รมว.พม. เผย ยังส่งเจ้าหน้าที่ตามประกบดูแลสภาพจิตใจเด็ก ม.5 เหยื่อตำรวจ สภ.ป่าติ้ว พร้อมส่งย้ายจังหวัดตามคำขอครอบครัว ระบุตอนนี้ยังให้อยู่ในบ้านพัก และเรียนออนไลน์ แนะครูไปถามหาเหยื่อว่าเป็นใคร ควรมีสามัญสำนึก
วันที่ 1 ก.พ. 2567 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความคืบหน้าที่ กระทรวงพม.ให้ความคุ้มครองเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.5 ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ล่วงละเมิด ว่า ต้องขอขอบคุณผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) อีกครั้ง ที่ได้ดำเนินการต่อเรื่องดังกล่าวโดยทันที สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้นั้นออกจากราชการไป ส่วนขั้นตอนการลงโทษ หรือการดำเนินการทางกฎหมายนั้น ไม่ขอก้าวล่วงเข้าไปในกลไก หรือมาตรการการลงโทษนั้น ส่วนปัจเจกบุคคลไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรืออาชีพใดก็แล้วแต่แน่นอนว่ามักจะมีแกะดำในฝูงแกะขาวเสมอ จะบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเช่นนี้หมดก็คงไม่ได้ เพราะในทุกวงการเราอย่าเอาปลาเน่าตัวเดียวมาทำให้ปลาเหม็นไปทั้งข้อง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ล่าสุดมีครูในโรงเรียนเดียวกันไปถามหาว่านักเรียนคนใดที่ตกเป็นเหยื่อ อย่างนี้เหมาะสมหรือ รมว.พม.กล่าวว่า “ประเด็นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมาตรการ หรือกฎหมายใด การกระทำส่วนใหญ่เป็นสามัญสำนึก จึงต้องขอฝากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นครู หรือใครก็แล้วแต่ ว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับคนใกล้ตัวของท่าน ลูกสาว น้องสาว บุคคลในครอบครัว เมื่อไม่ต้องการให้สังคมทำอะไร ก็อย่าไปทำอย่างนั้นกับคนบุคคลอื่น แน่นอนว่านิสัยการอยากรู้อยากจะทราบรายละเอียดนั้น เป็นเรื่องปกติของมนุษย์คนหนึ่ง แต่คงต้องขอฝากทุกคนให้มีสามัญสำนึกว่าเวลาเกิดเหตุเช่นนี้แล้ว ไม่มีใครหรอกที่อยากจะเอาเรื่องของตนเองมาประจาน หรือป่าวประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ คงต้องขอให้รักษาสิทธิ และรักษาความรู้สึกของบุคคลที่ได้รับผลกระทบ และเป็นผู้ถูกกระทำ”
...
ผู้สื่อข่าวถามถึงสภาพจิตใจของเด็กล่าสุด นายวรวุธ กล่าวว่า ขณะนี้กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้ส่งนักจิตวิทยาเข้าประกบตัวเด็กอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับทางโรงเรียนเพื่อขอให้เด็กได้เรียนหนังสือผ่านทางระบบออนไลน์ ในขณะที่ยังไม่มีความพร้อมที่จะกลับเข้าไปเรียนในระบบปกติ ทางบ้านพักเด็กและครอบครัว (บพด.) จังหวัดยโสธร กระทรวง พม. ในขณะนี้ได้รับน้องเข้าไปอยู่ในความดูแลคุ้มครอง และมีการประสานตามที่ครอบครัวของน้องเองต้องการนำตัวกลับไปอยู่จังหวัดอยุธยา ซึ่งบ้านพักเด็กฯ ที่จังหวัดอยุธยานั้นก็ได้รับการประสาน และพร้อมที่จะรับเข้าไปอยู่ในความคุ้มครองเช่นเดียวกัน ทุกฝ่ายกำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ในการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นทางด้านจิตใจ ทั้งนี้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้ปกครองที่ต้องการนำตัวน้องกลับไปอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา.