ชื่นมื่น "พล.อ.ประวิตร" ยกทีม พปชร.เยี่ยมพบปะหารือนายกฯ สปป.ลาว กระชับความสัมพันธ์ แก้ฝุ่น PM 2.5 หนุนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อ ประชาชน สองฝั่งแม่น้ำโขง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 มี.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำผู้บริหารพรรคและสส.พรรค พปชร.ภาคอีสาน เข้าพบนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว โดยมีรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูง สปป.ลาว ต้อนรับ

โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีในการทำหน้าที่ประธานอาเซียนของ สปป.ลาว ในปี 67 พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ที่จะพัฒนาความร่วมมือในทุกด้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ ให้เจริญก้าวหน้าต่อไป การเดินทางมาเยือน สปป.ลาว ของผม และผู้บริหารพรรค ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญยิ่งที่จะได้ร่วมหารือ และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นอันจะเป็นประโยชน์ร่วมกัน ในการพัฒนาความร่วมมือด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ให้ก้าวหน้าต่อไปในอนาคต เพื่อรองรับการพัฒนา และการส่งเสริมด้านเกษตรกรรม การสาธารณสุข การท่องเที่ยว และการค้าในภูมิภาค ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล พรรคพปชร.มีนโยบายสำคัญในการดูแลรักษาป่าไม้ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาฝุ่นควัน ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วน ที่เราจะต้องร่วมมือกัน

...

พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว ได้จัดทำ บันทึกความเข้าใจร่วมกันเพื่อส่งเสริม และพัฒนาความร่วมมือ ในการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน ทั้งการป้องกัน ควบคุมมลพิษการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำและการจัดการ สภาพภูมิอากาศ ความร่วมมือ ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งสองต่างมุ่งเน้นยกระดับ การดำเนินการในการลด ก๊าซเรือนกระจกโดยฝ่ายไทย ยินดีสนับสนุน และแลกเปลี่ยนเชิงนโยบายร่วมกัน อันจะเป็นประโยชน์ ให้ทั้งสองฝ่ายสามารถนำไปประยุกต์ใช้ ได้อย่างเป็นรูปธรรม ต่อไป

วันนี้ ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ได้หารือในประเด็นต่างๆ ร่วมกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าไทยและ สปป.ลาวจะดำรงความต่อเนื่องในความร่วมมือต่อกันให้ทั้งสองประเทศเจริญก้าวหน้าต่อไป

ด้านนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าวว่า ยินดีต้อนรับพล.อ.ประวิตร และคณะพรรคพปชร.ในการเยือนสปป.ลาวครั้งนี้ ปัจจุบันมีนักลงทุนชาวไทยมาลงทุนในสปป.ลาวเป็นอันดับ 2 และยังคงเดินหน้าที่จะทำความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การบริการ การท่องเที่ยว คมนาคม ของทั้งสองประเทศ โดย สปป.ลาวมีแนวทางเช่นเดียวกับไทยที่จะพัฒนาสังคมสีเขียวให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ภายใต้การกำกับดูแลพปชร.ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ได้บริหารราชการผ่านกลไกการทำงานของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาล สปป.ลาว พร้อมผลักดันให้เกิดขึ้นในทุกด้านอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านการส่งออก และนำเข้าสินค้าเกษตร การควบคุมโรคระบาดในสัตว์ รวมถึง ปัญหาหมอกควัน สปป.ลาว ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับไทย ภาคการเกษตรยังมีการเผาเพื่อกำจัดวัชพืช ซึ่งถือว่าปัญหาดังกล่าว นับเป็นวาระสำคัญของทั้งสองประเทศในการ ลดปัญหา PM 2.5 ที่เป็นทิศทางเดียวกัน และร่วมมือการแก้ไขปัญหาต่อไป

จากนั้น พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชม "โครงการเวียงจันทน์โลจิสติกส์พาร์ค" หรือ VLP มีพื้นที่ 3,000 ไร่ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานีท่าบกท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์ เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางด้านธุรกิจ ระหว่างไทย-สปป.ลาว-จีน โดยเฉพาะการทำอุตสาหกรรมในเขตปลอดภาษีหรือฟรีโซน ซึ่งจะทำให้ภาษีนำเข้าและส่งออกเหลือร้อยละ 0 จุดนี้มีการก่อสร้างศูนย์กลางโลจิสติกส์ การค้า การลงทุน การธนาคาร ไฟแนนเชียล อุตสาหกรรมเบาในเขตฟรีโซน รวมไปถึงคลังน้ำมัน ร่วมลงทุนมูลค่าประมาณ 500 ล้านเหรียญดอลลาร์ เพื่อเชื่อมโยงระบบรางและโลจิสติกส์ ระหว่างไทย ลาว จีน