“ภูมิธรรม” เผย โครงการกลุ่มอีสานตอนบน ยังไม่เข้า ครม. หลังเตรียมของบจังหวัดละ 100 ล้าน ชี้ สร้างกระเช้าภูกระดึงต้องศึกษาให้ชัด ย้ำ กฎหมายนิรโทษกรรมไม่เอาปมที่ยังแย้งกันอยู่

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้รับผิดชอบเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี) ให้สัมภาษณ์ที่โรงแรมณัฐพล แกรนด์ หนองบัวลำภู ถึงกรณีกลุ่มพื้นที่จะของบประมาณจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จังหวัดละ 100 ล้านบาท ว่า รายละเอียดแต่ละโครงการจะยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุม ครม.วันนี้ เพราะช่วงบ่ายวันเดียวกันตนจะประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในกลุ่มจังหวัด

โดยเบื้องต้นคือ จ.หนองบัวลำภู จะผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำระบบรางเชื่อมต่อไปยัง จ.อุดรฐานี ส่วนที่ จ.อุดรธานี จะทำศูนย์วันสตอปเซอร์วิส เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรมของเอกชนอยู่ จ.หนองคาย คอนเทนเนอร์ยาร์ด ด้าน จ.เลย จะขยายรันเวย์สนามบิน รองรับการขนส่ง ขณะที่ จ.บึงกาฬ ที่มีสะพานข้ามแม่น้ำโขงอยู่แล้ว จะมีการเจรจาให้เปิดด่านมากขึ้น เพื่อการท่องเที่ยวและการค้า 

สำหรับกรณีที่ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะขออนุมัติงบประมาณสำหรับการออกแบบกระเช้าขึ้นภูกระดึง จ.เลย 28 ล้านบาทนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า คงต้องหารือหลายฝ่าย ซึ่งจริงๆ เป็นเรื่องความคล่องตัวในการอำนวยความสะดวกการท่องเที่ยว และทำให้การท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้ดีขึ้น แต่จะมีเรื่องของกลุ่มอนุรักษ์ ซึ่งมีความคิดเห็นต่างอยู่หลายเรื่อง เป็นเรื่องที่ต้องระดมความคิดกันเสนอและพิจารณาร่วมกัน 

ทั้งนี้ การศึกษาเป็นสิ่งดี ทำให้เกิดความรอบคอบ เนื่องจากเป็นความขัดแย้งระหว่างความคิดเชิงวัฒนธรรมกับความคิดในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว 2 อย่างนี้ไม่ได้ขัดกันทั้งหมด แต่ดูว่าเหมาะสมอย่างไร ต่างประเทศเขาก็ทำได้ ในสังคมไทยก็มีเรื่องของความห่วงใยที่กังวลจะกระทบธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงต้องศึกษาดู เมื่อถามว่า จะเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า ถ้าทุกอย่างไม่มีปัญหา ทุกฝ่ายเข้าใจ รัฐบาลนี้ก็พร้อมทำได้ เกิดประโยชน์ก็พร้อมทำ ย้ำว่าต้องศึกษาให้ชัดเจน 

...

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงเรื่องที่ นายสรวงศ์ เทียนทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย จะเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ประกบร่างของพรรคก้าวไกล ว่า เรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมขณะนี้เป็นฉันทามติของหลายส่วนงานแล้วว่าอยากเห็นการนิรโทษกรรมและการแก้ปัญหา แต่ที่ยังติดค้างอยู่คือประเด็นมาตรา 112 ซึ่งหลายพรรคการเมืองยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคก้าวไกล ในสังคมก็ยังไม่มีข้อยุติ ส่วนประเด็นอื่นๆ ไม่มีใครขัดข้อง แต่พอมีเรื่องมาตรา 112 ยังเป็นข้อขัดแย้งที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ ฉะนั้น แนวคิดของเราจึงต้องหาข้อยุติให้ได้ก่อน ส่วนจะเสนอร่างประกบกันอย่างไรก็ต้องดูอีกที

เมื่อถามย้ำว่า ประเด็นมาตรา 112 พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยบอกชัดเจนแล้วว่าเรื่องไหนเป็นความขัดแย้งในสังคม ต้องเคลียร์กันให้ได้ข้อยุติ ไม่ใช่จะเอาหรือไม่เอา ถ้าทุกอย่างเป็นข้อสรุปที่มีความชัดเจนว่าทุกคนเห็นด้วยและเข้าใจ ก็สนับสนุนอยู่แล้ว เพราะเราไม่อยากเห็นการสร้างความขัดแย้งขึ้นมาใหม่แทนความขัดแย้งเดิม ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ 

อย่างไรก็ตาม ในคำถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติยังติดใจเรื่องคดีทุจริตและการเผาเมื่อปี 2553 ทางด้านพรรคเพื่อไทยติดใจอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ให้คำตอบว่า ต้องดูในรายละเอียดว่ามันเกิดขึ้นและมีเหตุมีผลที่สมควรหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่ากรอบทางความคิดไม่มีใครเห็นต่าง ขอย้ำว่าขอให้รอดูรายละเอียดก่อน.

(แฟ้มภาพ)