ครม.สัญจร อนุมัติงบฯ ไม่เกิน 100 ล้านบาท สร้างซิปไลน์ 1 กิโลเมตร ดึงดูดท่องเที่ยวหนองบัวลำภู บอกข่าวดีเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 15 ธ.ค.นี้

วันที่ 4 ธันวาคม 2566 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่โรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์ หนองบัวลำภู นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจรครั้งแรก ว่าเหตุผลที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เลือก จ.หนองบัวลำภู ในการประชุม ครม.สัญจรครั้งแรก เพราะ จ.หนองบัวลำภู เป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวประชากรเป็นอันดับที่ 76 ของประเทศ เฉลี่ยจีดีพีรายได้ต่อหัว 6.3 หมื่นกว่าบาท ส่วนในแง่ของการท่องเที่ยวอยู่อันดับ 77 ของประเทศ รายได้ต่อปีเพียง 274 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีภัยแล้งหนักหนาสาหัสมาก มีพื้นที่ทั้งจังหวัด 2.5 กว่าล้านไร่ เป็นพื้นที่เกษตร 1.9 ล้านไร่ โดยอยู่ในพื้นที่ชลประทานเพียง 1.1 แสนกว่าไร่ รวมถึงปัญหายาเสพติดเยอะมาก ซึ่งนายกฯ และ ครม.นึกถึงเสมอว่าเราต้องลดช่องว่าง ลดการเหลื่อมล้ำให้ได้ โดยสิ่งที่ที่ประชุม ครม.จะทำให้ จ.หนองบัวลำภู คือ การเพิ่มจีดีพี เน้นเรื่องเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ผ่านการท่องเที่ยว และเกษตรเป็นหลัก รวมถึงด้านความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต โดยเฉพาะยาเสพติด ส่วนด้านการท่องเที่ยว จ.หนองบัวลำภู มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามหลายแห่ง เช่น ภูแอ่นในอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ เดิมมีสกายวอล์กอยู่แล้ว รัฐบาลจะเพิ่มซิปไลน์ (เครื่องเล่นสลิง) ระยะทาง 1 กิโลเมตร เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสชีวิตทาซาน โดยใช้งบประมาณไม่เกินร้อยล้านบาท ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด และเนื่องจากหนองบัวลำภูมีความโดดเด่นเรื่องผ้าทอ โดยเฉพาะผ้าขิตสลับหมี่ที่มีลายบัวลุ่มภูที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด จะมีการสร้างศูนย์ฝึกอบรมเพื่อพัฒนาฝีมือการทอผ้าขิตสลักหมี่เพิ่มเติมอีก 4 ศูนย์ รวมเป็น 7 ศูนย์ เพื่อยกระดับฝีมือในการทอผ้า สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน

...

นายชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีข่าวดีมาบอกชาวหนองบัวลำภูที่จะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก 4-01 ในจังหวัด 9.5 แสนไร่ ให้เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร โดยวันที่ 15 ธ.ค. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา อนุญาตให้เปลี่ยนเอกสารจาก ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร สามารถซื้อขายได้ วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเกษตรหากเปลี่ยนมือก็ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อการเกษตร และยังเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น 

ด้านนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเสริมถึง เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ว่า นโยบายนี้เป็นนโยบายของสำนักงานปฏิรูปการเกษตรไม่เกี่ยวกับการออกโฉนดของกรมที่ดิน และประมวลกฎหมายที่ดิน.