“เศรษฐา” ตอกย้ำรัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ วางคิวกลางเดือน พ.ค. นำคณะซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ไทยเยือนฝรั่งเศสอีกรอบ จับเข่าดีลลงทุนระหว่างนักธุรกิจไทย-นักธุรกิจเมืองน้ำหอม เพื่อไทยตอกลิ่มฝ่ายค้านแตกคอไร้เอกภาพ เย้ยชำแหละรัฐบาลแค่ฉายหนังม้วนเก่า มั่นใจตอบเคลียร์ทุกประเด็น “สรวงศ์” ขึงขังห้ามแตะต้อง “อิ๊งค์-ทักษิณ” “อนุทิน” ชิงจังหวะใช้โอกาสตีปี๊บผลงานรอบ 6 เดือน ก้าวไกลเปิดธีมถล่ม“รัฐบาลเพื่อใคร หัวใจไม่ใช่ประชาชน” ก๊อกสอง โรยเกลือซ้ำนำหลักฐานเด็ดยื่น ป.ป.ช.จัดการทุจริตอีกดอก “เฉลิมชัย” ขึงขังกำชับลูกพรรคใส่เต็มร้อย การันตีไม่มีมวยล้มต้มคนดู พท.เร่งร่าง ก.ม.สถานบันเทิงครบวงจรดันเข้าสภาฯเทอมหน้า “เสี่ยหนู” หนุนเปิดควบคู่ออกกติกาเข้ม ประชาธิปัตย์ค้านเปิดกาสิโนบนดิน ก่อปัญหาสังคม-อาชญากรรมตามมาตรึม สุดคึกฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-มธ. ขบวนพาเหรดล้อการเมืองเผ็ดร้อนเขย่าอมาตยาธิปไตย
ยิ่งใกล้ศึกวันอภิปรายรัฐบาลแบบไม่ลงมติ พรรคร่วมฝ่ายค้านประสานเสียงซักฟอกเข้มข้นแน่ต้นเดือน เม.ย.นี้ โดยพรรคก้าวไกลตั้งธีมอภิปราย “รัฐบาลเพื่อใคร หัวใจไม่ใช่ประชาชน” พรรคประชาธิปัตย์ทำดุดันใส่เต็มร้อย ไม่มีมวยล้มต้มคนดู จองกฐินจับมือถล่มกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐานกระทบชิ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
...
นายกฯย้ำรัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าว FRANCE 24 ประเทศฝรั่งเศส โดยย้ำถึงนโยบายเร่งด่วน นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า ในช่วงจัดตั้งรัฐบาลในระยะแรกสิ่งสำคัญที่สุดคือ กระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจาก 9 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดก่อนยังละเลยปัญหาเศรษฐกิจไปบ้าง รัฐบาลของตนจึงเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน รวมถึงจัดทำแผนระยะยาวสำหรับประเด็นสำคัญๆ เช่น ส่งเสริมการลงทุน ทั้งจากสหรัฐอเมริกาและจีน เป็นต้น รวมถึงการได้พบกับนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในคราวเดินทางเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ เห็นว่ามีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ ใส่ใจโลก มีโอกาสพูดคุย ถึงความสัมพันธ์ 300 ปีระหว่างไทย-ฝรั่งเศส เป็น หนึ่งในคู่ค้าของไทยที่ยาวนาน พร้อมสนับสนุนวีซ่าเชงเก้นฟรีกับไทย ในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ จะไป เยือนฝรั่งเศสอีกครั้ง เพื่อหารือถึงการประชุมนักธุรกิจชาวไทยและฝรั่งเศส โดยนำคณะผู้แทนบริษัทใหญ่ไปเต็มรูปแบบเชื่อว่าฝรั่งเศสจะนำบริษัทชุดใหญ่มาด้วย เพื่อหารือถึงการลงทุนระหว่างกัน
มั่นใจไทยประชาธิปไตยเบ่งบาน
เมื่อถามถึงความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่นายกฯจากพรรคเพื่อไทย (พท.) มักถูกรัฐประหาร นายเศรษฐาระบุว่า ไม่กังวลกับสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่จะให้ความสำคัญกับสิ่งที่สามารถควบคุมได้ และเรียนรู้จากความผิดพลาดของรัฐบาลชุดก่อน รวมถึงมีเป้าหมายชัดเจน ต้องการทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยดีขึ้น มั่นใจอนาคตของประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้นั่งอยู่จุดนี้ เมื่อถามถึงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา นายเศรษฐาตอบว่า หากมีผู้ต้องการขอความช่วยเหลือ รัฐบาลก็พร้อมช่วย ขณะนี้มีผู้อพยพส่วนหนึ่งมาอยู่ในประเทศไทยแล้ว แต่เมื่อคราวที่นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติจากสหรัฐอเมริกา และนายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจากจีน ได้มาประชุมอย่างไม่เป็นทางการที่กรุงเทพฯ พร้อมร้องขอให้ประเทศไทยทำหน้าที่เป็นคนกลางไม่ให้ปัญหาบานปลาย จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ดังนั้น ปัญหาผู้ลี้ภัยจึงไม่ใช่ปัญหาหลัก ควรเน้นไปที่บทบาทของประเทศไทย มีบทบาทได้อย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้ปัญหาบานปลายจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง
จ่อลุยดินแดงยกระดับชีวิต ปชช.
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ที่ชาร์จแบตในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวันที่ 1 เม.ย. เวลา 16.00 น. นายกฯ มีกำหนดลงพื้นที่เขตดินแดง พบปะประชาชนในพื้นที่บริเวณลานกีฬาแฟลต 51-53 รวมถึงตลาดกลางดินแดง ซ.ประชาสงเคราะห์ 11 ซ.ประชาสงเคราะห์ 9 ที่เป็นพื้นที่ที่มีประชาชนพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ร่วมคณะลงพื้นที่ พูดคุยกับประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง ถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ปัญหาหนี้นอกระบบ รวมถึงปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และจะมอบแนวให้ทางผู้เกี่ยวข้องไปดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
รมว.จีนนำคณะพบ “แพทองธาร”
วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพ ทองธาร ชินวัตร หัวหน้า พท. พร้อมคณะ สส. อาทิ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่และ รมช.คลัง นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรค พท. นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรค พท. ให้การต้อนรับ นายหลิว เจี้ยนเชา รมว.วิเทศสัมพันธ์แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับมิตรที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน ถือเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน จีนถือเป็นประเทศแรกนอกอาเซียนที่นายเศรษฐา ทวีสิน ไปเยือนหลังได้รับตำแหน่งนายกฯ แสดงถึงความสำคัญที่รัฐบาลไทยชุดใหม่มีต่อจีน การนำของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีแผนดำเนินนโยบายส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ผ่านการวางโครงสร้างการขนส่งทั้งระบบรถไฟ โครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมต่อเส้นทางการค้าไทย-จีน ให้สะดวกมากขึ้น หวัง ว่านอกจากสนับสนุนสร้างงานและสินค้าท้องถิ่นไทยแล้ว บริษัทจากจีนจะช่วยส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อพัฒนานวัตกรรมไทยในระยะยาว ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ยังใช้โอกาสนี้พูดถึงนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ และ 30 บาทรักษาทุกที่ ที่พรรคพท.ให้ความสำคัญ หวังในอนาคตนโยบายทั้งสองจะเป็นส่วนที่ทำให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีนเติบโต และมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเทคโนโลยี วิจัยทางการแพทย์ร่วมกัน
“หลิว” หวานเชิญเยือนถิ่นมังกร
ขณะที่นายหลิว เจี้ยนเชา กล่าวว่า ไทยเป็น มิตรแท้ของจีนมาโดยตลอดตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ รู้สึกประทับใจที่ น.ส.แพทองธารเป็นนักการเมืองหญิงรุ่นใหม่ มาต้อนรับอย่างอบอุ่นและยังมีวิสัยทัศน์ด้านความร่วมมือระหว่างไทย-จีนที่ครอบคลุมรอบด้านทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค สอดคล้องโครงการสายแถบและเส้นทางของจีน (BRI) ยินดี ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับไทย เพื่อเร่งผลักดันรถไฟฟ้าความเร็วสูงระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ที่เชื่อมโยง จีน-ลาว-ไทย ทั้งนี้จีนยังได้แสดงความยินดีที่ทาง มาเลเซียได้ตอบรับการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟฟ้า ไทย-มาเลเซีย เพราะสานต่อให้รถไฟในภูมิภาคเอเชียเกิดขึ้นจริงได้ จีนพร้อมให้ความร่วมมือกับไทยในทุกมิติ และทราบว่า น.ส.แพทองธาร เป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สำหรับการดึงดูดของนักท่องเที่ยวและส่งเสริมแบรนด์สินค้าท้องถิ่น เชื่อว่าจีนเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุดของไทย แต่ ยังไม่มีคณะกรรมาธิการซอฟต์พาวเวอร์ จึงหวังแลกเปลี่ยน ศึกษาเรียนรู้จากไทย ด้วยเสนอให้ไทยจัดตั้งศูนย์ซอฟต์พาวเวอร์ไทยในกรุงปักกิ่ง พร้อม เชิญ น.ส.แพทองธารเยือนจีนอย่างเป็นทางการใน โอกาสแรก เพื่อส่งเสริมผลักดันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 ประเทศในทุกมิติต่อไป
“สรวงศ์” ขึงขังห้ามแตะ “อิ๊งค์-ทักษิณ”
นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย.ว่า พรรค พท.รวมถึงรัฐบาลเตรียมข้อมูลตอบคำถามได้ทุกข้ออยู่แล้ว หากเมื่อไหร่แตกประเด็น พรรค พท.ไม่มีทางยอมแน่นอน ถ้ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตีกินทางการเมืองแล้วใช้มาตรา 152 มา เป็นข้ออ้างเปิดอภิปรายแล้วด่าฟรี พวกเราไม่ยอม แน่นอน เมื่อถามว่าการอภิปรายในครั้งนี้โยงไปถึงกระบวนการยุติธรรมที่ปฏิบัติต่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พรรค พท.รับมืออย่างไร นายสรวงค์ตอบว่า การกล่าวถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น เป็นหน้าที่ของประธานในที่ประชุมสภาฯควบคุม นายทักษิณไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค พท. ไม่ได้เป็น รัฐบาล ทุกสิ่งทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของประธานสภาฯ ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ และยังได้ยินว่าจะอภิปรายพาดพิง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. ที่ไม่ใช่สมาชิกของสภาฯ และไม่ใช่รัฐบาล ดังนั้นต้องรอดูว่าการอภิปรายมีใครกล่าวถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็นหรือไม่
