“สมศักดิ์” เตรียมส่งรายชื่อวัวเถื่อนให้ ก.เกษตรฯ หลังเจอปัญหาทำราคาตลาดในประเทศตกต่ำ-เอาโรคเข้ามาแพร่ เผย ร่างส่งเสริมปศุสัตว์เสร็จ เม.ย.พัฒนาเพิ่มมูลค่ากีฬาสัตว์พื้นบ้าน ยัน โครงการวัวแสนล้านไม่มีปัญหา ทำแบบโปร่งใสให้ผู้เลี้ยงได้เลือกซื้อเอง

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม วาระเพื่อพิจารณากระทู้ถามสด โดย น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เกษตรกรมีปัญหาราคาวัวตกต่ำที่เป็นปัญหาร้ายแรงของประชาชน เพราะวัวคือตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่ของประชาชน เวลาเขาอยากได้เงินก็เอาวัวไปขาย ทุกครั้งที่ตนเดินทางไปที่ตลาดนัดโคกระบือทางภาคอีสาน เพื่อดูและให้กำลังใจ พบว่าราคาวัววันนี้ตกต่ำมาก จากเดิมตัวละ 50,000 เหลือแค่ 10,000-30,000 บาทเท่านั้น พี่น้องประชาชนเริ่มหมดความหวังในการเลี้ยงวัวเพื่อเลี้ยงชีพตัวเอง แต่วันนี้ตนเริ่มมีความหวัง กับโครงการวัวแสนล้าน ที่รัฐบาลเตรียมดำเนินการ จะเป็นโครงการที่เป็นความหวังกับประชาชน อยากทราบว่าเมื่อไหร่โครงการนี้จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ตนคิดว่าควรจะต่อยอดการพัฒนาสายพันธุ์ที่จะทำให้ราคาวัวดีขึ้น และขอฝากปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นหากโครงการนี้สำเร็จ วัวจะมากขึ้น โรคปากเท้าเปื่อยขอให้รัฐบาลเตรียมรับมือเอาไว้ด้วย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบกระทู้ว่า โครงการวัวแสนล้าน ของกองทุนหมู่บ้านดำเนินการ จัดหาหรือนำโคมาเลี้ยงนั้น จะไม่มีปัญหาในเรื่องที่จะเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน เพราะจะให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านได้กู้เงิน มาจาก ธ.ก.ส. 50,000 บาท เพื่อนำไปซื้อวัวเอง ครอบครัวหนึ่งก็จะเลี้ยง 2 ตัว ซื้อเอง เลือกเองว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่ชอบอย่างไร หากโครงการนี้เกิดขึ้นการจัดหาหรือการซื้อวัวของเกษตรกรพร้อมๆ กัน ราคาวัวที่ตกต่ำก็จะขึ้น และอีกส่วนคือ ตนได้ให้ สำนักงาน ป.ย.ป. ได้ร่างกฎหมายการส่งเสริมปศุสัตว์ คือการพัฒนาพันธุ์การแข่งขัน สร้างกติกา สนามแข่งให้ได้มาตรฐาน รวมถึง พ.ร.บ.การพนัน ที่ปรับให้มีความทันสมัยขึ้น หากเรามีกฎหมายแข่งขัน เหมือนในยุโรปที่มีการเลี้ยงม้าแข่งตัวที่ได้แชมป์ราคาสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์ เราอาจจะได้เห็นวัวบ้านเราราคาตัวละ 10-20 ล้านบาทได้ โดยร่างกฎหมายนี้คาดว่าจะเสร็จช่วง เม.ย.-พ.ค.

...

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาวัวราคาตกต่ำขณะนี้เพราะ มีวัวเถื่อนเข้ามา ทั้งแบบเนื้อแช่แข็งและเป็นตัวมีชีวิต โดยสถิติการเลี้ยงวัวในประเทศ มีผู้เลี้ยงประมาณ 1.4 ล้านคน มีวัว 9 ล้านกว่าตัว ซึ่งการบริโภคในประเทศปีละ 97 เปอร์เซ็นต์ แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่มีวัวส่งออกตามชายแดน 2-3 แสนตัว เป็นขายแบบไม่ขออนุญาต แล้วส่วนเกนนั้นมากจากไหน ตนก็ได้ไปสืบหาข้อมูลทราบว่า มีวัวที่นำเข้าตามชายแดน มีหลายพื้นที่ มีวัวแช่แข็งและมีหมูแช่แข็งเข้ามาด้วย มีอยู่หลายพื้นที่ ในมือตนมีรายชื่อแล้ว เดี๋ยวจะส่งให้ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ ได้นำไปดำเนินการปราบปรามวัวเถื่อนตรงนี้ และตนจะไปหารือกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ที่กำกับดูแลเรื่องกลไกตลาดและการนำเข้า ส่งออกด้วย ซึ่งปัญหาวัวเถื่อนนอกจากทำให้ราคาวัวในประเทศตกต่ำแล้ว ยังนำโรคเข้ามาด้วย หากเราบล็อกให้อยู่โรคก็จะไม่เข้ามา ต้องฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง