“หมอเหวง” พร้อมญาติผู้เสียชีวิต ทวงสัญญาเพื่อไทย รื้อคดีสลายม็อบเสื้อแดงปี 53 ขอ “เศรษฐา” กล้าออกคำสั่งนายกฯ เหมือนสมัย “พล.อ.เปรม” พร้อมยื่น 3 ข้อเรียกร้องเร่งด่วน “ชูศักดิ์” รับหนังสือ ยันไม่ได้เพิกเฉย

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 (คปช. 53) พร้อมญาติผู้สูญเสีย ยื่นหนังสือถึงพรรคเพื่อไทย เพื่อทวงคืนสัญญารื้อฟื้นคดีที่ถูกแช่แข็งตั้งแต่ปี 2553 โดยมี นายชูศักดิ์ ศิรินิล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับหนังสือ

นพ.เหวง กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่เอาใจใส่ในการทวงคืนความยุติธรรมให้วีรชนประชาธิปไตยในเดือนเมษายน 2553 ซึ่งเราเคยยื่นข้อเรียกร้อง 8 ข้อ ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 แต่สำหรับข้อเรียกร้องเร่งด่วน 3 ข้อ ได้แก่ 

1. ขอให้ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐหรือพลเรือน หรือประชาชน หรือครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อติดตามทวงถามเรื่องเกี่ยวกับการเสียชีวิตเมื่อเมษายน 2553 ว่าจะต้องดำเนินการให้ครบทุกศพ เพราะตอนนี้ขาดอีก 62 ศพ 

2. แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคที่จะนำเอาคนฆ่าและคนสั่งฆ่ามารับผิดทางกฎหมาย นำทหารที่ทำผิดอาญาต่อพลเรือนมาขึ้นศาลพลเรือน รวมถึงนักการเมืองที่ทำผิดอาญาต่อพลเรือนด้วย 

3. ต้องการให้รับรองแก่อำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศเฉพาะกรณี เมษายน 2553 เกี่ยวข้องเฉพาะศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสถาบัน 

นพ.เหวง กล่าวต่อไปว่า เรามาที่พรรคเพื่อไทยด้วยความปรารถนาดี เชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยสนับสนุน ตอบรับ และจริงใจในการผลักดันด้วยการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา และเอาฆาตกรผู้สั่งฆ่ามาลงโทษ พรรคเพื่อไทยจะชนะใจคนที่รักประชาธิปไตยทั้งประเทศอย่างล้นหลาม ไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดง เพราะเราจะเห็นได้ชัดว่าพรรคเพื่อไทยมีเจตจำนงแน่วแน่ที่จะยุติเรื่องที่ทหารฆ่าประชาชน 2 มือเปล่ากลางถนน 

...

ทั้งนี้ ขอให้พรรคเพื่อไทยตั้งหลักใหม่ ย้ำว่าขอให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน มีนักสิทธิมนุษยชน มีนักการเมือง โดยอยากให้มีนักการเมืองทุกพรรค นักวิชาการ ญาติผู้เสียหายมาร่วมกันตรวจสอบ สำหรับการตั้งคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น ไม่เพียงพอ เพราะต้องรวมถึงการเสนอแก้กฎหมายด้วย

ส่วนที่มีการเคยเสนอให้นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรีเหมือนสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่เคยออกคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ให้อภัยกรณีที่หนักกว่าปี 2553 ด้วยซ้ำ เพราะในปี 2523 มีการจับอาวุธมาฆ่าทหาร แต่ก็ยังสามารถดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้ และทำให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมือง

พร้อมกันนี้ นพ.เหวง กล่าวย้ำด้วยว่า “ขอให้นายกรัฐมนตรี มีความกล้าหาญเช่นเดียวกันกับ พล.อ.เปรม โดยการตั้งคณะกรรมการทวงคืนความยุติธรรม ขอให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล้าๆ หน่อย อย่าได้หวั่นวิตก” 

ภายหลังคณะได้เข้าพบกับ นายชูศักดิ์ และตัวแทนของพรรคเพื่อไทย โดยใช้เวลาหารือร่วมกันประมาณ 30 นาที จึบเผยว่า นายชูศักดิ์ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เพิกเฉยและยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ อย่างการเสนอแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช. ให้ประชาชนผู้เสียหาย สามารถดำเนินคดีเองได้ กรณีที่ ป.ป.ช. ตีตก แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะมีคนท้วงติงมา ซึ่งหลังจากนี้จะนำข้อเรียกร้องไปแจ้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล เพื่อพิจารณาและดำเนินการต่อไป 

อย่างไรก็ตาม นพ.เหวง เปิดเผยในช่วงท้ายด้วยว่า ในเวลา 09.30 น. วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 แกนนำ คปช. 53 และญาติวีรชน จะไปยื่นข้อเรียกกับพรรคก้าวไกล โดยมี นายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนรับเรื่อง ซึ่งทางพรรคก้าวไกลเองก็มีนโยบายเรื่องนี้อยู่ โดยระบุว่าจะทวงคืนความยุติธรรมโดยที จึงตั้งความหวังว่าจะเกิดการผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง.