สถานีต่อไป ยุบพรรค–ประหารชีวิตการเมือง
อ่านฉากทัศน์ล่วงหน้า หลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล เสนอร่างกฎหมาย มีนโยบายพรรคหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อแก้ไขและยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
เป็นการ “ใช้สิทธิเสรีภาพ ล้มล้างการปกครอง”
สะเทือนเมือง สะท้านค่ายส้ม จ่ออาฟเตอร์ช็อกกระตุกขวัญตามมา
ก็ไม่ผิดคาด ล่าสุดทั้งนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ มือสอยอาชีพ และนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความพุทธะอิสระ ต้นเรื่องร้องมาตรา 112 ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ใช้ดาบซ้ำให้ กกต.สั่งยุบพรรคก้าวไกล ตามกฎหมายพรรคการเมือง
นัยว่า “ความผิดสำเร็จแล้ว” บทลงโทษลงทัณฑ์ก็ต้องมีตอนต่อไป
โปรแกรมสอยไม่รีรอ ไม่มีช้ากันเลย
แน่นอนคิวนี้ โทษหนักก็จินตนาการให้ผวาตาม เหมือนคิวร้อนๆที่ผ่านมา โดยเฉพาะบทเรียนกับการยุบพรรคอนาคตใหม่ จ่อวนลูปมาอีกครั้งกับพรรคก้าวไกล
มโนฉากต่อไป ถ้ากระบวนการเดินสุดทาง นอกจากพลพรรคก้าวไกลต้องหาที่อยู่ใหม่ เรื่องเปิดหัวสำรองไว้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่แน่ๆกรรมการบริหารพรรค 10 ราย ไม่ได้ไปต่อ
จ่อเจอโทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ห้ามยุ่งเกี่ยวการเมืองยาวๆไป 1 ทศวรรษ
ขานชื่อระดับบิ๊กเนมเกรดเอ พิธา–ชัยธวัช ตุลาธน กระทั่ง “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ ก็อยู่ในข่าย ในฐานะอดีต สส.ก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่างกฎหมายมาด้วยกัน
นั่นก็ถึงจุดที่ แถวต่อไป “เก็บตัว” สต๊อกไว้ ได้เวลาลงสนาม
ในสถานการณ์ไม่สู้ดี ยังรวมไปถึงเครือข่ายแนวร่วม นักกิจกรรมโดนโทษ 112 ในวันเดียวกัน
นอกจากนี้ นักเคลื่อนไหวที่ได้มาเป็น 3 สส.ก้าวไกลรุ่นใหม่ อยู่ในโฟกัสจับจ้องร่วมก่อพฤติกรรมแวดล้อม “ล้มล้าง” เช่นกัน
...
ถึงตรงนี้ แม้ว่าคีย์แมนมันสมองค่ายส้มจะเตรียมตัวจัดแผนสำรองแพลนเอ แพลนบีเอาไว้ แต่อย่าลืมว่าช่วงเปลี่ยนแปลงย่อมมีแรงกระเพื่อม ที่ว่าจะไม่ให้เกิดบทเรียนซ้ำซาก สแกนดีเอ็นเอ คัดส้มพันธุ์แท้กันไว้ละเอียด
แต่ก็ไม่การันตี “จิตใจ” ป้องกันงูเห่าสีส้ม ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ห้วงวิกฤติค่ายก้าวไกลยังไม่จบแค่นี้ อีกเส้นทางวิบาก ในคิวการยื่นตรวจสอบปม “มาตรฐานจริยธรรม” หากชงถึง ป.ป.ช. แล้วยื่นเรื่องต่อให้ศาลฎีกาฯพิจารณา โทษสุดท้ายร้ายสุด
ถึงขั้น “ตัดสิทธิลงรับสมัครเลือกตั้ง และตัดสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิต”
“ใบดำ” ถูกโยนออกมาเมื่อไหร่ ก็เท่ากับปิดฉากซีซันนี้
โมเดล “ประหารชีวิตการเมือง” ตีกรอบขยายวงกว้างทั้ง 44 สส.ก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอกฎหมายแก้มาตรา 112 อยู่ในข่ายโดนโทษหนักคิวนี้ ชนิดค่ายส้มต้องเตรียมตัวหาคนลงเลือกตั้งซ่อมลอตใหญ่
จนไม่รู้ ถึงเวลาจะมีเวลาทำหน้าที่ฝ่ายค้าน โชว์บทเก่งตรึงแต้ม และกระทบโฟกัสเลือกตั้งท้องถิ่นปีนี้แค่ไหน
ในฉากทัศน์ รายการนี้ดูทีท่าแล้วมีเปอร์เซ็นต์สูง ผู้คุมเกมเปลี่ยนใจไม่ “ยั้งดาบ”
กระแสข่าว “เลี้ยงส้ม–คานแดง” แวบๆแล้วเปลี่ยนทิศทาง
ในสถานการณ์ที่เห็นโซ่ตรวนไฟลุกแดงฉาน พันธนาการ “พิธา” และพวกไว้แน่นหนา รอสัญญาณเดินสู่แดนประหารทางการเมือง
คิวยุบพรรคจ่อคอหอย รายการล้างบางพันธุ์ส้มชวนระทึก
โดยฝ่ายผู้คุมเกมไม่หวั่นปม “ยุบหนอ–พองหนอ” ปั่นเกม “ทุบ” แล้วไม่คุ้ม ทำให้ค่ายส้มโตพรวดๆกว่านี้
แลกกับภารกิจสำคัญ เพื่อบริหารจัดการ ความมั่นคง เสถียรภาพ โครงสร้างดั้งเดิม
เมื่อก้าวกล้าท้าทาย ล้มล้างร้อนแรง ก็ต้องล้างบางสนองคืน
ด้วยสัญญาณที่ออกมา เลี่ยงปะทะได้ยาก ขณะที่เมื่อตั้งโหมดเก็บกวาดไว้ก็คงต้องไล่ทุบกันยาวไกล โดยไม่ลังเลกับการหมุนทวนเข็มนาฬิกา
ย้อนฉากระทึกบ้านเมือง วิกฤติแตกแยกวนเวียน ไม่เปลี่ยนแปลง.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม