“สภากลาโหม” ถกปมกลุ่มป่วนขบวนเสด็จ “สุทิน” เผยสั่งทุกเหล่าทัพเกาะติดสถานการณ์เข้ม สกัดกั้นไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก ชี้ถวายอารักขาความปลอดภัยเต็มที่ แต่ต้องใช้สติปัญญาดูแลความละเอียดอ่อน “โฆษกกลาโหม” แจงไม่มีการปิดการจราจรเมื่อมีขบวนเสด็จนานแล้ว ในหลวงทรงห่วงใยประชาชนมีพระบรมราโชบายมอบ ตร.จัดช่องทางจราจรให้เหมาะสม “ผบ.ตร.” ยันมีผู้อยู่เบื้องหลัง “ตะวัน” กำชับสืบสวนรวบรวมหลักฐานเชื่อมโยงทุกมิติ “ชัยธวัช” ท้า “ชาดา” เปิดชื่อพรรคแจกกล้วยหนุนม็อบเด็ก “นายกฯ” ถกบอร์ดใหญ่ดิจิทัลวอลเล็ต ซื้อเวลาตั้งกรรมการศึกษาข้อเสนอแนะกฤษฎีกา-ป.ป.ช. 30 วัน “เศรษฐา” อ้อมแอ้มเลี่ยงตอบคนไทยได้ใช้แน่เงินหมื่น อ้างช้าเพื่อให้ถูกต้องเป็นเรื่องจำเป็น “จุลพันธ์” บอกประชาชนร้องเพลงรอไปก่อน “อิ๊งค์-ครอบครัวชินวัตร” รอรับ “ทักษิณ” พร้อมหน้า 18 ก.พ. หลานๆเขียนการ์ดรอล่วงหน้า
ที่ประชุมสภากลาโหมมีการนำเหตุการณ์กรณีมีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง กระทำการขัดขวางขบวนเสด็จไปหารือ โดยพร้อมที่จะสนับสนุนหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องในการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำอีก
สภากลาโหมถกสกัดป่วนขบวนเสด็จ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 ก.พ.ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า มีวาระสำคัญเห็นชอบโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดหรือเออร์ลี่รีไทร์ นำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อนำเสนอรัฐบาลต่อไปในการปรับโครงสร้างและปรับลดกำลังพล จากแผนเดิมที่กองทัพทำไว้แล้วเป็นลำดับและกรณีการปกป้องสถาบัน หลังนักกิจกรรมบีบแตรใส่ขบวนเสด็จ มีการพูดคุยกัน ก่อนหน้านี้ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์เรื่องนี้มาโดยตลอด พร้อมได้สั่งการทุกเหล่าทัพที่มีหน้าที่เรื่องดังกล่าว เกาะติดสถานการณ์สกัดกั้นไม่ให้เกิดเหตุการณ์อีก ในการถวายอารักขาความปลอดภัยกองทัพถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด แต่ยังมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ และในส่วนพระองค์ กองทัพให้การสนับสนุนและเฝ้ามอง ถ้าหากเกินกำลังของทั้ง 2 หน่วย กองทัพพร้อมตลอดเวลา ทั้งงานด้านการข่าว การสกัดกั้นความเคลื่อนไหว กองทัพทำอยู่ จะทำทุกวิถีทางไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก
...
เฝ้าระวังเข้มเหตุเหนือคาดหมาย
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายกังวลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะนำไปสู่เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 19 นายสุทิน กล่าวว่า เราระมัดระวังอยู่เรื่องนี้ แม้ต้องถวายอารักขาความปลอดภัยเต็มที่ แต่เราต้องใช้สติปัญญา โดยนำประสบการณ์ในอดีตเป็นบทเรียน หากเราไม่ดูแลและไม่ละเอียดอ่อนอาจเกิดผลอีกทางหนึ่ง เชื่อว่าอาจมีคนคิดทำเช่นนั้นอยู่ เราเฝ้ามองและรู้ทัน จะไม่ตกเป็นเครื่องมือและปล่อยให้สถานการณ์เลยเถิดไปขั้นนั้น เมื่อถามว่าเห็นพ้องกับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทยหรือไม่ว่า มีกลุ่มอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มเด็กๆ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ดูการประชุมสภาฯ แต่มีคนมาเล่าให้ฟังว่าสภาฯเดือด เป็นเรื่องที่พูดกันมาตลอด ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องใหม่ การเคลื่อนไหวใดๆมีที่มาที่ไป ไปแยกเป็นบางเรื่องเอา เชื่อว่าหลายเรื่องมีการเมืองอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ใช่ทุกเรื่อง ไปดูเป็นเรื่องๆ เมื่อถามว่าประเมินสถานการณ์หรือไม่ว่าการขวางขบวนเสด็จกำลังครุกรุ่น สัปดาห์หน้านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะได้รับการพักโทษ กลุ่มต่างๆอาจเคลื่อนไหวสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า คงไม่แรงขึ้น แต่เหตุการณ์ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เราต้องระวังอยู่ แต่จากการประเมินขณะนี้เชื่อว่าไม่มีเหตุการณ์ลักษณะนั้น เพราะหากเกิดแล้วทุกคนทราบว่ากระทบจิตใจกัน
สวมเนกไทม่วงถวายกำลังใจพระเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้นนายสุทินนำคณะทำงานที่สวมเนกไทสีม่วง สีประจำพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มายืนโชว์สื่อมวลชน พร้อมทั้งระบุว่า การสวมเนกไทวันนี้ไม่ได้เป็นการแสดงจุดยืนหรือแสดงอะไร แต่เป็นการถวายกำลังใจมากกว่า และอยากให้กระตุ้นเตือน คนไทยทุกคน พร้อมทั้งยอมรับว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เราได้เห็นบรรยากาศความขัดแย้งของคนภายในประเทศ ตั้งแต่ระดับฝ่ายบริหาร เช่น ในรัฐสภา มวลชน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องระวัง พอเกิดอะไรขึ้นมาก็ซวยกันทั้งหมด
โฆษก กห.เผยไม่ปิดจราจรนานแล้ว
พล.ร.ต.ธนิตพงศ์ สิริเศวตศักดิ์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ปัจจุบันไม่มีการปิดการจราจรเมื่อมีขบวนเสด็จฯนานแล้ว พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากขบวนเสด็จฯทั้งขบวนเสด็จของพระองค์ และพระบรมวงศานุวงศ์ จึงทรงมีพระราโชบายมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดแนวทางอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้มีความเหมาะสม มีการจัดช่องทางให้เสด็จฯในส่วนของพระองค์ และช่องทางของประชาชน ส่วนฝ่ายความมั่นคงจะปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย พ.ศ.2557 และ 2560 และดำเนินการถวายพระเกียรติต่างๆ ในการปฏิบัติภารกิจ ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์
นายกฯย้ำหน้าที่ฝ่ายมั่นคงดูแลให้ดี
เมื่อเวลา 11.10 น. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หลายหน่วยงานและภาคประชาชนนัดสวมเสื้อสีม่วงในวันเดียวกันนี้ เพื่อแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี ว่า พระองค์ท่านทรงทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ และทรงงานอย่างหนักหน่วง อยากให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงที่ต้องดูแลท่านให้ดีในแง่ของเรื่องต่างๆ รู้อยู่แล้วว่าจุดยืนคืออะไร เรายึดมั่นตามกฎหมายที่เราทำกันอยู่
ผบ.ตร.ย้ำมีผู้อยู่เบื้องหลัง “ตะวัน”