ตอกลิ่มฝ่ายค้านแตกคอไร้เอกภาพ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรค พท.และพรรคร่วมรัฐบาลมีความพร้อม ขอให้ทุกฝ่ายยกระดับทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ มีวุฒิภาวะ ยึดประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ทำงานการเมืองต้องตรงไปตรงมา พรรค พท.ไม่มีความจำเป็นต้องไปล็อบบี้ฝ่ายค้าน ให้อภิปรายหรือไม่อภิปรายในประเด็นใด มั่นใจว่านายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนพร้อมตอบทุกคำถาม ความจริงประชาชนที่ติดตามการประชุมสภาฯ แทบตอบคำถามแทนรัฐบาลได้ทุกข้ออยู่แล้ว บางประเด็นถามซ้ำไปซ้ำมา เนื้อหาเก่าเอามาเวียนเทียนเปลี่ยนคนพูด ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ อยากเห็นฝ่ายค้านทำงานการเมืองแบบมืออาชีพ ไม่ใช่แค่มาสร้างคอนเทนต์แล้วนำไปให้โซเชียลไอโอขยี้ต่อ ปัจจุบันสังคมพร้อมเปิดรับข้อมูลครบถ้วนรอบด้าน ขอให้ฝ่ายค้านทำงานอย่างมีเอกภาพ ไม่หวาดระแวงว่ามีพรรคใดอภิปรายแบบพร้อมร่วมรัฐบาล เสียงของรัฐบาลมีมากพอที่ผลักดัน และขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ ขอให้ทุกฝ่ายเคารพ เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน
“โกศล” เหน็บ “โรม” ไร้ข้อมูลซักฟอก
นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณากฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ (กมธ.) เร่งทำงานให้เสร็จเร็วว่า กมธ.ทำงานหนักรอบด้าน ร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกา และฝ่ายปกครอง เพื่อให้ได้ผลการศึกษาที่ดีที่สุด และยังนำผลการศึกษาเรื่องดังกล่าวของ กมธ.ในสมัยรัฐบาลที่แล้วมาพิจารณาประกอบ และตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาผลกระทบโครงสร้างธุรกิจ ในฐานะเป็น ประธานคณะอนุ กมธ.ด้านกฎหมาย นำความเห็น ของชุดต่างๆมาทำเป็นร่างกฎหมาย เพื่อเป็นแนวทางแนบเป็นภาคผนวกไปในรายงานที่เสนอสภาฯ ยืนยันทำทุกอย่างรอบคอบ ส่วนที่นายรังสิมันต์ตั้งข้อสังเกตถึงการเซ็นสัญญาให้ภาคเอกชนเช่าพื้นที่ที่อู่ตะเภาไว้รองรับโครงการสถานบันเทิงครบวงจรนั้น กฎหมายยังไม่ได้เข้าสภาฯ จะเซ็นสัญญาได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้ มโนกันขึ้นมา ที่ออกมาตั้งข้อสังเกตแบบนี้ เพราะฝ่าย ค้านไม่มีประเด็นตรวจสอบเป็นชิ้นเป็นอัน หวังนำเรื่องนี้ เข้าสู่การอภิปราย เพื่อเรียกสีสันหรือไม่ ประเด็นนี้พรรค พท.ไม่กังวล ทุกอย่างทำรอบคอบ ตรวจสอบได้
เร่ง ก.ม.สถานบันเทิงครบวงจร
เมื่อถามถึงร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรที่เตรียมเสนอต่อสภาฯ นายโกศลตอบว่า ผลศึกษา ของ กมธ. สส.ส่วนใหญ่พิจารณารับรองไปในทิศทางเดียวกันว่าควรมี แม้ยังมีข้อห่วงใจในประเด็นต่างๆ จะนำเอาไปปรับปรุงในการยกร่างกฎหมาย เสนอให้พรรค พท.ชงเข้าสภาฯพิจารณาเป็นกฎหมายต่อไป ส่วนตัวเชื่อมั่นสามารถเสนอได้ในสมัยประชุมสภาฯหน้าอย่างแน่นอน
“อนุทิน” ลงโคราชตรวจโปรเจกต์น้ำ
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พร้อมนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ กรรมการผู้ช่วย รมว.มหาดไทย และคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ขึ้นรถไฟขบวนรถ 21 ด่วนพิเศษ กทม.-อุบลราชธานี จากสถานีปากช่องไปยังสถานีนครราชสีมา เพื่อลงพื้นที่ติดตามโครงการวางท่อน้ำดิบจากประตูระบายน้ำมะเกลือใหม่ มายังโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า กิจการประปาเทศบาลนครราชสีมา อ.เมือง หลัง ครม.มีมติ 30 ม.ค. อนุมัติให้กระทรวง มหาดไทย โดยเทศบาลนครนครราชสีมา ดำเนินการโครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปา นายอนุทินกล่าวว่านั่งรถไฟจะได้เห็นความคืบหน้าของโครงการต่างๆ อะไรที่กระทรวงมหาดไทยทำได้จะช่วยประสาน เพื่อดำเนินงานได้แล้วเสร็จ ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงน้ำดื่มน้ำสะอาดได้ฟรี เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นำคณะลงพื้นที่ และก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง เพิ่งลงพื้นที่ตรวจราชการเช่นกัน นายอนุทินตอบว่า อย่าไปคิดถึงการเมืองเป็นการช่วงชิงพื้นที่ เราทำงานร่วมกันหมด มาตามคำสั่งนายกฯ ให้ดูแลความเป็นอยู่ประชาชน ส่วน น.ส.แพทองธาร ก็มาในส่วนของซอฟต์พาวเวอร์ ส่วนตนมาฮาร์ตพาวเวอร์
ยันไร้สัญญาณนายกฯปรับ ครม.
เมื่อถามถึงกระแสการปรับ ครม. รวมถึงสลับ โควตารัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทินในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตอบว่าอย่าไปกังวล ถ้าปรับก็ต่างคนต่างปรับ ไม่ต้องกังวล ปัญหาแต่ละพรรคก็เยอะอยู่แล้ว เวลาปรับ ครม.สร้างปัญหาข้ามพรรคเดี๋ยว ครม.ไม่เข้มแข็ง ขณะนี้ ครม.เข้มแข็ง มี 314 เสียง ถือว่ามั่นคง นายกฯก็เข้มแข็ง ทุกวัน มีความเป็นผู้นำที่ชัดเจน ร่วมมือทำงานกันอย่างเต็มที่ จะ rock the boat (ทำให้เรือสั่นทำไม) ตอนนี้นายกฯยังไม่แจ้งปรับ ครม.แต่อย่างใด เมื่อถามว่าพอใจในบทบาทที่คุมกระทรวงในขณะนี้หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ถ้าถามว่าพรรค ภท.อยากได้กระทรวงอะไร พูดออกไปเดี๋ยวตกใจกันหมด ตอนนี้กระทรวงที่ภูมิใจไทยได้ ก็ทำงานตอบสนองนโยบายนายกฯ ทุกเรื่อง เปิดปุ๊บติดปั๊บ แก้ไขปัญหาให้ประชาชนและขับเคลื่อนนโยบายต่างๆได้ สอดรับและถือเป็นผลงานของรัฐบาล เมื่อถามถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ฝ่ายค้านอาจหยิบยกประเด็นจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทยมาอภิปราย นายอนุทินตอบว่า ต้องชี้แจงตามข้อเท็จจริง หวังใช้โอกาสชี้แจง 6 เดือนทำอะไรไว้บ้าง ในการแก้ปัญหาต่างๆให้ประชาชน เมื่อถามว่ารัฐมนตรีในพรรค พท.พร้อมชี้แจงหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ใครโดนพาดพิงต้องชี้แจง สส.ฝ่ายค้านทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว ขอชื่นชมสปิริตฝ่ายค้านที่ใช้เวทีอภิปราย ใช้สภาฯ ตรวจสอบ แต่หากเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบลงมติ ก็ไม่เป็นธรรมกับรัฐบาล เพราะรัฐบาลยังไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินปี 67
หนุนเปิดกาสิโนคู่คุมเข้ม ก.ม.
เมื่อถามถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบผลการศึกษาขอ กมธ.เปิดเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ นายอนุทินตอบว่า ถ้าอยากทราบว่าความจำเป็นอย่างไร ลองไปเที่ยว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มองไปฝั่งตรงข้าม มาถึงขนาดนี้แล้วถ้าไม่ทำเลย ความเจริญก็ไปอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ที่ไม่ใช่ประเทศของเรา ถ้าเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ไปอยู่ฝั่งนั้นหมด ไทยก็เหลือแค่ที่แก้บนที่ไหว้เจ้าจะเอาหรือไม่ เมื่อถามว่าคนไทยมีศาสนาพุทธจะทำให้ขัดกันหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ต้องตีความให้ถูกว่าเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ไม่ใช่บ่อน เพราะประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร ส่วนกาสิโนมีกฎระเบียบต่างๆ อาทิ เด็ก อายุต่ำกว่า 18 ปีห้ามเข้า เรื่องเหล่านี้สามารถทำได้อยู่แล้ว ตั้งกฎคนที่มาเล่นต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็หลอกตัวเอง เงินทองไหลไปประเทศตรงกันข้ามหมด เมื่อถามว่ายังมีการวิจารณ์โดยอ้างเรื่อง ศาสนา การมอมเมาประชาชน นายอนุทินตอบทันทีว่า “แต่กินเหล้าได้ มีเธคได้ มีอาบอบนวดได้ หาก ถามผมก็ไม่รู้ แต่คิดว่าถนนตรงนั้นก็คืออีกซอยหนึ่ง ขณะเดียวกันเรื่องศาสนาก็ต้องทำนุบำรุงไป” เมื่อถาม ว่าดูเหมือนสนับสนุนแนวคิดนี้ นายอนุทินตอบว่า “ไม่ได้ ดูเหมือน ถ้ามาเราก็สนับสนุน เศรษฐกิจต้องมาก่อนในยุคสมัยนี้ จะให้ในน้ำมีปลา ในนามีข้าวใช้ไม่ได้แล้ว เพราะต้องกินต้องใช้ ค่าใช้จ่ายค่าครองชีพต้องใช้”
“ธนกร” ดักคอหยุดประดิษฐ์วาทกรรม
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า กรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 มั่นใจนายกฯและรัฐมนตรีทุกคนชี้แจงข้อเท็จจริงตอบข้อซักถามได้ทุกประเด็น เพราะทำงานกันอย่างเต็มที่ ถือโอกาสชี้แจงการทำงานของรัฐบาลให้ประชาชนได้เข้าใจ เมื่อถามว่าอยากเห็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในครั้งนี้อย่างไร นายธนกรตอบว่า อยากเห็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน มีคุณภาพ มีข้อมูลหลักฐานอ้างอิงประกอบอภิปรายครบถ้วน ทำงานการเมืองใหม่แบบสร้างสรรค์ไม่ประดิษฐ์วาทกรรม ใช้เทคนิคเล่นเกมในสภาฯเพื่อสร้างประเด็นคอนเทนต์ดราม่า เชื่อว่าได้เห็นฝ่ายค้านทำหน้ามีวุฒิภาวะ เคารพข้อตกลงของวิปทั้ง 2 ฝ่าย อยากเห็นการทำหน้าที่ฝ่ายค้านแบบท็อปฟอร์ม อภิปรายมีคุณภาพ ไม่กล่าวหาเลื่อนลอย หลอกด่าฟรีๆ ใช้ถ้อยคำที่สุภาพสร้างสรรค์ มีเหตุมีผล ให้เกียรติประธานสภาฯ ให้เกียรติเพื่อนสมาชิก ถือเป็นการให้เกียรติประชาชนด้วย
