“วราวุธ” เผย พม.ขอนแก่น เข้าพูดคุยสาว 17 ปี วันนี้ พร้อมพาไปตรวจสุขภาพ กรณีร้อง “สมรักษ์ คำสิงห์” พร้อมเปิดตัวเลขหนี้ข้าราชการ พม. เฉลี่ยหัวละ 9 แสนบาท ทั้งกระทรวงรวม 3 พันกว่าล้าน จ่อเจรจาสถาบันการเงินปรับโครงสร้างหนี้
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 12 ธันวาคม 2566 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีเยาวชนอายุ 17 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับ นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ว่า ตอนนี้ขอให้บ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดขอนแก่น ไปพูดคุยและสัมภาษณ์กับเยาวชน และภายในวันนี้จะพาไปตรวจสุขภาพว่าเป็นอย่างไร ในส่วนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ พม. จะดูแลในเรื่องสภาพจิตใจและร่างกายของเยาวชน
ส่วนความคืบหน้าการสำรวจหนี้ของข้าราชการใน พม. ว่า เจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 11,000 คน โดยเราเริ่มสำรวจจากทางออนไลน์และแบบสอบถามไปเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นจำนวนทั้งหมด 3,300 คน คิดเป็น 30% ซึ่งในจำนวนนี้เกือบ 90% เป็นหนี้ และหนี้ส่วนใหญ่มีไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับบัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งมีจำนวนเท่าๆ กัน และไม่แน่ใจว่าจะเคลียร์หนี้อย่างไร ปัญหาสำคัญคือเงินเดือนที่ได้มาไม่เพียงพอกับการจ่ายหนี้ที่มีอยู่ ขณะนี้ปริมาณหนี้ที่มีอยู่คาดว่ามีทั้งหมด 3,000 กว่าล้านบาท ค่าเฉลี่ยหนี้สินอยู่ที่ประมาณคนละ 900,000 กว่าบาท เมื่อได้ภาพรวมทั้งหมดแล้วก็จะเจรจากับสถาบันการเงินในการปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งการลดเงินต้นและดอกเบี้ย คาดว่าหลังปีใหม่จะได้ข้อมูลครบถ้วน
...

ขณะเดียวกัน นายวราวุธ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา แนะนำให้เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในนามพรรคร่วมรัฐบาล จุดยืนของพรรคเป็นอย่างไร ว่า เท่าที่ได้พูดคุยกัน ก็มีหลายจุดที่คล้ายคลึงกัน เช่น ประเด็นเรื่องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เราจะแยกออกมาไม่ให้อยู่ในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งหากไปในทิศทางเดียวกัน เป็นไปตามที่ นายนิกร เสนอ ก็คิดว่าเป็นการแสดงความเหนียวแน่นหรือทีมเวิร์กของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นประโยชน์กับรัฐบาล
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีบางฝ่ายเสนอว่าไม่อยากให้ใช้คำว่านิรโทษกรรม แต่ให้ใช้ชื่อปรองดองสมานฉันท์แทนนั้น นายวราวุธ ระบุว่า จริงๆ จะเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่นเลยก็ได้ เพราะจากอดีตจนถึงปัจจุบัน คำว่าปรองดองหรือคำว่านิรโทษกรรมอาจใช้สื่อความหมายที่คลาดเคลื่อนได้ แต่หัวใจสำคัญคือการทำให้ผู้ที่หลงผิดไปหรือตกกระไดพลอยโจนได้รับความยุติธรรมและให้อภัยกัน.
(ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี)