นายกฯ ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญแก้ไขปัญหาทั้งระบบ สั่งดำเนินการ 3 เรื่อง บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน และพยายามจะมาติดตามผลทุกปี

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 มีนาคม 2567 ภายหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปถึงท่าอากาศยานพิษณุโลก ได้เดินทางต่อไปยังประตูระบายน้ำท่านางงาม อำเภอบางระกำ เพื่อหารือประเด็นการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก โดยมี นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยผู้บริหารส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ

...

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับว่า จังหวัดพิษณุโลกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคเหนือตอนล่าง แต่ยังประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง รวมถึงปัญหาหนี้นอกระบบและปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว 

ทั้งนี้ จังหวัดพิษณุโลก อยู่ในแผนการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของรัฐบาล ประจำปี 2568 โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุน ยกระดับจากจังหวัดเมืองรองให้เป็นจังหวัดท่องเที่ยวเมืองหลัก ซึ่งจังหวัดพิษณุโลกมีความพร้อม มีสนามบิน มีวัฒนธรรมที่ดีงาม รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามหลายๆ สถานที่

น.ส.เกณิกา กล่าวอีกว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีได้มาดูเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรู้สึกยินดีที่ได้รับทราบข้อมูล รับทราบความต้องการของประชาชนในพื้นที่ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำเพื่อการเกษตร หากไม่มีน้ำทำการเกษตรก็ไม่สามารถได้ผลผลิตที่ดี

ในส่วนของโครงการศึกษาความเหมาะสมในพื้นที่แม่น้ำยมฝั่งขวา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการลงพื้นที่วันนี้ว่าต้องการมารับฟังข้อมูลพร้อมศึกษาความเป็นไปได้ ตนเองเข้าใจปัญหา รับทราบถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยได้สั่งการให้ดำเนินการ ดังนี้ 

1. ศึกษาความเป็นไปได้ ในพื้นที่แม่น้ำยมฝั่งขวา ให้อยู่ในเขตชลประทาน 

2. เสริมคันป้องกันน้ำท่วม ป้องกันตลิ่งพัง

3. โครงการขยายถนน 4 เลน จากบางระกำไปลานกระบือ ซึ่งอนุมัติงบแล้ว

ในช่วงท้าย น.ส.เกณิกา ระบุด้วยว่า สำหรับโครงการศึกษาความเหมาะสมในพื้นที่แม่น้ำยมฝั่งขวาอำเภอบางระกำ กรมชลประทานจะพิจารณาดำเนินการศึกษาความเหมาะสม และความเป็นไปได้ในการใช้น้ำเพื่อการเกษตร และการพัฒนาโครงสร้างด้านการชลประทานเพื่อขยายเขตเป็นพื้นที่ชลประทาน พร้อมกับการพัฒนาแหล่งน้ำตามแผนหลักขอกรมชลประทานควบคู่กันไป ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 665 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ําไว้ใช้เพื่ออุปโภค-บริโภค และการเกษตร ป้องกันภัยแล้งและอุทกภัยอย่างยั่งยืน

ขณะที่เมื่อเวลา 14.05 น. นายเศรษฐา ได้โพสต์ภาพขณะลงพื้นที่อำเภอบางระกำ พร้อมระบุผ่านเฟซบุ๊ก ว่า “อย่างที่ผมเคยพูดอยู่เสมอครับว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญเรื่องน้ำ เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพที่เป็นรากฐานของประเทศ ก่อนหน้านี้ ผมมาติดตามการบริหารจัดการน้ำที่บางระกำ 2 ครั้งแล้ว คือช่วงเลือกตั้ง และตอนเป็นรัฐบาลแรกๆ วันนี้ก็มาติดตามอีกครับ เพื่อตอกย้ำว่าผมให้ความสำคัญจริงๆ โดยวันนี้ มี 3 เรื่องคือ 1. ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่แม่น้ำยมฝั่งขวา ที่อยู่ในเขตชลประทาน 2. เสริมคันป้องกันน้ำท่วม ป้องกันตลิ่งพัง เรื่องนี้เรื่องสำคัญครับ เพราะเวลาหน้าฝนมาทีไรก็ท่วมเราต้องดูแลตรงนี้ให้ดี 3. โครงการขยายถนน 4 เลน จากบางระกำไปลานกระบือ ซึ่งตรงนี้งบอนุมัติเรียบร้อยแล้วครับ และผมพยายามจะมาติดตามทุกปีว่าผลคืบหน้าเป็นอย่างไรบ้าง”