“ไหม” เปิดธีมถล่ม “รัฐบาลเพื่อใคร”
วันเดียวกัน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายทั่วไปว่าธีมอภิปรายครั้งนี้ คือ “รัฐบาลเพื่อใคร หัวใจไม่ใช่ประชาชน” ส่วนจำนวนขุนพล สส.พรรค ก.ก.มีแน่ๆ 34 คน ชัวร์ แต่อาจเพิ่มเป็น 35 คน กำลังคัดเลือกจากข้อมูลใหม่ที่เข้ามาเพิ่มทุกๆวัน เพื่อความสดใหม่การอภิปราย แม้รอบนี้คนอภิปรายเยอะ แต่ไม่พูดยืดเยื้อเป็นชั่วโมง เน้นสั้น กระชับ ตรงประเด็นเข้าเรื่องเร็ว ดึงดูดประชาชนที่เข้ามาฟัง เมื่อถามถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และ สส.พรรค พท.หลายคน พูดทำนองตีตนไปก่อนไข้ และเตรียมรับมือฝ่ายค้านถล่มปมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไว้แล้ว น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า ใช้คำนี้ได้เลย ว่าตีตนไปก่อนไข้ เราไม่ปฏิเสธว่ากรณีนายทักษิณเป็นหนึ่งในหัวข้ออภิปราย เพราะปัญหากระบวนการยุติธรรม กำลังสร้าง 2 มาตรฐาน ไม่ทำให้ผู้คนได้รับความเป็นธรรมอย่างเสมอหน้ากัน ต้องยกตัวอย่างกรณี นายทักษิณขึ้นมาแน่นอน มันไม่ควรเป็นเรื่องที่ได้รับความสำคัญอันดับหนึ่ง ที่รัฐบาลเตรียมข้อมูลมาตอบโต้ฝ่ายค้าน ควรไปเตรียมทุ่มเททรัพยากรกับการชี้แจงผลงานดีกว่าอะไรทำแล้วไม่เข้าเป้าบ้าง
ขู่มีทีเด็ดโรยเกลือยื่น ป.ป.ช.สอบ
เมื่อถามว่ามีข้อมูลที่ฝ่ายค้านยื่นต่อองค์กรอิสระตรวจสอบ หลังจบอภิปรายรอบนี้ จนคดีส่งผลกับอดีตรัฐมนตรีบางคนอีกหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญาตอบว่ามียื่น บางเรื่องขยายผลต่อ จะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มากที่สุด ความเชื่อมโยงอาจไม่ถึงตัวรัฐมนตรี แต่มีเคสของการทุจริต ประพฤติมิชอบจริงๆ อาจโฟกัสไปที่ตัวข้าราชการ จี้ให้รัฐบาลที่ยังไม่ให้ความสำคัญ หรือปล่อยปละละเลย จนอาจถูกตีความได้ว่า สมรู้ร่วมคิด เราจะดำเนินการให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ในช่วงหลังจบการอภิปรายมีหลายเรื่องที่ต้องยื่นองค์กรอิสระแน่นอน ตอนนี้ข้อมูลค่อนข้างพร้อมแล้ว ต้องขออุบไว้เป็นความลับก่อน เก็บสะสมข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อมัดตัวที่แน่นหนาขึ้นในอนาคต ถ้าหากยังไม่ได้แก้ไขปัญหาพวกนี้อย่างจริงจัง
หยุดป้องนายใหญ่เสียเวลาเปล่า
น.ส.ศิริกัญญากล่าวอีกว่า ฝากไปถึงรัฐบาลอย่ามีอคติกับฝ่ายค้าน ขอให้รัฐบาลเปิดใจ อย่าตั้งแง่ ตั้งป้อม คอยปกป้องคุ้มครองคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษแบบนั้น เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ และยังมีเรื่องที่ทุกวันนี้ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต มีแถลงข่าวติดๆ กันช่วงที่ผ่านมา เป็นการแถลงที่สูญเปล่า แทบไม่รู้อะไรเพิ่มเติมเลย นอกจากไทม์ไลน์ถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ควรเอาเวลานี้มาเตรียมคำตอบที่ชัดเจนให้กับประชาชน เหมาะสมกว่าไปตั้งป้อมปกป้องนายทักษิณ
แซวนายกฯชกเป้าตัดไม้ข่มนาม
เมื่อถามถึงท่าทีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง โชว์คลิปชกกระสอบทรายริมทะเล ในขณะที่ สส.และหัวหน้าพรรค พท.พูดถึงแผนปกป้องนายทักษิณ แต่ไม่พูดถึงแผนปกป้องนายเศรษฐา น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า คงเป็นการตัดไม้ข่มนาม เพื่อทำให้รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่นายเศรษฐาต้องกังวล แต่ที่ตนเห็น ก่อนหน้านี้พอโดน ส.ว. ซักฟอก อาจเป็นที่มาการแถลงข่าวเรื่องผลงานรัฐบาล รวมถึงดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้รู้สึกเอ๊ะ กลัวเหมือนที่ผ่านมาจะรู้สึกไม่ได้ทำอะไรหรือเปล่า เลยออกมาขยันแถลงในช่วงนี้ ส่วนที่นายกฯ ชกเป้าโชว์ ไม่มีคอมเมนต์แล้วกัน
“เฉลิมชัย” ขึงขังอภิปรายไม่มีมวยล้ม
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมเคป ดารา รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวสรุปผลสัมมนา สส.และกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ว่า ได้พูดคุยถึงทิศทางของพรรคและเตรียมอภิปรายทั่วไป ยืนยันทำเต็มที่ 100% พร้อมอภิปรายแน่นอน ขอให้มั่นใจยี่ห้อพรรค ปชป. ยี่ห้อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีต หัวหน้าพรรค ปชป. ไม่มีมวยล้ม ประเด็นอภิปรายมีข้อมูลที่ชัดเจน ขอให้รอฟังนายจุรินทร์เป็นคนอภิปรายเปิดในภาพรวม ตามด้วย สส.รุ่นใหม่คงไม่ถึง 10 คน เพราะเน้นคุณภาพ เอาแต่เนื้อ มีประเด็น 2-3 ใช้เวลาที่มีให้มีค่ามากที่สุด จึงกำชับให้อภิปรายไม่เยิ่นเย้อและตรงประเด็น
กำชับใส่เต็มร้อยเน้นชำแหละเนื้อๆ
เมื่อถามย้ำคนที่อภิปรายเป็นตัวตึงใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัยตอบว่า ไม่ใช่ตัวตึง แต่อภิปรายโดยมีข้อมูลกำชับให้อภิปรายในเนื้อหาสาระ ตรงไหนไม่ถูกต้องให้ใส่เต็มที่ไม่ต้องอารัมภบทมาก ข้อมูลที่อภิปรายในครั้งนี้สามารถนำไปต่อยอดใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ได้ ขอให้รอฟัง ไม่ขอพูดไปก่อน เกรงจะทำให้กร่อย ส่วนข้อมูลที่มีอยู่ถึงขั้นทำให้รัฐบาลเซปรับ ครม.หรือไม่นั้น นายเฉลิมชัยตอบว่า การปรับ ครม.ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ข้อมูลดีแค่ไหน ถ้านายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจไม่ปรับ คงไม่มีการปรับ เมื่อถามว่า ข้อมูลอภิปรายทำให้สังคมกดดันนำไปสู่การปรับ ครม.ได้หรือไม่ นายเฉลิมชัยตอบว่า ไม่ใช่ไปฆ่ากัน แต่เป็นการท้วงติงในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำในสิ่งที่ทำให้ประชาชนและประเทศชาติเสียหาย ในฐานะฝ่ายค้านต้องอภิปราย ต้องช่วยฝ่ายบริหารดูว่าทำอะไรไม่ถูกต้องบ้าง มีอะไร ที่ควรทำบ้าง ข้อมูลที่มีอยู่ถ้าปล่อยไปไม่อภิปรายอาจถึงขั้นทำให้ประเทศชาติเสียหาย นายกฯต้องรับฟัง
คอนเฟิร์มปม “ทักษิณ” ถูกจับขึ้นเขียง
เมื่อถามว่า ประชาชนสนใจกรณีคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯพรรค ปชป.หรือพรรค ก้าวไกลที่จะอภิปราย นายเฉลิมชัยตอบว่า ประเด็นนี้ต้องมีอยู่แล้ว ขออย่าให้ลงในรายละเอียดตอนนี้ ยังมีรัฐมนตรีคนอื่นที่เป็นเป้า ขอให้รอฟังดีกว่า ถ้ามั่นใจบริหารราชการโดยสุจริต ก็ไม่มีอะไรต้องไปกังวล ทั้งหมดไม่มีใครทำอะไรได้ เหมือนอย่างที่ตนเคยโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยที่เป็นรัฐมนตรี พร้อมตอบทุกข้อกล่าวหา
ประชาธิปัตย์ค้านกาสิโนเสรี
ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง สนับสนุนให้มีเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หลังที่ประชุมสภาฯเห็นชอบรายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เตรียมนำเข้า ครม.ภายใน 2 สัปดาห์ว่า รัฐบาลควรศึกษาให้รอบคอบ ประเด็นนี้ศึกษามาตั้งแต่ปี 2548 แต่ทำไม่ได้ หากสร้างขึ้นมาแล้วมีปัญหาสังคมตามมาใครจะยับยั้ง วันนี้รัฐบาลควรทำเรื่องที่เป็นไปได้ คือ การละเล่นพื้นบ้าน เช่น วัวชน ไก่ชน ปลากัด เล่นไฮโล เล่นไพ่ในงานศพ วิธีการง่ายๆถ้ามีงานศพให้เจ้าภาพไปขออนุญาตที่อำเภอ คิดค่าธรรมเนียมนำเงินเข้าราชการวงละ 500 บาท เช่น 1 คืน 3 วง รวม 1,500 บาท ถ้าเกิน จากนี้บังคับใช้กฎหมายจับอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงการละเล่นพื้นบ้านในภาคอีสาน เช่น เล่นบั้งไฟ ลูกสะบ้า เกมยิงลูกแก้ว หนูนาพาโชค รวมถึงนำหวยใต้ดินมาอยู่บนดิน ถ้ารัฐบาลทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง ขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย เป็นครั้งคราวตามประเพณี รายได้เข้าสู่ประเทศมากขึ้น หยุดส่วยมากยิ่งขึ้น
แขวะนายกฯทิพย์เครียดชกลม
“รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลทิพย์ตลอดเวลา ผลักดันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นายกฯก็เป็นนายกฯทิพย์อยู่แบบนี้ คิดฝันแล้วทำไม่ได้เป็นคุณสมบัติของนายกฯศรีธนญชัย ที่นายกฯแสดงความฟิตโดยชกมวยก็คงเครียด เพราะเป็นนายกฯแล้วทำอะไรไม่ได้ ทำได้ที่สุดคือต่อยเป้ามวย ดีใจด้วยที่นายกฯใช้วันพักผ่อนชกมวย ชกลม การทำงานก็ยังทำงานลมอยู่” นายชัยชนะกล่าว เมื่อถามถึงจุดยืนพรรค ปชป.สนับสนุนให้มีสถานบันเทิงครบวงจร หรือไม่สนับสนุน นายชัยชนะตอบว่า สส.ในพรรคหารือกัน โดยไม่ใช่มติพรรค เห็นด้วยกับการสนับสนุนการละเล่นพื้นบ้าน แต่สถานบันเทิงครบวงจรยังไม่สนับสนุน เพราะมองว่าเป็นไปไม่ได้
ปัญหาสังคม-อาชญากรรมมาตรึม
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ถ้าดูผลการศึกษาของประเทศต่างๆทั่วโลก พบหลายประเทศทำผิดพลาดที่เปิดให้มีกาสิโนเสรี แม้ประเทศนั้นบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด หลายประเทศกังวลกาสิโนเสรี เนื่องจากเงินนอกระบบ ผลประโยชน์ที่แอบแฝงอีกจำนวนมาก สุดท้ายไม่ส่งผลทางเศรษฐกิจ และไม่ได้การันตีมีกาสิโนเสรีแล้ว บ่อนพนันออนไลน์ผิดกฎหมายน้อยลง แต่อาจมากขึ้นเท่าทวีคูณ ขอย้ำ อยากให้เปิดดูผลศึกษาประเทศที่มีกาสิโนเสรี ไม่ได้ประสบความสำเร็จ รวมถึงประเทศสิงคโปร์ประสบปัญหาชาวสิงคโปร์ติดการพนัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศในทวีปยุโรปมีปัญหาอาชญากรรม ปัญหาครอบครัวตามมา ประเทศเหล่านี้หากย้อนเวลากลับไป ไม่อยากทำกาสิโนเสรี ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่เหมือนประเทศสิงคโปร์ เรามีสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม ธรรมชาติ ลงทุนในสิ่งที่เรามีคุ้มค่ากว่า รู้สึกเสียดายที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ระบุต้องมีกาสิโนเสรี หรือเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ก่อนที่นายกฯพูดเรื่องนี้ ควรศึกษาให้รอบคอบ รับฟังเสียงของประชาชนให้มากกว่านี้ ประเทศไทยไม่ใช่ที่ลองผิดลองถูก สุดท้ายทำให้ลูกหลานเสียคน ไม่มีอะไรนำกลับคืนมาได้
“ภูมิ” หลาน “ลุงกำนัน” นั่งเลขาฯรวมพลัง
วันเดียวกัน พรรครวมพลังจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 67 เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ที่ศูนย์ประชุมอุดรดุษฎี โรงแรมเจริญโฮเต็ล จ.อุดรธานี โดยมีสมาชิก หัวหน้าสาขาพรรคจากทั่วประเทศเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงรวมถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาพรรครวมพลัง จากนั้นมีการเลือก กก.บห.ชุดใหม่ อาทิ นายดนุช ตันเทิดทิตย์ เป็นหัวหน้าพรรค นายภูมิ เทือกสุบรรณ หลานนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเลขาธิการพรรค น.ส.ชลิดา บูรณศิริ นายทะเบียนพรรค โดยนายสุเทพ ที่กล่าวกับสมาชิกพรรคว่า มาให้กำลังใจ ทำงานการเมืองสมัยนี้ไม่ง่าย เป็นพรรคเล็กต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป “ลุงยังอยู่พรรคนี้ไม่ไปไหน” ส่วนการคัดเลือกคนลงสมัครในระดับต่างๆตามที่พรรคมีความพร้อม เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
“จักรภพ” ขออยู่เบื้องหลังทำประโยชน์ ปท.
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ศาลหลักเมือง กทม. นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาสักการะศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากเดินทางกลับมาประเทศไทยในรอบ 15 ปี นายจักรภพเปิดเผยถึงการตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยว่า เห็นแนวทางที่จะเกิดความปรองดอง บรรยากาศการเมืองโดยรวมดีขึ้น นอกจากนี้ ตนอายุมากขึ้นแล้ว ยังมีไฟอยู่อีกเยอะ ไปสั่งสมประสบการณ์ในต่างประเทศมา 15 ปี อยากนำความรู้ความสามารถมาพัฒนาบ้านเมือง ถ้าคนในประเทศยังยอมรับอยู่ เห็นว่ามีความสามารถ ส่วนบทบาทหน้าที่ในทางการเมืองหรือรัฐบาลนั้น เป็นเรื่องของอนาคต หากใครเห็นว่าทำประโยชน์ให้ตรงไหนได้ก็ยินดี อยากกลับเข้ามารับใช้ประเทศชาติ ไม่ได้อยากเข้ามาทำเพื่อตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังก็มีประโยชน์เท่ากัน จากนั้นนายจักรภพเดินทางไปสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่ถนนราชดำเนินใน เพื่อความเป็นมงคล
สุดคึกฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-มธ.
