“ศรีสุวรรณ” ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.แล้ว กรณี “ศักดิ์สยาม” หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี กรณีซุกหุ้น ชี้ อาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
วันที่ 19 มกราคม 2567 นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เดินทางมายื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ปฏิบัติหน้าที่ และใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายในการไต่สวนและมีความเห็น เพื่อนำไปสู่การลงโทษ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่าฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง อันเนื่องมาจากเป็นเจ้าของที่แท้จริงของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ ตอนสตรัคชั่น
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วน และยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้น หรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่นั้น

...
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการปกปิด และแจ้งทรัพย์สินในการเข้าดำรงตำแหน่ง ต่อ ป.ป.ช. อันเป็นเท็จ กรณีบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ที่การแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของ นายศักดิ์สยาม อาจไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ส่อเจตนาปกปิดทรัพย์สิน เพราะเป็นเจ้าของที่แท้จริงในทรัพย์สินของเอกชนทั้ง 2 แห่ง และมีพฤติกรรมน่าเชื่อว่าใช้อำนาจหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเอื้อประโยชน์ให้กับห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น เข้าทำสัญญากับกระทรวงคมนาคมหลายโครงการ
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 1) โดยวินิจฉัยเป็นไปตามคำร้องของ สส.ทั้ง 54 คน จึงให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง คือ วันที่ 3 มีนาคม 2566

นายศรีสุวรรณ ระบุต่อไปว่า แต่เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 วรรคสี่ ประกอบมาตรา 5 ดังนั้นการกระทำของนายศักดิ์สยาม ในขณะที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงฯ ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 219 บัญญัติไว้หลายข้อ อาทิ ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 17 ข้อ 21 ประกอบข้อ 27 ด้วย
“จึงเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องดำเนินการนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาไต่สวน และยื่นศาลฎีกาให้ลงโทษตามครรลองของกฎหมายต่อไป องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความมาแจ้งให้ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เป็นการเร่งด่วนในวันนี้”.