เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน นัดผู้ถูกดำเนินคดีช่วงม็อบราษฎร ปี 63-65 จัดกิจกรรม 11.2 Love Fair เรียกร้องให้รวมการนิรโทษคดี ม.112 ในร่างกฎหมายนิรโทษกรรม พบ “ตะวัน-หยก” และ สส.ก้าวไกล-ช่อ ร่วมวงด้วย
วันที่ 11 ก.พ. 2567 ที่ลานประชาชน สัปปายะสภาสถาน รัฐสภา เกียกกาย เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน หรือ กลุ่มราษฎรเดิม นำโดยนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายของประชาชน หรือ ไอลอว์ นัดหมายผู้ถูกดำเนินคดีระหว่างการชุมนุมของม็อบราษฎร ช่วงปี 63-65 กว่า 200 คน เดินทางมารวมตัวเพื่อจัดกิจกรรม 11.2 Love Fair ที่ถือเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญล่ารายชื่อเสนอ “ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชน” ต่อสภา ที่เรียกร้องให้รวมการนิรโทษคดี ม.112 ด้วย สำหรับไฮไลต์สำคัญในงานคือเหล่าผู้ถูกดำเนินคดีในการชุมนุมของม็อบราษฎร และคดีหมิ่นสถาบัน ม.112 ได้รวมตัวกันเพื่อบันทึกภาพ และตะโกนคำว่า “ลงชื่อเพื่อเสรีภาพ ทวงคืนความยุติธรรมนิรโทษกรรมประชาชน”
ทั้งนี้ได้มี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.ธนลภย์ พลัญชัย หรือหยก เดินทางมาร่วม โดยชูภาพของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ นอกจากนี้ยังมี สส.พรรคก้าวไกล อาทิ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว, นายปิยรัฐ จงเทพ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช จากคณะก้าวหน้า
...
นายยิ่งชีพ กล่าวว่า พวกเรามารวมตัวกันในวันนี้ต่างก็แบกเอาเรื่องราว บาดแผล ความเจ็บแค้น ความทรงจำ เอาไว้มากมายนับกันไม่ถ้วน เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมากฎหมายถูกใช้เป็นเครื่องมือของรัฐที่จะสร้างความหวาดกลัว และกระบวนการยุติธรรมกลายเป็นกระบวนการที่ใช้สร้างภาระสร้างความปั่นป่วนในชีวิต โดยเฉพาะในคดีมาตรา 112 ที่ถามหาความปกติได้ยาก เพราะผู้พิพากษาเองก็ทราบว่ามันไม่ใช่คดีปกติ
นายยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า ทนายความอย่างนายอานนท์คือประจักษ์พยานของความไม่ปกติ จนถึงวันที่ต้องลุกขึ้นมาเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และยกเลิกมาตรา 112 ทำให้นายอานนท์ต้องถูกส่งเข้าเรือนจำเสียเอง
ข้อเสนอนิรโทษกรรมประชาชน ที่ต้องเรียกร้องเพื่อให้ได้มาในวันนี้ เป็นเรื่องเดียวกันกับที่เราเรียกร้องกันมาตลอดหลายปี คือ เสรีภาพขั้นพื้นฐาน และคือการทวงคืนความยุติธรรมให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน และคือการเสนอใช้สิทธิช่วยกันเสนอต่อผู้มีอำนาจสูงสุดอย่างเป็นทางการให้ปล่อยเพื่อนเรา
สำหรับวันที่ 14 ก.พ. จะมีกิจกรรมปิดท้ายแคมเปญนิรโทษกรรมประชาชน “ส่งรักให้ถึงสภา ถามหาความยุติธรรม เพื่อนิรโทษกรรมประชาชน” โดยมีการเชิญหัวหน้าพรรคการเมืองมารับรายชื่อประชาชน ที่ร่วมกันเข้าชื่อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชน พร้อมกับแสดงความเห็น และจุดยืน.