"แพทองธาร" ย้ำ ภาคภูมิใจ 30 บาทรักษาทุกที่ ต่อยอดนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ยุคไทยรักไทย แนะ หากไม่มีสมาร์ทโฟน นำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนได้ บอก ไม่ต้องกังวลฐานข้อมูลรั่วไหล

วันที่ 7 ม.ค. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการคิกออฟโครงการ “30 บาทรักษาได้ทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมาก เพราะเป็นนโยบายที่ต่อยอดมาจากนโยบายสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่านโยบายที่ดี สามารถทำให้ชีวิตของประชาชนมีความกินดีอยู่ดีขึ้น

"นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เรามีมา 22 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยพรรครักไทยรักไทย คนก็ยังใช้อยู่ แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ต้องการปรับให้สามารถใช้ให้ดีขึ้น โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนให้การเก็บข้อมูล รวบรวมข้อมูลเป็นระบบมากขึ้น สมควรแก่เวลาที่จะปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องบางอย่าง ทำให้ดีขึ้น ทำให้ประชาชนสะดวกต่อการใช้มากขึ้น ต้องยกระดับให้ดีที่สุด" นางสาวแพทองธาร กล่าว

นางสาวแพทองธาร ระบุด้วยว่า 4 จังหวัดนำร่อง มีการเตรียมพร้อมข้อมูลมากที่สุดในการดำเนินการ ขณะเดียวกันก็มีระบบป้องกันข้อมูลส่วนตัวของคนไข้ มีระบบยืนยันตรวจสอบข้อมูลผู้ป่วยที่รัดกุม ไม่ให้รั่วไหล ส่วนข้อกังวลของประชาชนบางกลุ่ม ที่อาจไม่ได้มีสมาร์ทโฟนเพื่อที่จะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหมอพร้อมเพื่อมาใช้บริการได้นั้น ก็สามารถใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวไปยืนยันตัวตนที่โรงพยาบาลได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้มือถือ

ขณะที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า นโยบายนี้มีการยกระดับ นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของประชาชน จึงเปิดนำร่อง 4 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด แพร่ เพชรบุรี และนราธิวาส และเริ่มคิกออฟในร้านยาเภสัชเอกชน โรงพยาบาลชุมชน แล็บตรวจเลือด รวมถึงสหคลินิก คลินิกทันตกรรมและเวชกรรม

...