ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย การกระทำของ พรรคก้าวไกล ถือว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครอง และมีคำสั่ง ห้ามแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 โดยเด็ดขาด ปิดประตูการแก้ไข ม.112 ทุกกรณี โดยเฉพาะคำว่า เซาะกร่อน บ่อนทำลาย แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมและการกระทำของ ก้าวไกล ที่ชัดเจนว่า เจตนาเป็นการล้มล้างการปกครอง ดังนั้นไม่ว่าจะมีผู้ร้องหรือไม่ก็ตาม กกต. ในฐานะที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จึงจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันต่อองค์กรอิสระ รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานรัฐ ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลอย่างเคร่งครัด

ไม่ว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้า พรรคก้าวไกล จะออกมาแถลงจุดยืนของพรรคก้าวไกลต่อสถาบัน หรืออ้างถึงผลกระทบความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นระหว่างสถาบันอย่างไรก็ตาม แต่เมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องยอมรับและปฏิบัติตามคำสั่งศาล ซึ่งรวมถึงการกล่าวโทษร้องทุกข์ สส.ก้าวไกล ที่ลงชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 จำนวน 44 รายด้วย จะมีผลถึงการตัดสิทธิลงรับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิต และถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี

ก้าวไกลมีอยู่สองทางเลือก ยุบพรรค ถูกตัดสิทธิทางการเมือง

เพราะฉะนั้นทางเดินในอนาคตของ ก้าวไกล เหลือไม่มากนัก ประกอบกับ พฤติกรรมของ สส.ก้าวไกล ที่กำลังถูกตรวจสอบจาก หน่วยงานรัฐ กรณี สด.43 ที่ สส.ฉะเชิงเทรา จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ นำมาแสดงประกอบการชี้แจงไม่ได้หนีทหารในท้ายที่สุดติดกับดักพิรุธเอกสาร สด.43 เสียเอง จริงหรือปลอม ถ้าปลอมก็ยาวไป ไม่ว่า วิโรจน์ ลักขณาอดิศร จะใช้อำนาจการเป็นกรรมาธิการตรวจสอบ การออกใบ สด.43 ของสัสดีทั่วประเทศมาตอบโต้อย่างไร เรื่องนี้ก็ต้องแยกเป็นประเด็นไป หนีทหารหรือไม่ สด.43 จริงหรือปลอม และมีการนำเอกสารปลอมมาแสวงหาประโยชน์จากหน่วยงานรัฐหรือไม่ มีผู้นำเรื่องนี้ไปร้องกับ ป.ป.ช.แล้ว มีทั้งเรื่องของจริยธรรมนักการเมือง การนำเอกสารเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ดึงเอากองทัพมาเล่นด้วย

...

ปัญหาใหญ่ของก้าวไกลคือ ม. 112 กับกระแสพรรคและการถูกยุบพรรค

ถ้าไม่เดินหน้าตามอุดมการณ์ ปฏิรูป ก้าวไกลก็คงสิ้นศรัทธาจากสมาชิกยังรอ นิรโทษกรรมแก้ ม.112 สถานการณ์ไม่ต่างจาก เพื่อไทย กับ เสื้อแดง ที่แยกกันไปคนละทางสองทาง

เรื่องนักร้องตบทรัพย์ กรณีที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมศรีสุวรรณ จรรยา ยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ และเอกลักษณ์ วารีชล หรือเอก ปากน้ำ ข้อหารีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวและภริยา ยิ่งสอบตัวละครก็ยิ่งเพิ่ม ไม่เฉพาะตัวผู้ต้องหาที่โยงกันไปโยงกันมาทั้งคดีเก่าคดีใหม่ ผู้ต้องหาบางรายก็เคยนำคลิปเสียงของเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตที่ปรึกษานายกฯและสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติมาแฉ ล่าสุด เจ๋ง ดอกจิก ถึงกับยกมือสาบานและพยายามอ้างชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ที่ก่อนหน้านี้ก็มีการอ้างชื่อคนสนิท ร.อ.ธรรมนัสไปพัวพันด้วย

คนละหมัด หมูเถื่อน กรมการข้าว เซาะกร่อน บ่อนทำลาย ขอสาบานโกโซบิ๊ก.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม