“ศรีสุวรรณ” จ่อยื่นร้องถึง “อนุทิน” รมว.มหาดไทย ตรวจสอบและสั่งระงับการเซ็นสัญญาบริษัทที่ชนะการประมูล CCTV 5 จังหวัดชายแดนใต้ ตั้งข้อสงสัยใกล้ชิดนักการเมืองใหญ่ชื่อดังหรือไม่ ลั่น หากเพิกเฉย เตรียมร้อง ป.ป.ช.-กมธ.สภาฯ
วันที่ 3 ธันวาคม 2566 นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เตรียมนำรายละเอียดที่จับพิรุธและข้อสงสัยไปยื่นร้องเรียน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ทำการตรวจสอบและสั่งระงับการเซ็นสัญญาบริษัทที่ชนะการประมูลกล้องวงจรปิด (CCTV) 5 จังหวัดชายแดนใต้ วงเงิน 965 ล้านบาท ไว้พลางก่อน เพื่อตรวจสอบให้โปร่งใส โดยจะเดินทางไปยื่นร้องในวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า สืบเนื่องจากที่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดให้มีการยื่นประมูล CCTV 5 จังหวัดชายแดนใต้ วงเงิน 965 ล้านบาท โดยประกาศผลการประมูลไปเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2566 ปรากฏว่าผู้ชนะการประมูลเสนอราคาสูงถึง 930 ล้านบาท ชนะบริษัทที่เสนอราคาต่ำกว่าที่ 820 ล้านบาท โดยมีการตีตกบริษัทที่เสนอราคาต่ำที่สุดว่าเอกสารไม่ครบ จึงเป็นเรื่องที่มีข้อพิรุธมากมาย
เมื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบความผิดปกติและข้อสงสัยหลายประการ เกี่ยวกับบริษัทที่ชนะการประมูล อาทิ เป็นบริษัทใกล้ชิดอดีตนักการเมืองใหญ่ชื่อดังของบุรีรัมย์หรือไม่, เป็นบริษัทที่แกนนำสนิท และขับเครื่องบินส่วนตัวรับส่งนักการเมืองชื่อดังดังกล่าวหรือไม่, บริษัทดังกล่าวมีกิจการตู้กาแฟอัตโนมัติ ที่นักการเมืองดังและลูกภรรยานักการเมืองชื่อดังเป็นผู้ถือหุ้นหรือไม่
ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ตั้งข้อสงสัยต่อไปว่า มีเจ้าหน้าที่ข้าราชการ กรรมการจัดซื้อ และผู้บริหารระดับสูงให้การช่วยเหลือ ช่วยพลิกคะแนน ช่วยหาวิธีการต่างๆ และทำทุกวิธีการเพื่อให้บริษัทเอกชนรายดังกล่าวเป็นผู้ชนะการประมูลหรือไม่ รวมไปถึงบริษัทที่ชนะการประมูลได้คะแนนเทคนิคต่ำสุด แต่เสนอราคาสูงสุด ใกล้ชิดนักการเมืองชื่อดัง กลับเป็นผู้ชนะการประมูลงานได้อย่างไร พร้อมตั้งคำถามว่า บริษัทที่ได้คะแนนเทคนิคสูงสุดและเสนอราคาต่ำสุดกลับถูกตีตกให้แพ้ไปได้อย่างไร
...
อย่างไรก็ตาม นายศรีสุวรรณ ระบุในช่วงท้ายด้วยว่า หาก รมว.มหาดไทย เพิกเฉย ก็จะยื่นร้องกรรมาธิการสภาฯ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบต่อไป.