คิกออฟวันแรก แก้หนี้นอกระบบทั่วประเทศเงียบเหงามีบางจังหวัดคึกคัก เชียงใหม่-ขอนแก่น-ชลบุรี มารอลงทะเบียนกันแต่เช้า “ป้าเชียงใหม่” ร้อนใจจ่ายดอกจนหมดตัว หลายรายถูกปรับดอกโหดรายชั่วโมง-รายวัน แม่ค้าตามสั่งถึงกับน้ำตาคลอแฉแบงก์รัฐตัวก่อปัญหา บีบบังคับจนต้องไปกู้นอกระบบ “เสี่ยหนู” ย้ำแก้หนี้ไม่ใช่ยกหนี้ให้ เตือนลูกหนี้อย่าเพิ่งตีปีกมีหนี้ก็ต้องจ่าย ส่วนเจ้าหนี้ไม่ยอมไกล่เกลี่ยให้ว่าไปตามกฎหมาย ปิดยอดวันแรก 22,090 ราย วงเงิน 935 ล้าน กทม.แชมป์เป็นหนี้เยอะสุด รองโฆษก รบ.ออกตัวแทน “พีระพันธุ์” ไม่นิ่งดูดาย กกพ.ชงขูดค่าไฟมหาโหด สภาฯจัดใหญ่ฉลอง 10 ธ.ค. วันรัฐธรรมนูญ “ศิริกัญญา” ชำแหละงบ 67 มท.พุ่งกระฉูด งงไม่ให้ความสำคัญการศึกษา “ปิยบุตร” แซวเอฟซี “ทักษิณ” ใบ้กิน เจ้าของตู้หมูเถื่อนโร่แจงดีเอสไอ โวยถูกกลั่นแกล้ง
วันแรกของการเปิดลงทะเบียนให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ สามารถรับการช่วยเหลือจากภาครัฐตามโครงการรัฐบาล ภาพรวมทั่วประเทศค่อนข้างเงียบเหงา แต่มีหลายจังหวัดคึกคัก ลูกหนี้นอกระบบมาลงทะเบียนด้วยน้ำตานองหน้า หวังให้ภาครัฐช่วยปลดแอกจากหนี้สินที่ท่วมหัว
“หนู” ย้ำแก้หนี้ไม่ใช่ยกหนี้ให้
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 1 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดลงทะเบียนให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบสามารถรับการช่วยเหลือจากภาครัฐเป็นวันแรกว่า ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ 3 ช่องทาง คือ ผ่านระบบออนไลน์ ที่ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ และ กทม.ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต ได้กำชับไปยังอำเภอให้ออกสำรวจป้องกันการลงทะเบียนขาดตกบกพร่อง เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าเจ้าหนี้ไม่กล้าเข้าระบบเพราะกลัวกรมสรรพากรตรวจสอบ นายอนุทินตอบว่า เราทราบแล้วว่าใครเป็นใคร ต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่การลดหนี้ ไม่ได้เป็นการยกหนี้ พักหนี้ แต่ต้องการสร้างความเป็นธรรมแก่เจ้าหนี้และลูกหนี้ หากเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเป็นธรรมลูกหนี้ต้องจ่าย เจ้าหนี้จะไม่ถูกเบี้ยวหนี้จนต้องไปข่มเหงใครหรือทวงหนี้ผิดกฎหมาย ถือเป็นเจตนารมณ์รัฐบาลที่ต้องการสร้างความเป็นธรรม ไม่ต้องการสร้างความเสียหายแก่ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้
...
เจ้าหนี้ไม่ไกล่เกลี่ยให้ยึดตาม ก.ม.
นายอนุทินกล่าวว่า ขอย้ำว่าลูกหนี้ยังต้องใช้หนี้ในอัตราที่เขาสามารถหามาได้ ตอนนี้ขอใช้คำว่าไกล่เกลี่ย ยังไม่ถึงกับบังคับและไม่มีเจตนาจะดำเนินคดีหรือไปคุ้ยแคะการทำงานของรัฐบาลชุดนี้โดยกระทรวงมหาดไทยต้องการแก้ปัญหาตรงไหนจะไปโฟกัสจุดนั้น ไม่ต้องกังวล เมื่อถามว่าขั้นตอนการไกล่เกลี่ยเป็นอย่างไร นายอนุทินตอบว่า รายละเอียดผู้ปฏิบัติการแต่ละคนต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ไกล่เกลี่ยและประนีประนอม เมื่อถามอีกว่าถ้าเจ้าหนี้ไม่ยอมเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยจะดำเนินการอย่างไร นายอนุทินตอบว่า ต้องเอาสัญญามาดู สัญญาตรงไหนที่ขัดต่อกฎหมายก็ไม่ต้องปฏิบัติตามและจะมีการคุ้มครองให้เกิดความเป็นธรรม ยกตัวอย่างเจ้าหนี้ยังเพลิดเพลินกับการคิดดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่ลูกหนี้จะชำระหนี้ได้ ลูกหนี้ก็ไม่ต้องชำระหนี้ เราต้องการให้วินวิน เงินต้นได้คืนดอกเบี้ยได้ตามสมควร ไม่มีการเบี้ยวหนี้ ไม่มีการกดขี่ข่มเหง รังแกรังควาน เน้นความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เตือนอย่าเพิ่งดีใจมีหนี้ก็ต้องจ่าย
นายอนุทินกล่าวอีกว่า แต่ขอบอกถึงลูกหนี้อย่าเพิ่งดีใจ เพราะไม่ใช่การพักหนี้ หนี้ยังต้องจ่ายให้ครบทุกบาททุกสตางค์ เมื่อถามย้ำว่าลูกหนี้บางคนเข้าใจว่ารัฐบาลจะใช้หนี้แทน นายอนุทินตอบว่า ไม่ใช่เลย แต่รัฐบาลจะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม เพราะหนี้ใครหนี้มัน เมื่อถามว่าตั้งเป้าเห็นผลเมื่อใด นายอนุทินตอบว่า วันที่ 8 ธ.ค. นายกฯจะคิกออฟ โดยการเรียกระดับผู้ปฏิบัติการ คือนายอำเภอและผู้กำกับทั่วประเทศ มารับนโยบายที่เมืองทองธานี เราต้องรอฟังนโยบาย คิดว่าขั้นตอนดำเนินงานมีอยู่แล้ว
ออกตัวแทน “พีระพันธุ์” ไม่ดูดาย
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกฯกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศเก็บค่าไฟงวดใหม่ 4.68 บาท/หน่วย งวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2567 ว่า ขอประชาชนอย่ากังวล เป็นเพียงข้อเสนอของ กกพ.ยังไม่ได้รับการพิจารณาจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน มั่นใจว่าการพิจารณาจะเป็นไปด้วยความเหมาะสม และเป็นธรรมต่อประชาชน จะพยายามทำตัวเลขให้ลดลงได้มากที่สุดประมาณ 4.20 บาท/หน่วย และนายกฯบอกแล้วว่าไม่ยอมให้ค่าไฟขึ้นไปถึง 4.68 บาท/หน่วย และจะเรียกประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย ยืนยันว่า รมว.พลังงานไม่นิ่งดูดายในความกังวลใจนายกฯเรื่องค่าไฟฟ้า พร้อมจะพิจารณาให้เหมาะสมเป็นธรรม และไม่เป็นภาระต่อประชาชน ขอประชาชนสบายใจ และไม่ต้องกังวล
สธ.จับมือออมสินตั้งคลินิกแก้หนี้
น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา ประจำสำนักเลขานายก รัฐมนตรี กล่าวว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข มอบนโยบายแก้หนี้เสริมกำลังใจให้คนสาธารณสุข คืนอิสรภาพและความหวังให้แก่บุคลากรของกระทรวงมีขวัญกำลังใจปฏิบัติงานดูแลคนไทย หนี้นอกระบบสร้างภาระบีบคั้นกับบุคลากรสาธารณสุขมาก นพ.ชลน่านได้วางนโยบายว่าต้องปลดทุกข์เรื่องนี้ให้ได้ โดยตั้งคณะทำงานเจรจาหาทางออกระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับธนาคารออมสิน จัดให้มีคลินิกรักษาสุขภาพความมั่นคงทางการเงินแก่บุคลากรทุกหน่วยในสังกัด ในโรงพยาบาลทุกระดับ โครงการช่วยเหลือในครั้งนี้จะทำให้บุคลากรกระทรวงสาธารณสุขมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายภาพรวมของกระทรวงได้ถึง 6,000 กว่าล้านบาทต่อปี ต่อยอดจากโครงการแก้หนี้ทั้งระบบของนายกฯ คาดว่าจะมีบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก

“ป้า” ร้อนใจจ่ายดอกจนหมดตัว
สำหรับบรรยากาศการเปิดลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบวันแรกทั่วประเทศ ที่ จ.เชียงใหม่ มีประชาชนทยอยลงทะเบียนตามอำเภอต่างๆ ที่เปิดจุดให้บริการ เช่น อ.เมืองเชียงใหม่ มีหญิงสูงวัยมาลงทะเบียนพร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ทุกวันนี้มีเจ้าหนี้นอกระบบกว่า 20 ราย ยอดเงินต้นเหลือประมาณ 400,000 บาท แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมทั้งเงินต้นเป็นเงินถึงวันละ 20,000 บาท จนหมดเนื้อหมดตัว แถมยังถูกเจ้าหนี้ตามทวงหนี้กดดันข่มขู่กระทบต่อการใช้ชีวิต หวังว่าโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลจะเข้ามาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนได้ ต้องการให้รัฐบาลเป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ย ขอปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการยืดระยะเวลาผ่อนจ่าย รวมทั้งลดดอกเบี้ยที่แพงเกินไป ส่วนที่ อ.แม่ริม มีประชาชนมารอลงทะเบียนตั้งแต่ยังไม่เปิดทำการ หนึ่งในลูกหนี้นอกระบบกล่าวทั้งน้ำตาว่า ดีใจมากที่รัฐบาลจะมาช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นความหวังของครอบครัว ที่ผ่านมาถูกข่มขู่คุกคาม ถูกด่าถูกทำร้ายร่างกาย ทุกวันนี้ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไม่กล้าอยู่บ้าน เพราะเกรงจะถูกแก๊งเงินกู้ทำร้าย
หลายรายถูกปรับดอกโหดรายวัน
ที่ จ.นครสวรรค์ กลุ่มลูกหนี้นอกระบบชาวปากน้ำโพ ทยอยลงทะเบียนกันแต่เช้า ที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.เมืองนครสวรรค์ มีการแสดงจำลองเหตุการณ์ความเดือดร้อน จากการถูกแก๊งหมวกกันน็อกของเจ้าหนี้นอกระบบติดตามทวงหนี้ด้วย นางสิริมา ดาราเพ็ญ อายุ 49 ปี ชาวบ้านเกรียงไกร ต.เกรียงไกร อ.เมืองนครสวรรค์ ลูกหนี้นอกระบบ กล่าวว่า ตอนนี้เอาที่ดินไปจำนองกับคนในพื้นที่มา 250,000 บาท เพื่อมาลงทุนทำนา ต้องจ่ายเดือนละ 6,000 บาท อยากให้ทางรัฐช่วยไกล่เกลี่ย เพราะบางเดือนส่งไม่ไหว ทุกวันนี้มีรายได้จากการรับจ้างเดือนละ 7,000 บาทเท่านั้น หากเราไม่มีเงินส่งดอก กลัวที่ดินจะถูกยึด ด้านป้าอ้วน (ขอปกปิดตัวตน) อาชีพค้าขาย กล่าวว่า ไปกู้หนี้นอกระบบมา 2 บัญชี แยกเป็นบัญชีแรก 3,000 บาท ได้เงินจริง 1,800 บาท บัญชีที่สองกู้มา 5,000 บาท ได้เงินจริง 3,800 บาท ไม่รู้ว่าหักค่าอะไรบ้าง ตอนนี้ต้องหาจ่ายต้น-ดอกรวมกันวันละ 300 บาท หากไม่จ่ายจะถูกปรับเพิ่มวันละ 50 บาท ต้องปิดบัญชีให้ได้ภายใน 24 วัน บางครั้งไม่มีจ่ายรายวันเจ้าหนี้ก็ไม่พอใจ มีการข่มขู่ อยากให้รัฐยื่นมือช่วยจะขอเงินกู้เงินธนาคาร ไปปิดหนี้นอกระบบ จะได้มีเงินเหลือนำไปประกอบอาชีพต่อไป
ขอนแก่น-ชลบุรีมารอกันแต่เช้า
ที่ อ.เมืองขอนแก่น ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนทยอยมาลงทะเบียนกันอย่างคึกคัก นายกฤษดา ทองบ้านทุ่ม อายุ 58 ปี กล่าวว่า เคยยื่นกู้ในระบบแล้วแต่กู้ยากมากกู้ไม่เคยผ่าน ต้องไปกู้นอกระบบมาทำทุนค้าขาย 10,000 บาท ส่งวันละ 500 บาท เป็นเวลา 24 วัน ส่งทั้งต้นและดอก ตอนแรกกู้รายเดียว หลังๆมามีเจ้าหนี้ 6-7 ราย ทุกวันนี้ต้องจ่ายวันละประมาณ 3,000 บาท ตอนนี้เป็นหนี้อยู่ประมาณ 80,000 บาท ช่วงแรกๆมีขู่บ้างบังคับจะเอาให้ได้ หลังๆไม่มีแล้ว แค่บอกว่ามีเท่าไหร่ก็จ่ายเท่านั้น โครงการนี้ถ้าทำได้สำเร็จจะช่วยเหลือประชาชนได้มาก
ที่ห้องศูนย์ดำรงธรรม อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีลูกหนี้นอกระบบทยอยเดินทางมาลงทะเบียนเกือบ 20 คน ส่วนใหญ่เจอปัญหาเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยแพงมหาโหด มีลูกหนี้บางรายถูกเจ้าหนี้ปรับดอกเบี้ยสูงถึงชั่วโมงละ 50 บาท หากจ่ายดอกไม่ตรงเวลาที่กำหนด ลูกหนี้นอกระบบรายหนึ่งกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่รัฐบาลเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ เป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ และแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง
แม่ค้าตามสั่งน้ำตาคลอลงทะเบียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภาพรวมการเปิดให้ลงทะเบียนทั่วประเทศเป็นวันแรก ยังไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่นัก อาทิ จ.เชียงราย อุทัยธานี จันทบุรี นครปฐม ส่วนที่ จ.น่าน นางเรไร มีนัก แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง กล่าวหลังลงทะเบียนด้วยน้ำตาคลอว่า สาเหตุที่เป็นหนี้นอกระบบเกิดจากเมื่อก่อนไปกู้เงินลงทุนจากธนาคารออมสิน ตามโครงการกู้เงินสร้างอาชีพช่วงต้นปี 2562 ช่วงแรกก็ค้าขายพอมีกำไรส่งงวดได้สบาย แต่มาเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ค้าขายไม่ได้ ทางธนาคารก็ส่งคนมาทวงหนี้ พร้อมทั้งจะเดินเรื่องฟ้องร้อง ส่วนรัฐบาลก็สั่งห้ามทุกอย่าง แต่หนี้สินรวมทั้งดอกเบี้ยไม่ได้หยุดตามคำสั่ง จึงตัดสินใจกู้เงินนอกระบบมาจ่ายหนี้ในระบบ ก้อนแรก 20,000 บาท ต้องจ่ายดอกร้อยละ 20 ต่อวัน วันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท แต่มีรายได้จากการค้าขายวันละ 1,000-1,500 บาท คาดหวังอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือจัดหาแหล่งเงินทุนระยะยาว ไม่ต้องมาส่งรายวัน
มท.สรุปยอดวันแรก 22,090 ราย
ต่อมาช่วงเย็น น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรมการปกครองรายงานว่าการเปิดลงทะเบียนวันแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั่วประเทศ 77 จังหวัด มีประชาชนมาลงทะเบียนรวม 22,090 ราย ส่วนใหญ่ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 21,001 ราย ผ่านศูนย์ดำรงธรรม 1,089 ราย รวมเจ้าหนี้ 11,539 ราย ยอดหนี้รวม 935.31 ล้านบาท จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กทม. 1,529 ราย เจ้าหนี้ 879 ราย ยอดหนี้รวม 78.48 ล้านบาท สงขลา 959 ราย เจ้าหนี้ 507 ราย ยอดหนี้ 55.36 ล้านบาท นครศรีธรรมราช 910 ราย เจ้าหนี้ 557 ราย ยอดหนี้ 27.64 ล้านบาท นครราชสีมา 822 รายเจ้าหนี้ 351 ราย ยอดหนี้ 23.53 ล้านบาท และสมุทรปราการ 572 ราย เจ้าหนี้ 293 ราย ยอดหนี้ 23.70ล้านบาท

นายกฯดูแผนกู้ภัยทางทะเลภูเก็ต
