นายกรัฐมนตรี ยัน เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ มอง จะ 5 เม็ดหรือ 1 เม็ด ก็ไม่ควรมี แต่หากไม่เหมาะสมพร้อมเปลี่ยนแปลงใหม่ได้ หลังเกิดกระแสดราม่า เผย เดือนหน้าบินเยอรมัน-ฝรั่งเศส จ่อคุยวีซ่าเชงเก้น
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เกี่ยวกับการแก้ปัญหายาเสพติด เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากพื้นที่ยังแออัดในสนามบิน เพราะตอนนี้ทำงานหนัก มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะ ก็ต้องดูแลเรื่องพื้นที่ให้พักผ่อนได้ชั่วคราว รวมถึงพูดคุยเรื่องแฟลตตำรวจด้วย ซึ่งในสัปดาห์นี้จะไปตรวจดูแฟลตตำรวจ และจะมีการทำแผนระยะยาวในการให้ความมั่นใจ แก่คนที่เข้ามาเป็นตำรวจแล้วว่าจะรับการดูแลที่ดี
เมื่อถามถึงกรณีราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกฎกระทรวง กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 ไม่เกิน 5 เม็ดให้ถือเป็นผู้เสพ จนกลายเป็นประเด็นดราม่าในโซเชียลว่า ดูมากเกินไปกับสถานการณ์ยาเสพติดที่ค่อนข้างรุนแรง โดยนายกรัฐมนตรีย้อนถามว่าดูมากเกินไปหมายความว่าอย่างไร จำนวนเม็ดที่มากเกินไปใช่หรือไม่ 5 เม็ดไม่ควรเป็นผู้เสพใช่หรือไม่
ในส่วนของประเด็นที่คนมองว่า 5 เม็ดเยอะเกินไปสำหรับผู้เสพ เพราะก่อนหน้านี้มีการเสนอแค่ 1 เม็ดนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า “มันมากเกินไปใช่ไหม อันนี้ต้องลองดูก่อนแล้วกัน เพราะปัจจุบันนี้เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เรื่องคนเสพจะ 5 เม็ด 3 เม็ด หรือ 1 เม็ด ผมว่ามันไม่ควรจะมีอยู่แล้ว ตรงนี้ก็ลองดูก่อนแล้วกัน ไปบำบัดแก้ไขกันไป”
...
ขณะที่คำถาม จะต้องมีมาตรการปฏิบัติการพิเศษเพื่อตัดวงจรยาเสพติดหรือไม่ นายเศรษฐา ให้คำตอบว่า เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติอยู่แล้ว เรื่องยาเสพติดเราไม่ได้ทำแค่เรื่องประกาศว่า 5 เม็ด หรือถ้าเกิดดูแล้วว่าไม่เหมาะสมก็จะเปลี่ยนแปลงใหม่ ไม่ใช่แค่เรื่องนี้อย่างเดียว เรื่องการตัดวงจรการค้าที่ข้ามมาจากชายแดน หรือการบำบัดผู้ป่วยและผู้เสพที่เป็นผู้ป่วย ไม่ใช่เป็นผู้ผิดหากบำบัดออกมาก็มีการจัดหาอาชีพคืนสู่สังคมที่เหมาะสม ซึ่งเรื่องของยาบ้าที่จับมาหลายสิบล้านเม็ดหรือหลายร้อยล้านเม็ดมา ซึ่งระยะเวลาการทำลายยาเสพติดจะทำให้เวลาสั้นลงเพื่อให้ความแคลงใจของสังคมลดน้อยลง ย้ำว่ามีการแก้ไขปรับปรุงตลอดเวลา

เดือนหน้าบินยุโรป จ่อคุยวีซ่าเชงเก้น
สำหรับความคืบหน้าวีซ่าเชงเก้นเข้ายุโรป นายเศรษฐา เผยว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังเดินหน้าต่อไป ซึ่งตนได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีเบลเยียม ประธานสภาสหภาพยุโรป (EU) โดยสอบถามถึงเรื่องคนไทยที่ไปอยู่ในยุโรป มีปัญหาหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีปัญหาเลย แต่เราเองก็บอกว่าให้ยกระดับตรงนี้ เพราะจะเป็นการสนับสนุนแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชน ทั้งในเรื่องการท่องเที่ยวซึ่งมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยที่เราไม่เป็นคู่ขัดแย้งหรือมีประเด็นอะไรกัน ซึ่งนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พยายามทำงานอยู่ แต่ต้องใช้เวลา
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าการพูดคุยเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากจะบอกว่าเป็นไปได้หรือไม่ได้ เพราะไม่อยากพูดไปก่อน แต่ยืนยันว่าทุกฝ่ายทำงานเต็มที่และอยากให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งการเดินทางเยือนเยอรมนี ฝรั่งเศส ของตนจะมีการพูดคุยในเรื่องนี้ ของพวกนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร อย่างเช่นการฟรีวีซ่าระหว่างไทยและจีน มีคนบอกว่าทำไม่ได้ เราก็ทำได้ 1 มีนาคม 2567 ก็จะเปิดใช้ รวมถึงถ้าตนจะเดินทางไปอินเดีย จะมีการพูดคุยเรื่องวีซ่าเช่นเดียวกัน.