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีการจับกุมดำเนินคดีกับ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และพวกบีบแตรขวางขบวนเสด็จฯ ว่า จากแนวทางการสืบสวนและการตั้งข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่เชื่อว่า อาจจะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม แต่ต้องรอบคอบจนกว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจน ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดว่า มีบุคคลใดอยู่เบื้องหลังชัดเจน แต่ย้ำว่า ได้กำชับให้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ดูความเชื่อมโยงทุกมิติไม่ต้องเร่งรีบจนทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหาย เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะทำให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ตำรวจจะใช้พยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ทำผิดเท่านั้น และชี้แจงให้ประชาชนไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดทางคดีจนถูกสังคมโจมตีได้ ส่วนมาตรการอารักขาดูแลถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ เป็นหน้าที่สูงสุดของตำรวจต้องทำด้วยชีวิต
“ต๋อม” ท้า “ชาดา” เปิดชื่อคนหนุนม็อบเด็ก
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 14 ก.พ.นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย มีการเปิดสมุดกลางสภาฯ รายชื่อคนหนุนหลัง อาจจะมีผู้ช่วย สส.พรรค ก.ก.ว่า อยากให้เปิดเลยมีการพยายามเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาอยู่หลายครั้งว่า มีพรรคการเมือง มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของเยาวชน ตนคิดว่าเปิดมาเลย เอาข้อเท็จจริงมาพูดกันว่ามีพรรคไหนบ้าง ที่เคยสนับสนุนงบประมาณให้กับการชุมนุมเคลื่อนไหวของเยาวชน นักศึกษา ที่ผ่านมาไหมเปิดมาเลย อยากเห็นเหมือนกันว่ามีกลุ่มการเมืองไหนบ้างที่หวังจะใช้กระแสความนิยมจากการเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาว เพื่อสร้างความนิยมตัวเองไม่กังวลเปิดเลย อาจมีพรรคอื่นก็ได้
“พิเชษฐ์–ชาดา” ปะทะคารม
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา การประชุมสภาฯ มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระนายพิเชษฐ์ชี้แจงกรณีถูกนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ตำหนิการทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ระหว่างประชุมพิจารณาญัตติด่วนเรื่องความปลอดภัยขบวนเสด็จ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่อนุญาตให้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.นำภาพนายชาดาถ่ายคู่กับกลุ่ม ศปปส.มาโชว์ ไม่เบลอหน้า ทำให้ถูกมองเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่ม ศปปส.ที่จ้องทำร้ายร่างกายกลุ่มทะลุวัง นายพิเชษฐ์กล่าวว่า นายชาดาพูดใส่ร้ายเสียดสีข่มขู่ประธานอย่างรุนแรง ขอให้ประธานขอโทษ แต่บอกขอไปตรวจสอบคลิปที่นำเสนอก่อน
ท้าเคลียร์ มท.2 เจอกันนอกห้อง
“สภาฯมีคณะกรรมการตรวจสอบและวินิจฉัยการเสนอข้อมูลประกอบการอภิปราย ข้อมูลที่ไม่ต้องปกปิดหรือเบลอภาพคือภาพ ครม. กรรมาธิการ บุคคลในวงงานรัฐสภา หนังสือเวียนต่างๆ ประกาศหรือระเบียบหน่วยงานราชการที่เปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว การมีภาพรัฐมนตรีไม่ได้เบลอหน้าเป็นเงื่อนไขที่ใช้มาตลอด เราให้เกียรติสมาชิกทุกคนมีเอกสิทธิ์เท่ากัน ตนไม่มีประโยชน์ที่จะไปลำเอียงเข้าข้างใคร รัฐมนตรีถ้ามีปัญหาก็คุยข้างนอกได้” นายพิเชษฐ์กล่าว
“ชาดา” สวนใครนักเลงไม่ยอมจบ
ต่อมาเวลา 17.20 น. หลังเสร็จสิ้นวาระพิจารณารายงานเรื่องแลนด์บริดจ์ นายชาดาชี้แจงว่า ไม่เคยต่อว่านายพิเชษฐ์ลำเอียง สิ่งที่พูดไปตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ถือว่าจบแล้ว แต่นายพิเชษฐ์ไม่จบมาพูดต่อในที่ประชุมตอนเช้าวันที่ 15 ก.พ.ที่นายพิเชษฐ์อ้างว่าระเบียบข้อบังคับการประชุมสภาฯ ให้นำภาพตนมาอภิปรายได้ พิจารณาหลักเกณฑ์เรื่องกฎหมายพีดีพีเอหรือไม่ หรือจะลองให้ฟ้องดู คำพูดนายพิเชษฐ์แสดงว่าไม่ต้องการจบ ขณะที่นายพิเชษฐ์ไม่สนใจการชี้แจงของนายชาดา พยายามดำเนินการประชุมต่อ ทำให้นายชาดาตะโกนสวนขึ้นว่า “ประธานอยากคุยกับผมข้างนอกใช่ไหมครับ” นายพิเชษฐ์ตอบกลับว่า “เดี๋ยวทำหน้าที่ของผมก่อน ผมไม่ใช่นักเลงไม่ใช่เจ้าพ่อ” จนมีเสียงฮือฮาจาก สส.ในห้องประชุม ทำให้นายชาดาตอบกลับว่า “ประธานพูดเอง แล้วใครนักเลง” นายพิเชษฐ์โต้กลับว่า “เดี๋ยวผมทำหน้าที่เสร็จแล้วเจอกันข้างนอก” นายชาดาสวนกลับว่า “ตอนไหนก็ได้สำหรับผม แต่ประธานพูดเองเจอกันข้างนอก” จากนั้นขอให้นายพิเชษฐ์ถอนคำว่า “นักเลง” นายพิเชษฐ์ยอมถอนและย้ำว่า “แล้วไปเจอกันข้างนอก” ก่อนตัดบทเข้าสู่วาระต่อไป
พม.–ทส.แต่งม่วงโชว์พลังจงรักภักดี
ขณะที่เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ลานหน้าอาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม.นำผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ พม. กว่า 700 คน พร้อมใจกันแต่งกายสีม่วง ร่วมพิธีถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นายวราวุธ กล่าวว่า การแสดงพลังครั้งนี้เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่า พวกเราให้ความเคารพให้ความนับถือพร้อมที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ยอมให้ใครมาลบหลู่ดูหมิ่น หรือพูดในสิ่งที่ไม่ดี ขณะเดียวกันที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ทส.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทส. นำข้าราชการและเจ้าหน้าที่ใส่เสื้อสีม่วง ทำพิธีถวายพระพรชัยมงคล และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณฯเช่นกัน
“จุฬาฯรักพระเทพฯ” รวมพลปกป้อง
เวลา 16.00 น. ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สองรัชกาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มจุฬาฯ รักพระเทพฯ นำโดยนางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ นายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ อดีตรองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนิสิต จุฬาฯ นัดศิษย์เก่าจุฬาฯทุกรุ่นทุกคณะ สวมเสื้อม่วง ผูกผ้าพันคอม่วง และผูกริบบิ้นสีม่วงข้อมือขวา ทำกิจกรรมแสดงออกถึงจุดยืนปกป้อง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเป็นนิสิตเก่าอักษรศาสตร์ จุฬาฯ โดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีต รมว.ต่างประเทศ เป็นตัวแทนศิษย์เก่าจุฬาฯ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์จัดงาน นพ.จรัส สุวรรณมาลา เป็นผู้เปิดกรวยถวายพานพุ่ม ก่อนที่ น.ส.นภาลัย สุวรรณธาดา อ่านบทกลอนถวาย มีผู้เข้าร่วมแน่นหน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ อาทิ นายสมชาย แสวงการ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ นายนิติพงษ์ ห่อนาค และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ฯลฯ
ปลัด มท.นำ 14 ผู้ว่าฯใต้ถวายกำลังใจ
ด้านบรรยากาศการแสดงพลังจงรักภักดีในต่างจังหวัด เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ห้องแกรนด์บอลรูม2 โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมืองภูเก็ต นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน นำ ผวจ.และ นอภ.14 จังหวัดภาคใต้ ร่วมกันสวมใส่เสื้อสีม่วง จัดพิธีแสดงความจงรักภักดีและถวายกำลังใจแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระ เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นอกจากนี้ ตามจังหวัดต่างๆ ผวจ.นำข้าราชการ และประชาชน จัดกิจกรรมลักษณะเดียวกัน อาทิ จ.ลพบุรี จัดที่ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จ.นครราชสีมาจัดที่ลานอนุสาวรีท้าวสุรนารี จ.ร้อยเอ็ด จัดที่ลานสาเกตนคร สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.กาฬสินธุ์ ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาหน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า จ.ขอนแก่น ที่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.อำนาจเจริญ ที่หอประชุมพญานาครินทร์ ศาลากลางจังหวัดอำนาจ เจริญ จ.พังงา ที่สนามหน้าสำนักงานเหล่ากา ชาดจังหวัดพังงา จ.พัทลุง ที่อาคารหอประชุมศาลากลางจังหวัดพัทลุง เป็นต้น
