รวมไทยสร้างชาติ เตรียม 9 สส. ร่วมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ตั้งแต่ 3-5 ม.ค. วางกรอบใน 3 หลักการ หวังให้งบผ่านสภา เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน เชื่อ การอภิปรายเป็นไปอย่างสร้างสรรค์

วันที่ 2 มกราคม 2567 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นประธานการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของพรรค เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี สส.ของพรรคเข้าร่วมประชุม ณ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างพร้อมเพรียง

ต่อมา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมได้เตรียมความพร้อมก่อนการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ในวันที่ 3-5 มกราคม 2567 หัวใจสำคัญในการอภิปรายครั้งนี้มี 3 หัวข้อ คือ 

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

...

1. การชี้แนะให้รัฐบาลเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งมีระยะเวลาเหลือเพียง 5 เดือน หากดูตามกรอบเวลาเข้าสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2-3 ประมาณวันที่ 3-4 เมษายน 2567 ส่งไปถึงวุฒิสภาวันที่ 9-10 เมษายน 2567 หลังจากนั้นจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้หลังวันที่ 17 เมษายน 2567 ถ้าดูตามกำหนดการแล้วเราระยะเวลาในการใช้งบประมาณเพียง 5 เดือน ในส่วนที่เป็นงบลงทุนถือว่าจำกัดมาก ดังนั้นการอภิปรายของทาง สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ จะชี้แนะให้รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเร่งรัด การใช้งบประมาณให้รวดเร็วที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

2. จะชี้ให้เห็นถึงการใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพและรั่วไหลน้อยที่สุด 

3. การใช้งบอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมทุกกลุ่มคน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง สส.ของพรรคจะอภิปรายชี้ให้เห็นถึงการใช้งบเพื่อสร้างความเท่าเทียมและเป็นธรรมของคนในสังคม คนตัวเล็กก็สามารถการเข้าถึงงบประมาณของรัฐอย่างทั่วถึงและมากขึ้น 

“นี่คือ 3 หลักการที่พรรคจะอภิปราย โดย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค จะเป็นผู้นำอภิปราย จากนั้นจะมีขุนพลของพรรคอีก 8 คน ที่วางตัวมาอภิปรายภายใต้หลักการ 3 ข้อที่กำหนดไว้ เพื่อให้รัฐบาลนำไปพิจารณาจัดการงบประมาณในปี 2567”

เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ
เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ

เมื่อถามว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ 3 วันเพียงพอหรือไม่ นายอัครเดช ระบุว่า วันอภิปรายน่าจะเพียงพอต่อการพิจารณา ซึ่งการอภิปรายในครั้งนี้แต่ละวันจะอภิปรายเลยเที่ยงคืนของวันที่ 3 มกราคม และวันที่ 4 มกราคม เวลา 40 กว่าชั่วโมงที่วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านได้ตกลงกันไว้ถือว่าเหมาะสมและลงตัว คิดว่าการอภิปรายจะสร้างสรรค์หากใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ สำหรับผู้อภิปรายของพรรครวมไทยสร้างชาติที่วางตัวบุคคลไว้ตรงกับหลักเกณฑ์ 3 ส่วนที่กำหนด เพื่อเร่งให้ใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดและรวดเร็ว

“เวลานี้ภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ กำลังรองบประมาณจากรัฐบาล สส.ของพรรคได้สะท้อนในที่ประชุมว่า มีบางธุรกิจฝืดเคืองมาก เช่น งานก่อสร้าง อุตสาหกรรมต่อเนื่อง ภาคแรงงาน กำลังรอเงินงบประมาณจากรัฐบาล ถ้ารัฐบาลได้ปรับรูปแบบการบริหารงบประมาณตามที่ สส.ของพรรคชี้แนะ เชื่อว่างบประมาณของรัฐจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”

อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ
อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ

ขณะที่คำถามว่ายังมีความจำเป็นในการเตรียมบุคคลไว้ตอบโต้หรือไม่นั้น โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า พรรคจะติดตามการอภิปรายด้วยความห่วงใยว่าจะมีการอภิปรายนอกประเด็นหรือไม่ จากการติดตามข่าวสารทราบว่าฝ่ายค้านจะรับเรื่องไปดู ถ้าฝ่ายค้านอภิปรายอยู่ในประเด็นของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 เรื่องการประท้วงก็เป็นประเด็นรอง จึงอยากให้ฝ่ายค้านอภิปรายอยู่ในประเด็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ส่วนการอภิปรายเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีให้อภิปรายในโอกาสต่อไป.