“ธนกร” แนะฝ่ายค้าน อย่าฝืน หากข้อมูลไม่พอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ควรให้เวลานายกฯ และรัฐบาลทำงานเต็มที่ก่อน เพราะยังไม่ได้ใช้งบจึงไม่พบทุจริต ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นแค่การทำพิธีกรรมในสภาฯ เท่านั้น

วันที่ 1 มีนาคม 2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบไม่ลงมติ คาดว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนเมษายน 2567 ว่า จากการที่รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดิน เข้าสู่เดือนที่ 6 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศวิสัยทัศน์ยกระดับศักยภาพประเทศ 8 ด้าน ให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค โดยเน้นเรื่องการท่องเที่ยวมาก่อน 

แต่ทั้งนี้ หลายโครงการที่เตรียมขับเคลื่อนเศรษฐกิจยังต้องรอขั้นตอนสภาฯ ผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ก่อน จึงยังไม่ได้เริ่มเบิกจ่ายงบ ดังนั้น เรื่องการทุจริตจึงยังไม่มี เพราะยังไม่ได้ใช้เงิน หากฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ มองว่า ข้อมูลยังไม่เพียงพอ ไม่ครบถ้วน รอบด้าน จึงควรให้เวลานายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้ทำงานให้เต็มที่ก่อน 

เมื่อถามว่าช่วงเวลาใดเหมาะสมในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายธนกร ระบุ อยู่ที่ว่าฝ่ายค้านมีข้อมูลหลักฐานมากน้อยเพียงพอแค่ไหน หากไม่ทันสมัยประชุมนี้ ตนคิดว่าช่วงกลางปีถึงปลายปี ในสมัยประชุมหน้าก็ยังไม่สาย เห็นควรว่าต้องให้เวลาและให้โอกาสรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน สามารถเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ใช้ในโครงการต่างๆ ที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลสักระยะก่อน เมื่อถึงเวลานั้นหากพบการบริหารที่ผิดพลาด พบการทุจริต ฝ่ายค้านก็สามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติได้เลยทันที ก็ไม่สาย และจะยิ่งดีที่ฝ่ายค้านจะได้ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่ด้วย 

...

“หากข้อมูลยังไม่มากพอที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ฝ่ายค้านควรให้เวลาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณไปก่อน เพื่อให้นายกฯ ได้บริหารงบประมาณ แสดงผลงานอย่างเต็มที่ อาจจะไม่ทันสมัยประชุมนี้ก็ตาม เมื่อถึงเวลานั้นหากมีข้อมูลแน่นหนาเพียงพอก็สามารถขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติได้เลย เพราะการที่รัฐบาลยังไม่ได้ใช้งบ แต่ฝ่ายค้านกลับยื่นซักฟอก จะกลายเป็นแค่การทำพิธีกรรมในสภาฯ เท่านั้น พูดแตะๆ ลอยๆ ไม่มีข้อมูลหลักฐานอ้างอิง จะพาลให้ประชาชนผิดหวังต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้ อาจถูกเปรียบเปรยว่าเป็นการลูบหน้าปะจมูก ไม่เด็ดขาดจริงจัง ซึ่งไม่เป็นผลดี”