นายกฯ รับพระราชทานแจกันดอกไม้
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง รับมอบแจกันดอกไม้พระราชทานจากผู้แทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดวันที่ 15 ก.พ. ขณะที่เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยสวมเสื้อสีม่วง ขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เพื่ออวยพรวันคล้ายวันเกิดนายเศรษฐา อายุครบ 62 ปี ต่อมา น.ส.แพทองธารเปิดเผยว่า ได้อวยพรให้นายกฯมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้มีอะไรมาก
นั่งหัวโต๊ะถกหาทางลงดิจิทัลวอลเล็ต
ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ครั้งที่ 1/2567 มีรัฐมนตรีและตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง รวมทั้งนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยนายกฯกล่าวตอนหนึ่งก่อนเริ่มวาระประชุมว่า รัฐบาลมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินงบฯรวม 500,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการนี้ให้สำเร็จและลุล่วงไปด้วยดี จะดำเนินโครงการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เปิดเผย รอบคอบ ระมัดระวังเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน รักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด
ตั้งคณะทำงานศึกษาข้อเสนอแนะ 30 วัน
ต่อมา 17.07 น.นายเศรษฐาแถลงว่าคณะกรรมการมีมติดำเนินการตามข้อหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกาและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตั้งคณะทำงานขึ้นมาให้ฝ่ายเลขานุการรวบรวมข้อเท็จจริงข้อหารือกฤษฎีกาและข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. จะเริ่มรวบรวมข้อเท็จจริงทันที กำหนดไว้30วัน เมื่อเสร็จสิ้นจะนัดประชุมคณะกรรมการดิจิทัลชุดใหญ่อีกครั้ง เพื่อนำข้อหารือกฤษฎีกาและข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.เข้าที่ประชุมอย่างเป็นทางการ และพิจารณาเดินหน้าโครงการเพื่อเสนอต่อ ครม.ต่อไป และประชุมมีมติตั้งคณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบการกระทำอาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการจะมีบุคคลที่มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน คณะกรรมการทุกท่านเห็นด้วยกับรายชื่ออนุคณะกรรมการชุดนี้และมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ขยายขอบเขตการพัฒนาให้โปร่งใสและป้องกันการทุจริตในโครงการให้เป็นไปตามข้อสังเกตต่างๆ
อ้างผู้ว่าการ ธปท.ขอศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน
นายกฯกล่าวว่า เนื่องจากข้อมูลของ ป.ป.ช.เพิ่งมาถึงมือและหลายข้อมูลเป็นข้อมูลลับ นำมาเปิดเผยในที่ประชุมวันนี้ หลายท่านขอนำไปศึกษาก่อน เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกท่านต้องไตร่ตรองให้ครบถ้วน เพราะเป็นนโยบายสำคัญ คณะกรรมการหลายท่าน เช่น ผู้ว่าการ ธปท. ระบุว่า เพิ่งเห็นรายละเอียดจากคณะกรรมการกฤษฎีกาและ ป.ป.ช. ขอเข้าไปพิจารณาศึกษาก่อน ยืนยันว่าได้ให้ผู้ว่าการ ธปท.ไปศึกษาให้เต็มที่และพิจารณาตามข้อเท็จจริง ถ้าหากมีข้อสังเกตการณ์ หรือมีข้อเสนอแนะอะไรให้บอกมา ทั้งนี้ การประชุมถกเถียงกันในวงกว้างไม่ใช่แค่สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ธปท. เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) แต่ยังมีกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงดีอีที่มาให้ข้อมูลถึงสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันในวงกว้าง ไม่มีการตัดความเห็นหรือข้อเสนอแนะของใคร
ช้าเพื่อให้ถูกต้องเป็นเรื่องจำเป็น
