นายกฯ ลั่น หมดเวลาแห่งการรอคอย ยันปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งต้องดีขึ้นกว่านี้ ประกาศขจัดยาเสพติดให้หมดไปภายใน 4 ปี ชี้จะไม่หยุดอัปเกรดบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ หลังพบคนอีสานอายุเฉลี่ยน้อยกว่าภาคอื่น สะท้อนสาธารณสุขไม่ดีพอ ยันได้เงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน
วันที่ 2 มี.ค. 2567 ที่ พื้นที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยส้มป่อย ตำบลนาขาม อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รับฟังการบริหารจัดการน้ำเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำและใช้สำหรับการอุปโภค โดยนายกฯ สวมเสื้อภูไทผ้าฝ้ายสีกรมท่า นายกฯ ยังได้เดินทักทายประชาชน และกล่าวกับประชาชนว่า หมดเวลาแห่งการรอคอยแล้ว ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งต้องดีขึ้นกว่านี้ เพื่อให้เกษตรกรทุกคนมีโอกาสปลูกพืชให้ได้ผลผลิตมากขึ้น มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น ไม่ใช่รอเพียงน้ำฝนจากฟ้ามากำหนดชะตาเหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น
ขณะเดียวกันมีชาวบ้านมาชูป้ายร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ข้อพิพาทแนวเขตระหว่างตำบลแจนแลนและตำบลบัวขาว โดยนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้รับเรื่องไว้
...
จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่แหลมพยอม บึงโพนทอง ตำบลแวง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ดูบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ซึ่งทางจังหวัดได้ขอสนับสนุนงบประมานในการขุดลอกลำห้วย เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง
โดยนายกฯ กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับ โดยสอบถามชาวบ้านเป็นภาษาอีสาน ว่า สบายดีบ่พี่น้องชาวจังหวัดร้อยเอ็ด วันนี้ตนดีใจที่ได้มาพบปะกับพี่น้องเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จังหวัดร้อยเอ็ดหรือสาเกตนคร เป็นเมืองที่มีศักยภาพสูง เป็นเมืองที่ต้องพึ่งเกษตรกรรมค่อนข้างเยอะ เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิชั้นดีที่สุดในโลกได้รับเครื่องหมายจีไอเป็นที่ต้องการของตลาด รัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนเรื่องของสายพันธุ์ข้าวให้ดี รวมถึงการเปิดตลาดใหม่ๆ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้ขายข้าวในราคาที่แพงขึ้นได้ และไม่ว่าจะเป็นเรื่องปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลงที่ราคาถูกลง เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้การสนับสนุน
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ วันนี้ตนได้มาดูเรื่องปัญหาคลองส่งน้ำต่างๆ ที่มีความตื้นเขิน ก็มีการทำบ่อบำบัดเพื่อให้เป็นแหล่งน้ำที่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ เครือข่ายชลประทานทั้งหมดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่เป็นเหมือนเส้นเลือดของพ่อแม่พี่น้องทุกคน รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ดี วันนี้เราก็มากันพร้อมทั้ง สส. รวมถึงปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รมช.คมนาคม ซึ่งหากเราบริหารเรื่องชลประทานได้ เรื่องของการไม่ท่วม ไม่แล้งก็จะดีมากสำหรับพี่น้องชาวร้อยเอ็ดทุกคน
“รัฐบาลขอเรียนตรงๆ ว่าไม่มีอะไรสำคัญกว่าเรื่องการไม่ท่วม ไม่แล้ง ท่านจะมีน้ำใช้ตลอดหน้าฝน และน้ำจะไม่ท่วม ท่านก็จะสามารถปลูกพืชผลได้เป็น ส่วนหนึ่งของการเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้อง 3 เท่าตัวในระยะเวลา 4 ปี ที่เราเป็นรัฐบาล” นายกฯ ระบุ
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องการคมนาคมก็เป็นตัวสำคัญ เมื่อ 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา รมว.คมนาคม และรมช.คมนาคม ได้เดินทางมาดูเรื่องเครือข่ายถนนเชื่อมโยงทั้งทางอากาศ และทางบก เพื่อให้พี่น้องสามารถไปมาหาสู่ได้อย่างดี เพราะการขนส่งสินค้าต่างๆ ไปขายทั่วประเทศได้ด้วยความสะดวกสบายในราคาที่ถูกลง ก็เป็นเรื่องที่สำคัญซึ่งเราอยากให้มีการทำอย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวถึงระบบสาธารณสุขด้วยว่า เมื่อเดือนที่แล้วที่จังหวัดร้อยเอ็ด เรื่องของการใช้ 30 บาทใบเดียวไปได้ทุกที่ก็เป็นจังหวัดนำร่อง 1 ใน 4 จังหวัด และจะขยายไปทั่วประเทศ การยกระดับ 30 บาทระบบสาธารณสุขทั้งประเทศจึงเป็นนโยบายสำคัญที่สุดของเรา เพราะชาวอีสานมีอายุเฉลี่ยน้อยกว่าประชากรทั่วประเทศ แสดงว่าการสาธารณสุขยังดีไม่พอ เราจึงมีการพัฒนายกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรครักษาได้ทุกที่ต่อไปอีก
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องใส่ใจให้เยอะ เพราะเราต้องเสียเวลาไปเข้าคิวคอยโดยใช้เวลานานมาก ไปถึงแล้วบางทีเราก็เดินได้ไปบอกว่าประวัติเราเป็นอะไรบ้าง แต่การยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เมื่อเดินทางไปรักษาเราก็ต้องอธิบายให้หมอฟังว่าเราเป็นอะไรบ้าง แต่การยกระดับโครงการนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องรู้จักหมอ แต่หมอจะรู้จักกับพี่น้องทุกคนที่เดินทางไปหาเขา เขาจะรู้ประวัติการไม่สบายของท่าน ทำให้การรักษาท่านถึงจุดได้ดีกว่าที่เคยเป็น” นายกฯ กล่าว
ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบ นายกฯ กล่าวว่า เป็นงานหลักของเราที่พยายามจะจัดหนี้นอกระบบให้หมดสิ้นไป แต่ตัวเลขที่ออกมาก็ยังไม่ดีพอ พวกท่านที่ยังไม่เข้ามาลงทะเบียน เพราะกลัวอิทธิพลของเจ้าหนี้ใช่หรือไม่ ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะดูแลพวกท่าน เพราะเขาเอาเปรียบดอกเบี้ยแพงเกินควร นอกจากนี้ ตนยืนยันว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดให้หมดภายใน 4 ปีนี้
“เราจะคืนลูกหลานของท่านสู่ครอบครัว รัฐบาลจะดูแลทุกท่านในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นราคาพืชผลทางการเกษตร ยาเสพติด การสาธารณสุข ทำเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง เราให้ความสำคัญทั้งหมด และพบกันอีก” นายกฯ กล่าว
จากนั้นนายกฯ เดินทักทายประชาชน ถ่ายรูปและให้ประชาชนสวมกอดอย่างเป็นกันเอง ซึ่งระหว่างเดินมีประชาชนสอบถามถึงเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่ายังได้ใช่หรือไม่ ซึ่งนายกฯ ตอบหลับทันทีว่า “ได้ครับ ได้แน่นอนครับ” จากนั้นมีนักเรียนจากวิทยาลัยการอาชีพโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด มอบภาพวาดนายกรัฐมนตรี มีข้อความระบุว่า เรารักนายกฯ และภาพวาดพระพุทธรูป รวมไปถึงมอบขนมที่ทำจากฝีมือนักเรียนของวิทยาลัยด้วย
ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