด การจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินที่ส่อทุจริต การรับส่วยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โครงการดิจิทัลวอลเล็ต การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา อยากเห็นการอภิปรายที่มีประสิทธิภาพ เอาจริงเอาจัง ถ้า สส.เอาข้อมูลเชิงลึกมาอภิปราย ชี้ให้เห็นข้อบกพร่องผิดพลาด แม้ไม่มีการลงมติ แต่พ่ายแพ้ทางการเมืองได้ ถ้าประชาชนไม่เชื่อถือ รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ ส่วนที่รัฐบาลห้ามฝ่ายค้านอภิปรายถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่แน่ใจพรรค ก.ก.จะจริงจังแค่ไหน เชื่อว่าพรรค ปชป.จะทำหน้าที่เรื่องนี้ได้ดีกว่า ยิ่งรัฐบาลปกป้องนายทักษิณจะเสียเอง คนจ้องรัฐบาลเป็นผู้ทำลายหลักนิติธรรมเอง
ปัด “ยิ่งลักษณ์” นั่งผู้แทนพิเศษ UN
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าว The Irrawady ของเมียนมา รายงานกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนพิเศษประจำเมียนมาของเลขาธิการสหประชาชาติ หลังเมียนมาไม่มีตำแหน่งดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2556 ว่า เห็นข่าวเช็กเบื้องต้นแล้วแต่ยังไม่พบข้อเท็จจริง ไม่แน่ใจว่าข่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร สำนักข่าวที่รายงานบทความ อาจใช้พาดหัวและเติมข้อความเข้าไป แต่รัฐบาลไทยยังไม่ได้รับการยืนยันว่ามีการแต่งตั้ง วันที่ 1 เม.ย.เป็นวัน April Fool’s Day ยังไม่น่าจะเป็นไปตามที่สื่อรายงาน ไม่น่าจะใช่ เมื่อถามว่าถ้าแต่งตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์จริง จะถือว่าผิดหลักไม่แทรกแซงกิจการภายในอาเซียนหรือไม่ นายปานปรีย์กล่าวว่า อันนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่มีความผิด ถ้าเป็นการแต่งตั้ง สหประชาชาติจะพิจารณาตามความเหมาะสม หากเห็นแล้วว่าเหมาะสมตั้งใครก็ได้มารับตำแหน่ง ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลไทย
“เศรษฐา” ย้ำใช้กัญชาแค่การแพทย์
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีที่กล่าวกับสำนักข่าวต่างประเทศถึงแนวคิดที่จะนำกัญชากลับมาสู่บัญชียาเสพติด และให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้นว่า ตนพูดอย่างชัดเจนนำกัญชามาใช้เพื่อทางการแพทย์ ส่วนจะนำไปดำเนินการอย่างอื่นก็ให้เป็นแนวทางเฉพาะการควบคุมการใช้เพื่อเกี่ยวกับทางการแพทย์เท่านั้น
“ชลน่าน” ยอมรับดึงกลับกระทบอื้อ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า อาจเป็นมุมมองของนายกฯ เพราะนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ชัดเจนว่า กัญชาหากนำมาใช้ต้องเป็นประโยชน์เพื่อการแพทย์หรือสุขภาพ และในมิติเศรษฐกิจ ต้องปฏิบัติตาม ข้อเท็จจริงกัญชาเป็นสารเสพติดเฉพาะสารสกัดที่มีค่าเกิน THC 0.2% แต่หากนำกัญชากลับมาเป็นสารเสพติดต้องแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ต้องรื้อระบบใหม่ จะมีผลกระทบมากจากการที่ปล่อยให้ถูกกฎหมายไปก่อนหน้านี้ ทั้งเอกชน ร้านกัญชาและอื่นๆ ที่เป็นห่วง เช่น การนำช่อดอกที่ไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นสารเสพติดไปจำหน่าย แต่หากนำไปสกัดสันนิษฐานได้ว่ามี THC เกิน 0.2% แน่นอน ขึ้นอยู่กับนโยบายของนายกฯ ส่วนกฎหมายควบคุมกัญชาขณะนี้ยกร่างเตรียมเสนอ ครม.แล้ว เพื่อรองรับต่อนโยบายกัญชาที่แถลงต่อรัฐสภา
“จุลพันธ์” เชื่อกาสิโนแก้ปัญหาสังคม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร กล่าวถึงความคืบหน้าการนำรายงานการศึกษาเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ว่า คาดว่าไม่เกิน 1-2 สัปดาห์หลังจากนี้เรื่องน่าจะเข้า ครม.ได้ และขึ้นกับ ครม.ว่าจะมีข้อสั่งการหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้จากการรับฟังเบื้องต้นรัฐมนตรีหลายท่านเห็นค่อนข้างตรงกันว่า เป็นประโยชน์ เพราะจะเป็นทางออกแก้ปัญหาที่มีอยู่ในสังคม โดยใช้กลไกทางกฎหมายกำกับดูแลเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น แต่คงลงรายละเอียดไม่ได้ว่า จะสร้างในพื้นที่ใด เนื่องจาก กมธ.ฯไม่มีหน้าที่ เราแค่ศึกษาว่ากรอบควรเป็นอย่างไร ที่เอาไปพูดกันเป็นข่าวเล่าอ้างทั้งสิ้น ทั้งนี้ เบื้องต้นได้กำหนดให้นายกฯเป็นผู้รับผิดชอบ อาจทำในลักษณะซุปเปอร์บอร์ดขึ้นมาพิจารณา
ดีอีรับลูก 30 วันปราบโจรไซเบอร์เห็นผล
อีกเรื่อง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีมอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมมือกับกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) แก้ปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ว่า ในที่ประชุม ครม.ได้สั่งการกับนายประเสริฐ ให้ทำงานบูรณาการใกล้ชิดกับ สอท.ให้มีผลชี้วัดให้ชัดเจนภายใน 30 วัน ขณะที่นายประเสริฐกล่าวว่า จะเรียกประชุมร่วมกับ สอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยด่วนเพื่อกำหนดทีมทำงาน ต้องปราบปรามใช้ยาแรงขึ้น ตอนนี้เราทำงานกับเพื่อนบ้าน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาปลัดดีอีและทีมงานไปเจรจากับทางกัมพูชา ภายใน 30 วัน เห็นผล อย่างน้อยมีการจับกุมเอาผิดได้
สว.ผ่าน ก.ม.สมรสเท่าเทียมวาระแรก
ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป. แพ่งและพาณิชย์ หรือ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมวาระแรก โดย สว. หลายคนเห็นด้วยในหลักการให้บุคคลเพศเดียวกันสมรสกันได้ โดยได้สิทธิต่างๆตามกฎหมายเหมือนคู่สมรสชาย-หญิง แต่แสดงความเป็นห่วงเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนถ้อยคำจากคำว่า “สามี-ภริยา” เป็นคู่สมรส หรือ “ชาย-หญิง” เป็นบุคคลทั้งสอง อาจจะสร้างความยุ่งยากต้องไปแก้ไขเนื้อหาและถ้อยคำในกฎหมายอื่นๆตามมาอีกหลายฉบับให้สอดคล้องกัน หลังจากอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมด้วยคะแนน 147 ต่อ 4 เสียง งดออกเสียง 7 จากนั้นตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณาในวาระ 2-3 ต่อไป
นายกฯให้ “สุดาวรรณ” 10 คะแนนเต็ม
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง เป็นประธานงานแสดงวิสัยทัศน์ Thailand Tourism 2025 มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ รัฐมนตรีและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม มี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวรายงาน ทันทีที่กล่าวรายงานจบนายกฯ และผู้ร่วมงานต่างลุกขึ้นยืนปรบมือ นายกฯขึ้นเวทีกล่าวชมว่า ว้าว ได้มาชมการนำเสนอของ น.ส.สุดาวรรณ สุภาพสตรีตัวเล็กใจใหญ่ คิดใหญ่ ทำเป็น ทำให้งานถูกเริ่มด้วยความภาคภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทย จะใช้ประเทศไทยเป็นเวทีต้อนรับแขกผู้มาเยือนจากทั่วโลก มั่นใจอีก 3-6 เดือนนี้จะมี World Event ทยอยมาเปิดตัวในไทยต่อเนื่อง ถ้าพูดถึงเกรดคือ 10 เต็ม 10 ในวันนี้ ก่อนร่วมถ่ายรูปหมู่ นายกฯยังหันไปยกนิ้วโป้งให้อีกด้วย
“ปุ๋ง” บอกนายกฯชมเชยทั้งทีม
น.ส.สุดาวรรณ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวถูกปรับออกจาก ครม.อยู่ตลอดเวลาว่า ไม่ทราบเลย เพิ่งจะทราบจากนักข่าว เมื่อถามว่า นายกฯชมแบบนี้ แสดงว่าสมัยหน้าจะยังอยู่กระทรวงเดิมหรือไม่ น.ส.สุดาวรรณตอบว่า อาจจะเป็นคนแรกที่พูดหรือเปล่า ต้องขอบคุณนายกฯมากๆ นายกฯเห็นความตั้งใจที่เราทำกันมา ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่คิดว่า 10 คะแนน ที่นายกฯให้เป็นการให้ทั้งทีมที่มีส่วนกับการท่องเที่ยว
“อุ๊งอิ๊งค์” งงสื่อรุมซักข่าวปรับ ครม.
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ที่เดินทางมาร่วมงานแสดงวิสัยทัศน์ Thailand Tourism 2025 แต่ไม่ได้เข้าไปภายในงานด้านในเพียงแต่เดินชมบูธอยู่ด้านนอก หลังนายกฯกล่าวเปิดงานเสร็จ ได้เดินออกมาร่วมชมบูธต่างๆกับ น.ส.แพทองธาร ก่อนพากันแวะบูธชิมขนมควยลิง และชิมเมี่ยงคำ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวปรับ ครม. น.ส.แพทองธาร ย้อนถามว่า “กระแสปรับ ครม.ทำไมมาถามอิ๊งค์ล่ะ”
พปชร.รดน้ำสงกรานต์ขอพร “ลุงป้อม”
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด แกนนำ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สส.และสมาชิกพรรค นำโดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานยุทธศาสตร์พรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯและเลขาธิการพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรค เข้ารดน้ำดำหัวขอพร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ โดยพร้อมใจกันใส่เสื้อลายดอก ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ให้พรทุกคนพบกับความเจริญรุ่งเรือง มีความสุข อยู่ร่วมงานกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อนำพาพรรคไปสู่การเป็นตัวแทนของประชาชน เป็นสถาบันการเมืองได้อย่างแท้จริง และย้ำให้สส.เข้าร่วมประชุมอภิปรายทั่วไปในสภาฯวันที่ 3-4 เม.ย.อย่างพร้อมเพรียง
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่