เวลา 13.40 น. ที่โรงแรม Kudo Hotel and Beach Club ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ลงพื้นที่ติดตามการฝึกซ้อมแผนบริหารจัดการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลกรณีนักท่องเที่ยวฝ่าฝืนจุดห้ามเล่นน้ำ จมน้ำ เกิดเหตุสภาพอากาศแปรปรวน คลื่นสูง เรือโดยสารโดนกัน มีผู้บาดเจ็บและลอยคอในทะเล มีนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ภูเก็ต รายงานสรุปแผน นายเศรษฐากล่าวชื่นชมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จ.ภูเก็ตถือเป็นเมืองนักท่องเที่ยว สิ่งสำคัญคือการสร้างความไว้วางใจและสร้างความเชื่อมั่น ให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่ามาพักผ่อนแล้วเกิดความปลอดภัย ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย
ใช้ระบบ AI ดูแลนักท่องเที่ยว
จากนั้นนายกฯเดินพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทางทะเล พร้อมเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการ CCTV หาดบางลา ที่ประยุกต์ใช้ระบบ AI เสริมประสิทธิภาพการทำงาน สามารถตรวจสอบบุคคล การเดินทางและยานพาหนะ หากพบบุคคลมีหมายจับ หรือรถต้องสงสัย ระบบจะแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปยังจุดหมายเพื่อทำการตรวจค้นจับกุม รวมถึงระบบสามารถสืบค้นหานักท่องเที่ยวที่หลงทางได้ด้วยและสั่งการให้เชื่อมโยงข้อมูลแบบบูรณาการทั้งจังหวัด เพิ่มศักยภาพการทำงาน
ทักทายนักท่องเที่ยวบอกอุ่นใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่หาดบางลา มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากนั่งพักผ่อนอาบแดด ขณะที่นายเศรษฐาเดินเข้าไปทักทายอย่างเป็นกันเองว่า มาติดตามซักซ้อมแผนบริหารจัดการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ขอให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นต่อมาตรการและระบบการดูแลรักษาความปลอดภัย ขอให้มีความสุข พักผ่อนในประเทศไทยอย่างมีความสุข สร้างความประทับต่อนักท่องเที่ยวและกล่าวขอบคุณต่อการเอาใจใส่ ทำให้รู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น ต่อมานายเศรษฐาทวีตผ่าน X ว่า ขอบคุณรัฐมนตรี ผวจ.ภูเก็ต และทูตานุทูตทุกท่านที่มาร่วมชมแผนปฏิบัติการในวันนี้ เราต้องสร้างความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อน
สภาฯจัดใหญ่ฉลองวันรัฐธรรมนูญ
ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวการจัดงานวันรำลึกรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค.ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดใช้ลานประชาชนรัฐสภา คณะกรรมการผู้จัดงานโดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา และพวกเรา ร่วมใจกันคิดชื่องานในปีนี้ว่า “ร่วมก้าวย่างบนเส้นทางประชาธิปไตยสู่เส้นชัยแห่งรัฐธรรมนูญ” 4 ปีนี้จะเป็นเวทีสำคัญที่เราร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เชิญทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน นายกฯด้วย ช่วงบ่ายมีจัดเสวนา มีนายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา พูดเรื่องความสำคัญของรัฐธรรมนูญ ส.ศิวลักษณ์ พูดเรื่องประวัติศาสตร์รัฐธรรมนูญ ช่วงเย็นที่ลานประชาชน เสวนาเรื่องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หน้าตาเป็นอย่างไร นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก.ก. นายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการ รับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับแนวทางการทำประชามติเข้าร่วม ขอเชิญชวนประชาชนมาร่วมงานนี้ เพราะตั้งแต่ปี 2500 เป็นต้นมา เราไม่มีการจัดงานในลักษณะนี้เลยในวันรัฐธรรมนูญ มาฉลองร่วมกัน

