"อนุสรณ์" โฆษก กมธ.งบฯ ปี 67 ห่วงปมทุจริตสหกรณ์-จัดการน้ำ รับมือ "เอลนีโญ" พ่วงที่ดิน ส.ป.ก.-เผาพืชไร่ PM 2.5 บี้ เร่งแก้ไข เผย ถกไป 10 วัน คืบ 24.18% งบกลาง 11 รายการ 171 หน่วยงาน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 แถลงผลการประชุมว่า เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) เป็นการพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเป็นการพิจารณาของกระทรวงและหน่วยงานในกลุ่มอำนวยการ กลุ่มภารกิจด้านบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการผลิตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมี กมธ.หลายท่านให้ข้อเสนอแนะในหลายประเด็น อาทิ ปัญหาในการทุจริตในสหกรณ์หลายแห่งที่ส่งผลต่อสมาชิกสหกรณ์จำนวนมาก ซึ่งสหกรณ์บางแห่งมีปัญหาเรื้อรังมานาน แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าช่วยเหลือโดยเร็ว สำหรับหน่วยงานด้านชลประทาน กมธ.ส่วนใหญ่ได้เสนอแนะ และให้ข้อสังเกตถึงการดำเนินงานด้านการทำแผนการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ หรือการทำฝายหรือเขื่อนในพื้นที่เป็นต้นน้ำ เนื่องจากแหล่งต้นน้ำในหลายพื้นที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา และหน่วยงานควรพิจารณางบประมาณสนับสนุนการพัฒนาคลองส่งน้ำในสายต่างๆ เนื่องจากในอดีตคูคลองถูกใช้ในช่วงฤดูฝนเป็นหลัก แต่ปัจจุบันฝนน้อยลงจึงเสนอให้เพิ่มจำนวนคลองส่งน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรให้ทั่วถึง รวมถึงหน่วยงานจะมีแนวทางเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังมาถึงอย่างไร

โฆษก กมธ.งบฯ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่กระทบต่อเกษตรกร คือเรื่องที่ดิน ส.ป.ก โดยมี กมธ.บางท่านได้เสนอให้มีการตั้งงบประมาณสำหรับการสำรวจการใช้ที่ดิน ส.ป.ก เพื่อทำการเกษตรและวิธีในการตรวจสอบที่ดินที่ดำเนินการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร และประเด็นการปรับปรุงแนวเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งในปัจจุบันเมื่อมีการประกาศปฏิรูปที่ดินแล้ว แต่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินได้ จึงข้อให้หน่วยเร่งรัดแก้ไขปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการหารือปัญหาการเผาพืชไร่หน่วยในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ควรเข้าไปทำหน้าที่กำกับและตรวจสอบเกษตรกรไม่ให้เผาพืชไร่ เพื่อลดมลพิษทางอากาศและป้องกันฝุ่นพิษ PM 2.5

...

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผลของการประชุมของ กมธ.ที่ผ่านมาทั้งสิ้นใช้เวลา 10 วัน หน่วยงานที่ผ่านการพิจารณางบกลาง 11 รายการ 171 หน่วยงาน 12 กองทุน คิดเป็น 24.18%

เมื่อถามว่า จะมีการตั้ง อนุฯ กมธ.เมื่อไหร่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า คาดว่าเป็นสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม การพิจารณางบประมาณครั้งที่แล้วเป็นการตั้งตามภารกิจ แต่รอบนี้อาจจะเป็นการพิจารณารายกระทรวง ส่วนความชัดเจนต้องรออีกครั้งหนึ่ง เพราะระยะเวลาที่กระชั้นชิด เราจะทำอย่างไรให้มีการพิจารณางบให้ครบถ้วน รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