“ครูธัญ” เผย ร่างกฎหมายคำนำหน้าตามความสมัครใจของก้าวไกล จ่อเข้าสภาวาระหนึ่ง 21 ก.พ.นี้ จบปัญหาคำนำหน้านามในเอกสารราชการไม่ตรงอัตลักษณ์ทางเพศ หลังเกิดดราม่าคำนำหน้านาม “คุณ” บนสลิปโอนเงิน “ปอย ตรีชฎา”

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการถกเถียงบนโลกออนไลน์ กรณีคำนำหน้านาม “คุณ” บนสลิปโอนเงินของ ตรีชฎา หงษ์หยก หรือ “ปอย” ว่าทำไมจึงเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น “คุณ” ได้ ในขณะที่กลุ่มคนข้ามเพศคนอื่นๆ ไม่สามารถเปลี่ยนคำนำหน้าได้ โดยธนาคารชี้แจงว่า “เป็นข้อผิดพลาด และระเบียบต้องใช้คำนำหน้าตามบัตรประชาชนเท่านั้น”

ธัญวัจน์ กล่าวว่า ด้วยกฎหมายในประเทศไทยปัจจุบันยังเป็นระบบสองเพศ จึงทำให้บุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศไม่สามารถดำเนินชีวิตตามเจตจำนงอัตลักษณ์ทางเพศของตนเองได้ ในกรณีดังกล่าวธนาคารจึงแจ้ง และยืนยันเรื่องการใช้คำนำหน้าตามบัตรประชาชน ซึ่งไม่เป็นไปตามอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคลข้ามเพศ เรื่องเพศจึงยังถูกกำหนดโดยระบบเดิม ยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่ต้องผลักดันสิทธิ และการคุ้มครองให้ครอบคลุมต่อคนทุกเพศ เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ

“ร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ ของพรรคก้าวไกล จะเข้าสู่การพิจารณาในวาระหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ โดยหลักการสำคัญคือการเลือกเพศตามเจตจำนง (Self Determination) อัตลักษณ์ทางเพศถือเป็นเจตจำนงที่บุคคลดังกล่าวจะดำเนินชีวิตตามเพศที่ตนเองต้องการ” ธัญวัจน์ กล่าว

ธัญวัจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวคือการรับรองเพศ เพื่อให้บุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศได้เลือกคำนำหน้าตามสมัครใจ และมีบทบาท หน้าที่ สิทธิ ตามเพศที่ตนแสดงเจตจำนง ซึ่งร่างดังกล่าวมีแนวคิดจากประเทศอาร์เจนตินา และมอลตา ซึ่งเป็นกฎหมายการรับรองเพศที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก

...

ร่างกฎหมายดังกล่าวยังได้รับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และอีกหลายหน่วยงานให้เป็นไปตามหลักการยอกยาการ์ตา ที่กฎหมายนั้นต้องปรับปรุงและต้องคำนึงถึงอัตลักษณ์ทางเพศ เพศสภาพ เพศวิถี และเพศทางกายภาพ เพื่อสิทธิเสรีภาพในการดำเนินชีวิต

“ร่างกฎหมายคำนำหน้าตามความสมัครใจของพรรคก้าวไกล จะแก้ปัญหาเรื่องเอกสารราชการ เรื่องการเดินทาง ระเบียบการแต่งกาย การทำธุรกรรมทางการเงิน ที่เกี่ยวข้องกับเพศสภาพ ให้หมายรวมถึงอัตลักษณ์ทางเพศ และเพศสภาพด้วย บุคคลข้ามเพศ เพศกำกวม และเพศอื่นๆ สามารถแสดงออกอัตลักษณ์ทางเพศของตนผ่านคำนำหน้าได้ในเอกสารราชการต่างๆ เพราะเพศคือเจตจำนงของบุคคล เป็นสิทธิมนุษยชนที่กำหนดเอง ดังนั้นกฎหมายต้องเปลี่ยนแปลง” ธัญวัจน์กล่าว.