“ชัยชนะ เดชเดโช” โว เตรียมอภิปรายทวงสัญญานโยบายรัฐบาล หยัน ขายฝัน ไร้รายละเอียดในร่างงบฯ 67 ประจานแช่แข็งงบฯ อปท. ซ้ำกระจุกตัวส่อโกง

วันที่ 2 ม.ค. 2567 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวหลังการประชุม สส.ถึงความพร้อมในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่า ในส่วนของพรรค ปชป.เตรียมบุคคลและเนื้อหาที่อภิปรายร่างงบประมาณฯ ไว้แล้ว โดยจะชี้ให้เห็นว่า งบฯ ที่จะใช้จ่ายเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาล ตั้งแต่ประกาศหาเสียงเลือกตั้ง จนกระทั่งบรรจุในคำแถลงนโยบายรัฐบาล ขาดการให้ความสำคัญของรัฐบาลในการใช้งบฯ เพื่อเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดผลสัมฤทธิ์ จนกลายเป็นว่าสิ่งที่รัฐบาลหาเสียงกับประชาชนเหมือนเป็นการตีเช็คเปล่าที่หวังอาศัยชื่อเสียงเก่าๆ เพื่อรักษาแบรนด์ของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นพรรคต้นตำรับด้านประชานิยม เช่น นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาท แต่กลับไม่พบงบฯ ในรายการใดที่ใช้ผลักดันการขึ้นค่าแรงงานของภาคเอกชน ต่างจากท่าทีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.การคลัง ที่ระบุว่า ไม่มีความสุข เพราะค่าแรงขึ้นน้อยเกินไป   

“ส่วนของค่าแรงภาคราชการ มีหมวดเงินเดือนข้าราชการที่เพิ่มขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ถึงตามจำนวนที่ได้หาเสียงไว้ นโยบายส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ในทุกมิติกลับกลายเป็นว่า จะเป็นเวทีให้ชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ติดหูติดตาประชาชน ก็ไม่ปรากฏว่ามีการวางแผนและงบประมาณแต่อย่างใด ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะใครหยิบจับอะไรได้ก็มาประโคมว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่หวังแค่กระแสครั้งคราว และเงียบหายไป โดยไม่ได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์และงบฯ ที่จะใช้ส่งเสริมสนับสนุนอย่างเป็นระบบ นโยบายรถไฟฟ้า กทม. 20 บาทตลอดสาย ก็ไม่ปรากฏในแผนงาน โครงการของ รฟม. รฟท. แต่อาจแฝงอยู่ในหมวดงบชดเชยรายได้ของ รฟม. และรฟท. ซึ่งไม่ได้จำแนกรายการออกมาให้ปรากฏชัดเจน ตามที่ประชาชนคาดหวังเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ปรากฏว่าไม่มีในรายการของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแต่อย่างใด ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า รัฐบาลเมื่อได้ทราบถึงสถานการณ์การเงินการคลัง รวมทั้งข้อจำกัดต่างๆ แล้ว ก็จะล้มเลิกความคิด หรือเปลี่ยนแปลงวิธีการในการดำเนินนโยบายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในเมื่อมีการบรรจุอยู่ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลแล้ว ก็ต้องขอให้รัฐบาลตอบคำถามให้ได้ว่า โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะเริ่มดำเนินการอย่างไร” นายชัยชนะ กล่าว

...

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า สำหรับงบฯ ที่เกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตนอยากจะให้ประชาชนติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นงบฯ ที่ใกล้ชิดประชาชน ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ อปท.ต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลคงที่อยู่ที่ร้อยละ 29 มา 7 ปี ติดต่อกันแล้ว ซึ่งยังคงน้อยกว่าเป้าหมาย พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้ อปท. พ.ศ.2542 ที่ร้อยละ 35 ทำให้การจัดการบริการสาธารณะให้กับ อปท.ยังไม่สามารถพัฒนาคุณภาพบริการสาธารณะได้ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งไม่มีความชัดเจน การเพิ่มสัดส่วนงบประมาณให้ อปท.ตามกฎหมายกำหนด อีกทั้งยังปรากฏว่างบฯ อปท.ที่จะดำเนินการในการจัดทำบริการสาธารณะนั้น กลับกระจุกกับหน่วยงานส่วนกลางที่กำกับดูแล โดยปรากฏในงบประมาณว่า เป็นงบประมาณเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและการใช้พลังงานทดแทน แต่เมื่อไปดูพบว่ามีบาง อปท.ใช้วิธีตั้งงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างเสาไฟฟ้าในราคาที่แพงเกินจริง จึงเกรงว่าอาจจะเป็นช่องทางในการทุจริตคอร์รัปชัน หรือฮั้วกันระหว่างเจ้าหน้าที่ส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่น รวมทั้งมีการยักย้ายถ่ายเทงบประมาณ กลายเป็นงบฯ เพื่อสนองความต้องการทางการเมือง ดังนั้น ตนและพรรคประชาธิปัตย์ จะดำเนินการอภิปรายเพื่อให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณลงในท้องถิ่น เพื่อให้ท้องถิ่นต่างๆ สามารถใช้งบประมาณเพื่อประโยชน์ของประชาชนได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย