“วราวุธ” ยัน พม.พร้อมแจงฝ่ายค้านอภิปราย เตือน พาดพิงบุคคลที่ 3 ต้องระวัง เพราะไม่มีสิทธิ์แจงในสภาฯ ปัดตอบ 7 เดือน เหมาะสมปรับ ครม. หรือไม่ ยัน เป็นวิจารณญาณของ “เศรษฐา”

วันที่ 2 เมษายน 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เมษายน 2567 ว่า ในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ไม่กล้าตอบว่ามีความพร้อมมาก แต่การทำงานตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา มีการปรับบทบาทการทำงานจากเชิงรับเป็นเชิงรุก แม้รายละเอียดบางเรื่องมีความผิดพลาด แต่ละอย่างก็มีการแก้ไขปัญหาและมีความก้าวหน้า แต่ก็พร้อมที่จะให้คำตอบ พร้อมที่จะรับฟังคำติชมจากฝ่ายค้านหากมีข้อสงสัยหรือตั้งข้อสังเกต

ส่วนคำถามว่ากรอบเวลาที่กำหนดให้ฝ่ายรัฐบาลชี้แจงนั้นเหมาะสมหรือไม่ นายวราวุธ ระบุว่า ก็ขึ้นอยู่แต่ละรัฐมนตรี บางท่านอาจจะต้องใช้เวลาในการชี้แจงมากขึ้น แต่ในส่วนของ พม.จะพยายามใช้เวลาให้กระชับมากที่สุด ซึ่งรัฐบาลได้เวลาชี้แจง 4 ชั่วโมง ก็จะมีการจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 

ขณะที่การอภิปรายครั้งนี้มีการพาดพิงบุคคลที่ 3 ซึ่ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าไม่ควรที่จะพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 เป็นอันขาดนั้น นายวราวุธ เผยว่า หากพูดในแง่ดี คงจะไม่มีใครต่อว่า แต่หากมีการพาดพิง ในกรณีที่อาจเกิดความเสียหายกับบุคคลที่ 3 ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ส่วนตัวมองว่าควรที่จะต้องระมัดระวัง เนื่องจากบุคคลที่ 3 ไม่สามารถเข้ามาชี้แจงในสภาฯ ได้ ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 

...

สำหรับประเด็นการทำงานครบ 7 เดือน เหมาะสมกับการปรับ ครม. แล้วหรือไม่ นายวราวุธ ตอบว่า ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของพรรคแกนนำคือพรรคเพื่อไทย (พท.) รวมถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่ามีแนวทางอย่างไร แต่เชื่อว่าคงจะมีการหารือและพูดคุยกัน.