“จตุพร” วิเคราะห์หลัง 18 ก.พ. “ทักษิณ” พักโทษ รัฐบาลจะเผชิญปัญหาทางสองแพร่ง อาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงมีนาคม ชี้ หากกล้าเบี้ยวดีลจะเกิดแรงกระเพื่อมสู่สถานการณ์ใหม่ชนิดคาดไม่ถึง เย้ย เป็นผู้นำไม่กล้าติดคุก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เมื่อค่ำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดยประเมินว่า สถานการณ์รัฐบาลหลัง นายทักษิณ ชินวัตร พักโทษ วันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ จะเผชิญหน้ากับทางสองแพร่ง ต้องเลือกเดิน คือ รักษาดีลหรือเบี้ยวดีล ถ้ารัฐบาลและนายทักษิณ ไม่เบี้ยวข้อตกลงกันแล้ว อาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในช่วงมีนาคมก็ได้ แต่ถ้าเบี้ยวดีลความจริงหลากหลายจะปรากฏขึ้นทันที และยังนำไปสู่อีกสถานการณ์หนึ่งชนิดคาดไม่ถึง

นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า การเรียกร้องให้นายทักษิณ ไปติดคุกตามคำพิพากษาคดีทุจริต เพราะนายทักษิณ เคยประกาศว่าเคารพกระบวนการยุติธรรมและยอมรับกระทำความผิดจริง แสดงว่ายอมรับคำพิพากษา ถ้ามั่นคงแบบนักต่อสู้ตายเป็นตายแล้ว หรือกล้าไปติดคุก คนจะยอมรับถึงความยิ่งใหญ่ของนักต่อสู้ “กองเชียร์ทักษิณ อย่ากล่าวอ้างการถูกยึดอำนาจมาลบล้างคดีทุจริตที่มีโทษติดคุก แต่ไม่ได้ติดสักวันเดียว ขณะที่นักต่อสู้ฝ่ายประชาชนที่ติดคุกยังคลางแคลงใจการทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชนของผู้นำการต่อสู้”

ส่วนการดีลทางการเมือง นายจตุพร ย้ำว่า มักจบไม่ดีสักราย ดูจากความไม่ปกติของบ้านเมืองที่เกิดปรากฏการณ์ชั้น 14 แล้วนำไปสู่หน่วยงานรัฐพยายามบิดเบือนว่า นายทักษิณ ได้พักโทษ เป็นไปตามระเบียบ ตามกฎหมาย แล้วนักโทษคนอื่นได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายแบบพักชั้น 14 ถึง 180 วันหรือไม่ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดการเป็นผู้นำ คือความรับผิดชอบและการเป็นแบบอย่าง เพราะการต่อสู้ที่ผ่านมาไม่ได้หวานเย็น มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก สูญสิ้นอิสรภาพนับไม่ถ้วน ดังนั้น ผู้นำแม้ต้องคดีจากเรื่องอื่นก็ตาม ควรเป็นตัวอย่างเพื่อบรรเทาความรู้สึกของสังคม

...

“การไปหลงใหลความสำเร็จในอดีต แต่ไม่ใส่ใจความล้มเหลวอันเป็นชนวนปัญหาทั้งมวลนั้น ทำให้เกิดความเข้าใจผิด แล้วการสรรเสริญนั้นจะนำไปสู่ปัญหาในอนาคต ประวัติศาสตร์ยังไม่รู้จักจดจำอีกหรือกับการชุมนุมต่อต้านการนิรโทษสุดซอย ที่เคยหยามไว้ว่าไม่มีคนมาชุมนุม”

อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ยังกล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า สถานการณ์บ้านเมืองนับจากวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลชุดใหญ่ อีกทั้งถ้าฝ่ายนายทักษิณและรัฐบาลเบี้ยวดีลแล้วจะนำไปสู่สถานการณ์ใหม่หรือไม่ จึงต้องจับตาดูกันไว้ เพราะแรงกระเพื่อมจะตามมาอย่างคาดไม่ถึง.