ประชุมสภาฯ อภิปรายงบประมาณวาระ 2 “พิธา” มอง ยิ่งอภิปรายงบประมาณยิ่งไม่ตอบโจทย์ ชี้ งบที่ควรมีดันตัด งบที่ควรตัดดันมี ทำซ้ำซากไม่เห็นผล ตรวจสอบไม่ได้ ทำประชาชนเสียประโยชน์
เมื่อเวลา 19.39 น. วันที่ 21 มีนาคม 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในวาระ 2 ว่า ยิ่งอภิปราย ยิ่งเห็นงบไม่ตอบโจทย์ยิ่งกว่าเดิม โดยสรุปอภิปรายงบประมาณวาระ 2 จากการอภิปราย 2 วัน จะเห็นได้ภาษีของพวกเราถูกใช้แบบไร้ทิศทางอย่างมากกับการของบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์กับสถานการณ์ของพี่น้องประชาชนในตอนนี้ แถมงบประมาณหลายอัน ขอซ้ำซากมาหลายปี แต่ไม่มีผลงานอะไรออกมา
นายพิธา ระบุถึงงบกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ดังนี้ว่า กระทรวงมหาดไทย จะทำฝายดินซีเมนต์ที่ส่อแววมีปัญหาทางสิ่งแวดล้อม เพราะโครงสร้างปิดทึบ ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในลำน้ำอย่างแน่นอน แถมราคาต่ำกว่า 500,000 บาทเพียงเล็กน้อย เพื่อเข้าเงื่อนไขไม่ต้องแข่งขัน ขณะที่กระทรวงกลาโหม แทนที่จะซื้อเรือฟริเกต เพื่อให้ได้เทคโนโลยีต่อเรือ กลับซื้อเฮลิคอปเตอร์กองทัพบกที่มีแล้วกว่า 125 ลำ หรือของบเช่าเครื่องบินเหมาลำ รถยนต์ EV ส่วนที่นอนหมอนมุ้ง เป็นงบลับ ส่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ตรวจสอบยาก และของบซ่อมแซมอาวุธ ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีอาวุธ หรือโครงการที่ไม่ตรงกับเป้าหมายของหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมา
...
กระทรวงพลังงาน ทั้งๆ ที่ประชาชนควรต้องจ่ายค่าไฟถูกลง กลับแพงขึ้น 3 เท่า เพราะต้องเอามาสร้างพลังงานทดแทน ที่ค่าก่อสร้างแพงกว่ายุโรปหลายเท่า ด้านกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โครงการพัฒนา Up-skill Re-skill กลายเป็นมาวัดนักศึกษาไม่ไปยุ่งยาเสพติด, นักศึกษาเล่นกีฬาเพิ่มขึ้นจากปีก่อน และนักศึกษามีคุณธรรมและจริยธรรม ขณะที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม งบเอาไปจ่ายค่าประชุม แต่ไม่มีงบให้หน่วยงานสำคัญ เช่น กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ที่ต้องแก้ภัยแล้ง ไฟป่า น้ำท่วม อีกทั้งค่าสร้างพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า ก็แพงกว่าค่าก่อสร้างทั่วไป 4 เท่า
ส่วนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ไม่ได้ทำหน้าที่ศูนย์ข่าวปลอม แต่กลายเป็นศูนย์ต่อต้านข่าวที่เป็นโทษต่อรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โครงการเกษตรอัจฉริยะที่ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ของบใหม่ทุกปี แต่ยังไม่เห็นผล แถมส่อทุจริต กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ขยันทำ App แต่ทำ App ซ้ำซ้อน และแถมไม่เติบโต ขณะที่สำนักปลัด ไม่ตัดงบเดินทางผู้บริหารตัวเอง แต่ไปตัดงบเดินทางของนิสิตนักศึกษาที่จะไปแข่งขันกีฬาที่ต่างประเทศ และค่าก่อสร้างอาคารเรียนแทน
ในช่วงท้าย นายพิธา ยังระบุด้วยว่า “งบประมาณที่มาจากภาษีประชาชน กลับไร้ทิศทาง ไม่เข้ากับสถานการณ์ของประชาชน งบที่ควรมีดันตัด งบที่ควรตัดดันมี แถมทำซ้ำซากไม่เห็นผล ตรวจสอบไม่ได้ ทำให้ผลประโยชน์ของประชาชนนั้นเสียไป”
อย่างไรก็ตาม นายพิธา ยังได้มีการแก้ไขข้อความเพิ่มเติมในภายหลังด้วยว่า “ปล : บอลไทยเสมอ 1:1 เกาหลีใต้ สุดยอดมากครับ ขอคารวะทีมชาติไทยครับ”