“ชัยวัฒน์” ผอ.กรมอุทยานฯ วิ่งรอก แจง กมธ.สภาฯ ย้ำ ส.ป.ก.ยอมรับ รุกอุทยานฯ แจง คนจน สบายใจได้ที่ทำกินแน่ แต่ไม่ใช่นายทุน-นอมินี นัดพร้อมทุกฝ่ายดีเดย์ พิสูจน์ความจริง จวก “กรมแผนที่ทหาร” มั่ว ละเมิด พ.ร.ฎ.
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 ก.พ. 2567 ที่รัฐสภา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยภายหลังเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาฯ กรณีข้อพิพาทที่ดิน ส.ป.ก.ทับซ้อนเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ว่า กรมแผนที่ทหาร ได้อธิบายที่มาที่ไปของแผนที่ว่าเดินจากหมุด และอ้างอิงจากสมุดจดบันทึกการรังวัด หรือฟิลด์บุ๊กของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเราพยายามอธิบายว่า ฟิลด์บุ๊กต้องอิงจากหลักฐานเดิม ปัจจุบันมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ที่ชัดเจน และได้หลักฐานเพิ่มเติมว่า คณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4,000 (One Map) ได้ทำหนังสือเตือน ส.ป.ก.ไปว่าแนวเขตที่ไปวางแปลงทับเขตอุทยานฯ จากนั้นก็มีหนังสือตอบมาชัดเจนจาก ส.ป.ก.ว่าอยู่ในเขตอุทยานฯ โดยตอบมาก่อนที่จะเกิดเรื่อง
“ผมก็ยังงงว่าคณะที่ทำ ทำแบบนี้ได้อย่างไร ด้วยอำนาจหรือมีอะไรที่มากกว่านั้น ดังนั้นวันนี้ กมธ. 2 คณะที่พิจารณาแล้ว ยังมีอีกชุดหนึ่งที่ต้องมาชี้แจงวันพุธหน้า ทราบว่าจะเชิญคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) มาด้วย”
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันกับประชาชนที่อาจฟังแล้วไม่เข้าใจว่าทำไมเราออกมาพูดเรื่อง ส.ป.ก. ประชาชนที่เดือดร้อน คนยากจน ผู้ยากไร้ไม่มีที่ทำกิน สบายใจได้ว่าท่านจะได้ที่ทำกินจาก ส.ป.ก.ด้วยความสุจริตใจ และคณะทำงาน ส.ป.ก.จะมองเห็นผู้ยากไร้จริงๆ ไม่ใช่ให้กับผู้มีอำนาจ หรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ วันนี้ต้องเดินหน้าสู้พร้อมกัน เพราะ ส.ป.ก.ที่ออกมา ผู้ครอบครองจะเป็นผู้มีอิทธิพล นักการเมือง นักลงทุนต่างๆ ที่ไม่ใช่เกษตรกรผู้ยากไร้ ที่ไม่มีที่ทำกินจริงๆ โดยในวันที่ 1 มี.ค.นี้ เวลา 08.30 น. ตนได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูพื้นที่จริง ให้เจอกันที่ด่านปากช่อง ไปดูแนวเขตอุทยานฯ ว่ามีตรงไหนบ้างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ลุแก่อำนาจ
...
อยากเรียนกับสื่อและฝากไปยังประชาชนว่า ผู้ยากไร้ ยากจน สบายใจได้ ถ้า ส.ป.ก.ตั้งใจทำงานนี้ด้วยความถูกต้องและแม่นยำ ก็ต้องเอาคนที่เป็นนายทุน กลุ่มนายทุน กลุ่มที่ได้ไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต้องรื้อกลับมา ถ้า ส.ป.ก.จริงใจต่อประเทศชาติ
เมื่อถามว่า ที่ดินเขาใหญ่ที่เป็นปัญหา มีเกษตรกรเป็นเจ้าของพื้นที่หรือไม่ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า จะบอกว่าไม่มีเกษตรกร คือได้มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือเป็นบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็ยืนยันว่ามีลูกบ้านเสนอชื่อไปแต่ไม่มีชื่อ กรณีแบบนี้มันเกิดขึ้นมาแล้ว รายชื่อที่ได้ไปในวันที่ 1 มี.ค. ก็ไปดูกันว่าใครเป็นผู้ครอบครอง เห็นแล้วไม่รู้ว่าเป็นที่เกษตรกร หรือที่ดินทำเลทอง ทั้งนี้ ตนได้แจ้งในที่ประชุม กมธ.แล้วว่า ในวันที่ 1 มี.ค. ตนได้ทำหนังสือเชิญ ป.ป.ช. เลขาธิการ ส.ป.ก. และผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) รวมทั้งฝ่ายปกครองทั้งหมด รวมถึงคณะอนุกรรมการของ กมธ.การที่ดินฯ ชุดนี้ ลงพื้นที่จริงพร้อมกัน จะได้ชี้ชัดกันไปเลย
“ผมเชื่อมั่นในแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งเป็นแนวทางมาตลอด และคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ก็มีมติมาตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2565 เห็นชอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และมีการดำเนินการต่อเนื่องมาตลอด และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ก็ทำหนังสือถาม ซึ่งเขาก็ตอบชัดว่าเป็นที่แนวเขตอุทยานฯ แต่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้มาได้อย่างไร” นายชัยวัฒน์ กล่าว
เมื่อถามอีกว่า กรมแผนที่ทหาร ได้ชี้แจงอย่างไรกรณีนี้ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เขาก็ชี้แจงว่าทำตามเส้นฟิลด์บุ๊กที่จัดทำในพื้นที่ ซึ่งตนก็อธิบายไปว่า มันกว้าง 300 เมตร แต่ตัวแทนกรมแผนที่ทหารก็อ้างอิงว่ามันติดเขาลูกช้าง แต่แผนที่ทำออกมาเฉพาะเส้นเดียว ก็อยากถามว่า การจำแนกพื้นที่มาก่อนหรือหลัง โดยเฉพาะนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ในขณะนั้น ยืนยันชัดเจนว่าอุทยานฯ ใด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าใด ที่ประกาศมาก่อน ส.ป.ก.ต้องยึดตามแนวอุทยานฯ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพราะฉะนั้นอุทยานเขาใหญ่ ประกาศปี 2505 มีแนว พ.ร.ฎ.ชัดเจน ก็ต้องยืนยันตามนั้น ส.ป.ก.ไม่สามารถจัดที่ดินในพื้นที่อุทยานฯ ได้ ซึ่ง ส.ป.ก.ก็ตอบกลับมาชัดเจนว่าอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่วันนี้ก็ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น ต้องดูว่าเบื้องหน้า เบื้องหลัง ของขบวนการที่เกิดขึ้น เป็นบุคคลที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่