เมื่อถามว่าในข้อเสนอ ป.ป.ช.ระบุไม่ควรกู้เงินควรใช้งบฯปกติ นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกอย่างเราพิจารณาใหม่หมด ให้ทุกท่านได้เสนอแนะวงกว้าง พูดคุยถึงสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ไม่ว่าอัตราเงินเฟ้อ จีดีพีต่ำกว่าปกติ ดอกเบี้ยและหลายเรื่อง เมื่อถามว่าหลังกรอบ 30 วัน จะชัดเจนใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ก็น่าจะต้องมี เพราะเป็นข้อกำหนดแล้ว ตกลงกันอย่างนั้น เมื่อถามว่ายังยืนยันจะออกเป็น พ.ร.บ.เงินกู้ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยังไม่ทราบเลย ต้องมีความคิดเห็นว่าจะใช้วิธีไหน มันคือข้อเท็จจริง หากเร่งทำไปจะมีหลายภาคส่วน ถามว่าทำไมต้องเร่ง อาจมีข้อสังเกตการกระทำไม่ถูกต้องหรือเปล่า เราเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน มีการแถลงถึงสถานการณ์จากกระทรวงพาณิชย์ กำลังซื้อหด ได้ช่วยพยุงราคาค่าครองชีพต่างๆ หากมัวแต่ทำเรื่องเก่าๆจะเข้าไปสู่วังวนเดิมๆ เรื่องเหล่านี้หากต้องช้าไปเพื่อความถูกต้อง รับฟังความคิดเห็นวงกว้าง เป็นเรื่องที่ถูกต้องและจำเป็น เมื่อถามว่ากรอบ 30 วันหากศึกษาแล้วทำได้ไทม์ไลน์จะขยับไปหรือไม่ และถ้าศึกษาแล้วบอกไม่ควรกู้เงิน อาจขยับไปปีงบฯ 68 เลยหรือไม่ นายกฯตอบว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับข้อสรุปว่าจะสรุปอย่างไร
ไม่ชัดได้เร็วหรือช้า อ้างมี คกก.แล้ว
เมื่อถามว่าใช้คำว่าช้าแต่ชัวร์ที่จะได้เงินดิจิทัลใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ค่อนข้างเป็นไปได้ ใช่ครับ ไม่แน่ใจด้วยว่าจะช้าหรือเปล่า เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบว่าข้อเสนอแนะคืออะไร หากทุกคนมองแล้วบอกว่าจำเป็นเร่งด่วน เป็นเรื่องเศรษฐกิจอยู่ในภาวะวิกฤติแล้ว มีคณะกรรมการที่ตั้งมาแล้ว ทุกภาคส่วนสบายใจว่ากำกับดูแลเรื่องนี้ให้โปร่งใสได้ คณะกรรมการที่ต้องรับผิดชอบในหน่วยงานของเขา ต้องตอบปัญหาพี่น้องประชาชนให้ได้ ถ้าเขาอธิบายได้ เชื่อว่าน่าจะเดินต่อได้เร็ว” เมื่อถามอีกว่าความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาเปิดเผยได้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ยังไม่ได้ครับ” เมื่อถามว่าป.ป.ช.เห็นว่าควรแจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ต้องทบทวนกลุ่มผู้แจกหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ได้ทบทวนไปแล้ว หากย้อนเวลาไปตอนต้น มีหลายท่านแนะนำว่าอย่าแจกคนรวย เหตุผลที่ล่าช้ามาได้ถามกลับไปที่คนแนะนำว่าบอกหน่อยว่าคนรวยนั้นเงินเดือนเท่าไหร่ ไม่มีใครบอก เราเองไปคิดมาว่าคนรวยคือเงินเดือน 70,000 บาทขึ้นไป ถูกต่อว่า 70,000 แต่ยังมีหนี้ล้นพ้นตัวอยู่ ไม่ใช่คนรวยอยากได้ด้วย แล้วจะให้ตัดตรงไหน นโยบายทีแรกเราบอกว่าแจกทุกคนอายุ 16 ปีขึ้นไป แต่พอได้รับฟังความคิดเห็นมาบอกว่าให้แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อยากให้บอกมาเป็นเอกฉันท์เลยว่ากลุ่มเปราะบางนั้นเท่าไหร่ แล้วมานั่งพูดคุยกันดีกว่า
อ้อมแอ้มเบี่ยงตอบได้ใช้แน่
เมื่อถามย้ำว่า การแจกเงินดิจิทัลจะเกิดขึ้นแน่นอนใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เดี๋ยวต้องฟังจากที่คณะกรรมการประชุมกัน เมื่อถามว่าไทม์ไลน์ ขยับออกไป นายกฯรีบกล่าวสวนว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะขยับหรือเปล่า ซึ่งต้องฟังความคิดเห็นก่อน จะมีวิธีไหนอย่างไร เมื่อถามอีกว่ากระทบแผนฟื้นศรษฐกิจที่นายกฯบอกว่าวิกฤตหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ข้อสมมติฐานนั้นผิด ที่บอกว่าจะล่าช้าออกไป ตนยังไม่ได้บอกว่าจะล่าช้าออกไป ซึ่งยังไม่ทราบว่าผลสรุปจะออกมาอย่างไร ต้องฟังจากคณะกรรมการฯ
“หนิม” ให้ ปชช.ร้องเพลงรอต่อไป
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมครั้งนี้ยังไม่มีข้อสรุป นอกจากการตั้งคณะอนุกรรมการ 2 ชุด ประกอบด้วยคณะอนุกรรมการตรวจสอบ และป้องการทุจริตของโครงการตามข้อสังเกตของหลายๆฝ่าย และคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อความรอบคอบ ขอย้ำว่ารัฐบาลเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน รัฐบาลมีแต่ทำ ไม่มีที่จะไม่ทำ ขอให้ประชาชนรอไปก่อน ส่วนจะต้องรอไปถึงเมื่อใด ก็ต้องรอไปก่อน เนื่องจากรัฐบาลต้องใช้เวลาในการพิจารณาด้วยความรอบคอบมากที่สุด เมื่อถามว่ากรณีเศรษฐกิจวิกฤติหรือไม่วิกฤติ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เรื่องวิกฤติหรือไม่วิกฤติยังไม่ก้าวข้าม แต่เศรษฐกิจวันนี้เปราะบางจริง มีแต่ทรงกับทรุดเท่านั้น หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง กำลังซื้อถดถอย