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สนามศุภชลาศัย องค์การบริหารนิสิตจุฬาฯ (อบจ.) และองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ร่วมจัดงาน “ฟุตบอล สานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ CU-TU Unity Football Match 2024 เป็นการจัดงานครั้งแรกหลังหยุดไป 4 ปี โดย 2 องค์กรนิสิตนักศึกษาของ 2 สถาบันจัดงานนี้ ไม่มีสมาคมศิษย์เก่าทั้ง 2 สถาบันเข้าร่วมจัด พร้อมเปลี่ยนชื่องานจาก “ฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์” เป็นงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ภายใต้แนวคิด “Unity to Sustainability” เพื่อสร้างเอกภาพของทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ก่อนงานนี้เริ่มขึ้น ชมรมเชียร์และแปร อักษร จุฬาฯออกแถลงการณ์เรื่องงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ 2024 โดยระบุว่า ชมรมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดงานหรือการแปรอักษรในงานดังกล่าว สำหรับบรรยากาศภายในงานคึกคักไปด้วยเหล่านิสิตนักศึกษาจุฬาฯ-มธ.ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนศิษย์เก่าเข้าร่วมเป็นจำนวนน้อย กิจกรรมเริ่มด้วยขบวนพาเหรด ประกอบด้วยขบวน การเมืองและขบวนสะท้อนสังคม การแปรอักษรรูปแบบ ใหม่ ใช้จอ LED ไม่บังคับให้นักศึกษาขึ้นสแตนด์แปรอักษรเหมือนที่ผ่านๆมา นอกจากนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า “ขบวนแห่พระเกี้ยว” ของทางจุฬาฯ เดิมเป็นการแห่ด้วยเสลี่ยง ถูกปรับเปลี่ยนเป็นการแห่ด้วยรถกอล์ฟที่ประดับดวงไฟแทน
ล้อการเมืองเขย่าอมาตยาธิปไตย
ต่อเวลา 14.40 น. ขบวนพาเหรดของกลุ่มอิสระล้อการเมืองแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ถือเป็นไฮไลต์ สังคมภายนอกจับตามองการสะท้อนแนวคิดของคนรุ่นใหม่ต่อการเมืองและสังคมมากที่สุด ได้เคลื่อนขบวนเข้าสู่สนาม เนื้อหาปีนี้ประกอบด้วยป้ายข้อความนำหน้าที่เขียนว่า “ล้อรถหมุนส่งขังชนคนชังชาติ ประกาศใช้กฎหมายล่าล้างผลาญ”-“เมืองหยุดนิ่งหยุดทุกสิ่ง โดยมวลมาร ไทสราญ ป้ายศักดาอมาตยาธิปไตย” ขบวนที่ 2 คือ กรอบรูปที่ว่างเปล่า ตามด้วยป้ายข้อความตามหลังว่า “ภาพประเทศไทยในฝันของใคร”-“ฝันใหญ่ประชาฝันมากมายคนเท่าในศักดิ์ศรี”-“ฝันมากมายของข้าถูกย่ำยี”-“ฝันข้านี้ดับโดยท่านทุชนา” ทางกลุ่มอิสระล้อการเมืองสื่อถึงกรอบรูปนี้ว่า ชวนมองภาพประเทศไทยในฝันผ่านกรอบหนึ่งที่เปรียบดั่ง Viewfinder ของกล้องถ่ายรูป หากมองเข้าไปภายในกรอบนี้จะเห็นถึงปัญหา ของประเทศไทย ที่ไม่เป็นไปดั่งฝันที่หลายๆคนคาดหวังเอาไว้ภายหลังการเลือกตั้งปี 66 ภาพฝันของประเทศไทยยังว่างเปล่าเหมือนกับกรอบภาพที่กลวงโบ๋ คนมีอำนาจก็ยังหวังครอบงำอำนาจ เพื่อประโยชน์ส่วนตน ภาพฝันจึงเป็นอะไรไม่ได้มากเพียงไปกว่าการหลอกตัวเองว่าความหวังยังคงมีอยู่ โดยที่เราไม่อาจที่เผชิญหน้าอำนาจที่ซับซ้อนและหลอกหลอนเราด้วยข้อจำกัดที่อยุติธรรม
อภิสิทธิ์ชนวางหมาก “เบี้ยเสดถา”
ขณะที่ขบวนที่ 3 เป็นหุ่นเบี้ยวางบนกระดานหมากรุก หุ่นตัวนี้มีหัวเป็นคน ใช้ชื่อขบวนว่า “เบี้ยเสดถา” พร้อมป้ายข้อความตามหลังว่า “มือจับเปลี่ยนหัววางตัวหมากเบี้ย” -“ตัวเก่าเสียถึงคราววางหมากใหม่”-“โถบัดซบดีลกันได้ไอ้จัญไร”-“สงสัยไหมใครนั้นวางหมากขึ้นมา” ทั้งนี้ กลุ่มอิสระล้อการเมือง ระบุว่า ต้องการสื่อถึงเบี้ยในกระดานหมาก เป็นหมากที่มีหน้าที่ปกป้องขุน ขุนเปรียบดังระบอบอภิสิทธิ์ชนที่กำลังกัดกินประเทศไทย ปัจจุบันเกิดมีการหักหน้าย้ายขั้วทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย การที่เบี้ยมีสองหน้าสื่อถึงการเปลี่ยนขั้วของพรรคเพื่อไทยที่หันเข้าปกป้องระบอบอภิสิทธิ์ชนอย่างเต็มรูปแบบ หุ่นตัวนี้จึงเป็นการชวนตั้งคำถามถึงทิศทางของพรรคเพื่อไทยว่า การถือครองอำนาจของเขา ณ ขณะนี้นั้นมีเพื่อใคร “ระบอบไหน ใครรู้ แถลงไขระบอบใดงงงวย ทักยุทธ์เศษรฐ์” ระบอบผีดีลกัน พวกทุเรศสืบทอดเจตจำนง เผด็จการ หุ่นตัวที่ 4 ชื่อ “หุ่นรัททาทุย” เป็นศีรษะคนและพิซซ่า พร้อมป้ายข้อความตามหลังว่า “ขบวนนี้ห้ามพูดถึง ม.112”-“สิทธิประกันตัว=สิทธิมนุษยชน”-“รัฐซ้อนรัฐทาทุย”-“ศาลใครชงประชาชนงงดั่งเพื่อใคร”-“กกต.ชงศาล รธน. ยิง” ทั้งนี้ กลุ่มอิสระล้อการเมืองอธิบายว่า ได้แรงบันดาลใจจากเรื่อง “ระ-ทะ-ทู-อี่ พ่อครัวตัวจี๊ด หัวใจคับโลกเป็นภาพยนตร์คอมพิวเตอร์แอนิเมชัน โดยเป็นการชวนตั้งคำถามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ที่อำนาจของตุลาการที่ล้นเกิน ไม่ได้รับการถ่วงดุลจากขาอื่นของอำนาจอธิปไตย จนเป็นข้อกังขาว่าฝ่ายตุลาการนั้นพิจารณาคดีโดยมีบางสิ่งชักจูงความคิดของพวกเขาหรือไม่ งานชิ้นนี้จึงตั้งคำถามต่อท่านทั้งหลายบนบังลังก์ว่า ควรมีความสำรวมในการใช้อำนาจมากกว่านี้หรือไม่
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่