“ธรรมนัส” ยืนยันไม่รู้จัก “เสี่ยแป้ง” และไม่ใช่ลูกน้อง แจงถ่ายภาพหมู่ เป็นเรื่องปกติที่มีคนมาขอถ่ายด้วย พร้อมสั่งปลัด ก.เกษตรฯ ตรวจคลิปเสียงคุยจ่าย 10 กิโลฯ แลกเคลียร์คดีหมูเถื่อน ปูด อักษรย่อ “ท.” เป็นนักแฉและนักสังคมสงเคราะห์
วันที่ 4 ธันวาคม 2566 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงมีสื่อเผยแพร่ภาพถ่ายร่วมกับ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด ว่า ตนเองไม่รู้จัก เสี่ยแป้ง พร้อมปฏิเสธไม่ใช่ลูกน้องหรือคนสนิท ก่อนจะถามกลับผู้สื่อข่าวว่า มีภาพตนไปถ่ายด้วยหรือ โดยผู้สื่อข่าวตอบว่าใช่ จากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวต่อว่า ไม่รู้ เพราะมีคนมาขอถ่ายภาพกับตนเองเองเยอะ ยืนยันว่าไม่รู้จัก เสี่ยแป้ง แน่นอน และไม่จำเป็นต้องชี้แจง เพราะถ้าเป็นลูกน้องจริงก็สั่งให้มามอบตัวแล้ว “ถ้าเป็นลูกน้อง คงสั่งให้มามอบตัวแล้ว ชัดเจนไหมครับ เพราะผมเป็นคนชัดเจนแบบนี้”
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ลงไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ภาคใต้ ไม่เคยเห็น เสี่ยแป้ง มาถ่ายรูปและต้อนรับใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า ตนเองเป็นคนที่รู้จักคนเยอะ คนก็อยากรู้จักเยอะ ถ้ารู้จักก็ไม่ แต่ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ เสี่ยแป้ง มาถ่ายรูปด้วยคนไหนก็ไม่รู้ พร้อมถามกลับว่า “เป็นเสี่ยตรงมีตังค์เยอะเหรอ พร้อมกับหัวเราะ”
ต่อมาผู้สื่อข่าวเปิดภาพถ่ายให้ดู โดย ร้อยเอกธรรมนัส ได้ขยายภาพดูหน้า เสี่ยแป้ง พร้อมบอกว่าไม่รู้จัก และถามผู้สื่อข่าวว่า “น้องเคยถ่ายรูปคู่กับพี่ไหม” ผู้สื่อข่าวตอบว่า ไม่เคย เคยแต่สัมภาษณ์ จากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส เดินขึ้นรถเพื่อเปลี่ยนเสื้อ ซึ่งขณะนั้นหันมาถามว่า แล้วตอนที่ถ่ายภาพคู่กับ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้สื่อข่าวได้ถามแล้วหรือยัง ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่าได้สัมภาษณ์แล้ว และมีการชี้แจงเรียบร้อยแล้ว ร้อยเอกธรรมนัส จึงบอกต่อว่า ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับ เสี่ยแป้ง แต่เป็นภาพหมู่
...

ขณะที่ประเด็นคลิปเสียงสนทนาเจ้าหน้าที่ศุลกากรกับชายคนหนึ่ง ขอให้เคลียร์หมูที่ด่านแล้วจะจ่ายผลตอบแทน 10 กิโลกรัมนั้น ร้อยเอกธรรมนัส ตอบว่า ได้ฟังคลิปเสียงดังกล่าวแล้ว กำลังตรวจสอบว่าเป็นเสียงของใคร มั่นใจว่าเสียงจะสามารถสาวถึงคนที่เกี่ยวข้องได้ และไม่ใช่คนของ ตม. แต่เป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากร พร้อมยืนยันว่าทราบแล้วเป็นเสียงของใคร อักษรย่อ ท.
เมื่อถามว่า เป็นพ่อค้าหรือนักการเมือง ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า “เป็นนักแฉและเป็นนักสังคมสงเคราะห์” ส่วนกรณีที่เปิดชื่อย่อมา เจ้าตัวได้ดูข่าวอาจจะรู้สึกใจคอไม่ดี ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า “คนเราถ้าเป็นนักแฉและนักช่วยเหลือสังคม ต้องดูตัวเอง ถ้าตัวเองโดนก็คงช่วยอะไรไม่ได้ ขณะนี้ได้สั่งให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอยู่”.