“อ้วน” ไล่คนเห็นต่างลองไปเดินตลาด
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ข้อถกเถียงว่าวิกฤติหรือไม่วิกฤติ ถ้าเถียงทางทฤษฎีเถียงกันได้บนความเห็นแตกต่าง แต่แนะนำให้ทุกคนที่ยังไม่สบายใจ กลัวว่าจะไม่วิกฤติจริงให้ไปอยู่กับความเป็นจริง ไปเจอกับผู้ประกอบการ ไปคุยกับนักธุรกิจ ไปเดินตลาดพบประชาชนว่าเขารู้สึกอย่างไร เพราะไปเดินตลาดมาทั่วประเทศไทยแล้ว เสียงสะท้อนว่ามีปัญหามาก เดือดร้อน จึงอยากให้รัฐบาลทำอะไรที่กระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าอยากเปลี่ยนหรือแก้ไขต้องคิดวิธีใหม่ ส่วนที่กังวลว่าโครงการล่าช้า ต้องบอกว่ามาช้าดีกว่าไม่มา เรื่องไหน จำเป็นแต่ยังถกเถียงกันไม่จบ ทำไปจะเกิดปัญหา ต้องทำให้ดีที่สุดด้วยการมาพูดคุยกัน
ยันปม “ทักษิณ” ไม่ทำให้กระเพื่อม
นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะได้รับพักโทษว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นจนจบ จะออกมาเวลาไหนอย่างไรให้เป็นเรื่องของครอบครัว เราปฏิบัติหน้าที่ของเราไป ส่งกำลังใจและความปรารถนาดี ให้นายทักษิณที่คงจะดีใจมากที่ได้กลับมาพบกับครอบครัวเต็มรูปแบบ ข้อสังเกตหากนายทักษิณออกมาอาจเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง หรือการปรับ ครม.ไม่ได้เกี่ยวกันเลย ท่านกลับไปใช้ชีวิตปกติในครอบครัว ส่วน ครม.ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้ ยังทำงานด้วยกันได้อย่างดี ถ้าจะมีอะไรจริงต้องมีคนไปเสนอนายกฯ และนายกฯเห็นด้วยว่ามีปัญหา ยังไม่เห็นนายกฯพูดอะไร พบ สส.พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ยังมาร่วมยินดีวันเกิดนายกฯยิ้มแย้มแจ่มใสกันดีทั้งหมด ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทั้งนี้ นายทักษิณเป็นคนมีประสบการณ์ อาจเสนออะไรต่อเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมไม่ได้ไปปิดกั้น อย่าไปโฟกัสว่ามาให้คำปรึกษาหรือกำหนดอะไรรัฐบาล
ไม่มีข้อห้ามอดีตผู้นำเม้าท์การเมือง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติตนของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หากได้รับการพักโทษ จะให้ความเห็นทางการเมืองได้หรือไม่ว่า ความเห็นทางการเมืองเป็นเรื่องสิทธิทางการเมือง ไม่มีกฎหมายบังคับไม่ให้มีความเห็น เป็นสิทธิเสรีภาพทางการเมืองของคนทั่วไป ไม่มีห้าม มีสิทธิแสดงออกได้ ที่ผ่านมามีคนไปร้องเยอะแยะพรรค พท.ถูกครอบงำ เราเอาความคิดเห็นเหล่านั้นมาใช้ หากนำเอาความคิดเห็นของใครมาใช้แล้วบอกว่าผิดกฎหมาย มันแปลกประหลาดแล้วประเทศนี้
“อิ๊งค์” เผย “ชินวัตร” รอรับพร้อมหน้า
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงการเตรียมต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลังได้รับพักโทษวันที่ 18 ก.พ.ว่า ตอนนี้ให้หลานๆเขียนการ์ด เมื่อถามว่าครอบครัวจะรอให้การต้อนรับที่บ้านจันทร์ส่องหล้ากันทั้งหมดเลยใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารระบุว่า คิดว่าจะไปรับกัน ทุกคนน่าจะไปรับอยู่แล้ว ส่วนกำหนดการจะออกมาเวลาใด ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ทุกอย่างจะเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อถามว่านายทักษิณจะได้รับพักโทษวันที่ 18 หรือ 22 ก.พ. เนื่องจากมีกระแสข่าวออกมาเป็นสองวันนี้ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ถ้าคุณหมอว่าอย่างไรเป็นตามนั้น เมื่อถามย้ำว่า ถ้าคุณหมอไม่ต้องตรวจอาการต่อจะออกวันที่ 18 ก.พ.เลยหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ค่ะ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น”
ยันนายใหญ่ไม่ยุ่งโผนายพล–โผ ครม.
ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงการเข้าสู่ช่วงจัดโผโยกย้ายนายทหาร ชั้นนายพลกลางปี เป็นช่วงหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้รับพักโทษจะจัดวางสมดุลอย่างไรว่ากองทัพมีโครงสร้าง มีระบบ มีประเพณีอยู่แล้ว เราไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซงก็เดินไปได้ นายทักษิณไม่ยุ่งอยู่แล้ว ส่วนนายกฯได้กำชับเรื่องหลักๆคือความโปร่งใสของกองทัพ การจัดซื้อจัดจ้าง การแต่งตั้งโยกย้ายให้เป็นไปโดยโปร่งใส และนายทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่อง ครม.ขาเก้าอี้ รมว.กลาโหมยังดีอยู่ เดินหน้าทำงาน ไม่มีอะไรไหวหวั่น ทำงานเต็มที่ เมื่อถามว่าจะไปเยี่ยมนายทักษิณหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ไม่ไป เดี๋ยวเป็นข่าว
“ต๋อม” ชี้โกลาหลดุจมีนายกฯ 2 คน
ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีหลายฝ่ายจับตาเรื่องนายทักษิณได้รับพักโทษว่า ตรงนี้อาจเกิดสภาพที่เสมือนมีนายกฯสองคนได้ ถ้าไม่ระมัดระวัง พรรค ก.ก. ให้ความสำคัญกับประเด็นความเสมอภาคเท่าเทียมกัน ในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงเรื่องความเสมอภาคเท่าเทียมการอำนวยความยุติธรรม ทุกคนควรได้รับ ไม่ใช่อำนวยความยุติธรรมหรือคืนความยุติธรรมให้กับนายทักษิณคนเดียว ส่วนถ้าปล่อยไว้สถานการณ์จะเป็นอย่างไร ไม่ได้ส่งผลฉับพลัน แต่สั่งสมคับความข้องใจกับคนในสังคมขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเกิดนายทักษิณออกจากพักโทษกลับมาอยู่บ้าน แล้วรัฐบาลบริหารจัดการไม่ดีอาจกระทบ เกิดสภาวะเสมือนมีนายกฯ สองคนอาจยุ่งได้ เมื่อถามว่า เป็นไปได้ที่นายทักษิณให้ข้อคิดเห็นแล้วรัฐบาลนำไปปฏิบัติ เคยพูดเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมาแล้ว นายชัยธวัชตอบว่า การแสดงความคิดเห็นประเด็นสาธารณะทุกคนมีสิทธิ เพียงแต่อย่าไปทำให้ยุ่งยากในการบริหาร ตกลงนายกฯเป็นใครกันแน่ ต้องฟังใคร เจ้าหน้าที่ ข้าราชการ รัฐมนตรีต่างๆ จะไม่เป็นผลดีต่อนายเศรษฐาเอง
ขู่อุบัติเหตุการเมืองเกิดได้เสมอ
เมื่อถามว่าท้ายที่สุดแล้วจะกลายเป็นความขัดแย้ง เห็นต่างและที่นายทักษิณออกมา จะเป็นความรุนแรงเพิ่มอุณหภูมิทางการเมืองจากนี้หรือไม่ นายชัยธวัชตอบว่ารัฐบาลพรรค พท.ต้องระวัง เพราะรัฐบาลภายใต้การนำของพรรค พท.เน้นย้ำอยู่ตลอดเวลาที่ถูกผลักดันให้ต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องตามหลักการ มักอ้างว่าไม่ควรที่จะทำ เพื่อไม่เพิ่มความขัดแย้งทางการเมือง หรือลังเลที่จะผลักดัน การนิรโทษกรรมทางการเมืองให้ประชาชน อ้างว่าพยายามที่จะไม่เพิ่มความขัดแย้งใหม่ แต่กลับกันกรณีนายทักษิณ ไม่ลังเลใดๆเลยที่จะกังวลว่าจะไปสร้างความขัดแย้งใหม่ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องระวังในการบริหาร อุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ใช่เรื่องของนายทักษิณอย่างเดียว ยกตัวอย่างกรณี น.ส.ตะวันก็ได้ ที่มีเหตุที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น แล้วมันเกิดแล้วต่างฝ่ายต่างไม่พยายามจะควบคุมผลกระทบไม่ให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว อย่างนี้อันตราย
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่