“ไหม” ชำแหละงบ 67 มท.อู้ฟู่สุด
ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ทวีตข้อความผ่าน X ว่า หลังจากมีการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 พบว่ามีการเพิ่มงบกองทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันมาเพียง 15,000 ล้านบาท เพิ่มงบกองทุน SME อีก 5,000 ล้านบาท โดยไปปรับลดงบส่วนของรัฐวิสาหกิจลง งบสำหรับชำระหนี้ของ ธ.ก.ส. ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐมาตรา 28 ยังไม่มีงบของดิจิทัลวอลเล็ตเหมือนเดิม ปีนี้งบเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบ 3 แสนล้านบาท แถมยังเป็นปีที่จัดงบ 2 รอบ “เศรษฐาvsประยุทธ์” ต่างกัน 1.3 แสนล้านบาท แต่เราอาจไม่เห็นว่างบแต่ละกระทรวงเพิ่มขึ้นมากนัก โดย 5 อันดับกระทรวงงบเยอะสุด คือ 1.มหาดไทย 3.53 แสนล้านบาท เพิ่ม 8.5% เป็นอันดับ 1 แซงกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรียบร้อยแล้ว
งง ศธ.เสียแชมป์ความสำคัญ
น.ส.ศิริกัญญาทวีตอีกว่า 2.งบของ ศธ.จำนวน 3.28 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นแค่ 0.3% ตกจากอันดับ 1 ตลอดกาล พล.อ.ประยุทธ์ทำงบ 67 ศธ.ได้มากกว่านี้ 2 พันล้านบาท ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 3.กระทรวงการคลัง 3.27 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 15% แต่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ส่วนใหญ่เป็นงบใช้หนี้ ส่วนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ราว 3.8 หมื่นล้านบาท 4.กลาโหม 1.98 แสนล้านบาท เพิ่มเกือบ 2% หรือเกือบ 4 พันล้านบาท งบที่เพิ่มเกือบครึ่งเป็นเงินเดือน ที่เหลือถึงจะเป็นงบที่น่าตื่นเต้น ว่าปีนี้จะมีอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ อะไรมาให้ตรวจสอบ 5.คมนาคม 1.83 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% หรือ 3 พันล้านบาท ปรับขึ้นพอๆกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะได้ขยายเพิ่มไปที่สายสีอื่นอีกไหม ถ้าไม่ได้ตั้งเงินอุดหนุนเอาไว้
งบดิจิทัลพุ่ง–หั่น สธ.จนดราม่า
น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า มีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ เช่น งบสาธารณสุข ถูกหั่นจากยุค พล.อ.ประยุทธ์ลง 4.6 พันล้านบาท แถมมีดราม่าตัดงบถึงขั้นที่ รมว.สาธารณสุข ขอถอนเรื่องจาก ครม.งบกลาง ส่วนเงินสำรองปีนี้มากกว่าปี 66 ถึง 6,000 ล้านบาท อยู่ที่ 9.85 แสนล้านบาท คาดว่าจะเป็นการตั้งไว้สำหรับการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ (แต่จะพอหรือไม่?) งบกระทรวงดิจิทัลฯพุ่งขึ้นมา 30% โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือ Depa ได้งบเพิ่ม 2 เท่า สำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้งบเพิ่ม 50% งบ Soft power จะอยู่ที่นี่หรือไม่ กกต.ได้งบเพิ่มพันกว่าล้านบาท จะเป็นงบประชามติหรือเปล่า ติดตามรายละเอียดได้ปลายเดือน ธ.ค.นี้

“ศรีฯ” จ้องฟ้องปมแอดมิต 100 วัน
นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เริ่มร่างคำฟ้องเพื่อยื่นฟ้องกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และ รพ.ตำรวจ ต่อศาลปกครอง ฐานกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือโดยไม่สุจริต หรือมีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หรือเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ กรณีอนุญาตให้ นช.ทักษิณไปนอนรักษาตัวนอกเรือนจำในโรงพยาบาลตำรวจมานานกว่า 100 วัน โดยไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 นายศรีสุวรรณกล่าวว่า กรมราชทัณฑ์รับนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องคำพิพากษาในคดีอาญามาอยู่ในความควบคุมของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครไว้เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2566 ต่อมาอ้างว่าป่วยฉุกเฉินต้องส่งตัวออกไปรักษา ณ โรงพยาบาลตำรวจในคืนดังกล่าว เป็นที่สงสัยเคลือบแคลงของสังคมไทยและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ทั้ง พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ 2560 มาตรา 55 กำหนดชัดเจนว่า กรณีอนุญาตให้ผู้ต้องขังป่วยไปรักษาตัวนอกเรือนจำต้องมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตหรือเป็นโรคติดต่อเท่านั้น แต่ตามคำแถลงของกรมราชทัณฑ์มิได้เข้าเงื่อนไขแต่อย่างใด และ นช.รายดังกล่าวรักษาตัวโดยไม่มีทีท่าว่าจะหายจากอาการป่วย แต่กลับมีการปล่อยประเด็น ปล่อยภาพ สร้างเหตุการณ์เพื่อสร้างน้ำหนักเหตุผลเพื่อให้พักรักษาตัวต่อ เป็นข้อพิรุธที่สังคมจับได้ ต้องไปพิสูจน์กันในชั้นศาลเท่านั้นจึงจะเป็นที่ยุติ
มท.1 สดุดีวันดำรงราชานุภาพ
ช่วงเช้าที่หน้าศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในวันดำรงราชานุภาพ ประจำปี 2566 ก่อนนำคณะผู้บริหารระดับสูงและสมาคมแม่บ้านมหาดไทยประกอบพิธีสงฆ์ เพื่อบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตลอดจนผู้มีพระคุณและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทยที่ล่วงลับไปแล้ว ที่ห้องประชุมราชสีห์ จากนั้นเป็นประธานมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณโครงการนายอำเภอแหวนเพชรและโครงการปลัดอำเภอแหวนทองคำ ประจำปี 2566 เพื่อเป็นการเสริมสร้างขวัญกำลังใจและเชิดชูเกียรตินายอำเภอและปลัดอำเภอที่ได้เสียสละปฏิบัติหน้าที่ต่อประชาชนและประเทศชาติรวม 18 ราย
ส่งข้อความร่วมยินดีกับ “ลุงตู่”
นายอนุทินให้สัมภาษณ์กรณีมีพระบรมราช โองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ เป็นองคมนตรีว่า ยินดีกับท่านด้วย เพราะเคยทำงานด้วยกันมาก่อนในฐานะร่วมรัฐบาลเดียวกัน ได้ส่งข้อความไปยินดีกับท่านแล้ว และท่านตอบกลับมาว่า ขอบคุณและให้ช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อท่าน

“ป๊อก” แซวเอฟซี “ทักษิณ” ใบ้กิน
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความผ่าน X ว่า หลังรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทย และนายทักษิณ ชินวัตรนายกฯ จำนวนมาก พุ่งเป้าการวิจารณ์ไปที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ในเวลานั้น ต่อมาวิจารณ์ไปที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ที่พ้นจากตำแหน่ง เพื่อดำรงตำแหน่งนายกฯ หลังรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 และกลับไปเป็นองคมนตรีอีกครั้งหลังจากพ้นตำแหน่งนายกฯ หลังรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 พุ่งเป้าถล่มไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐประหาร ต่อมาเป็นนายกฯ และวันนี้ได้เป็นองคมนตรี ปัญหาที่ชวนให้ขบคิด คือ ตกลงแล้ว เราวิจารณ์องคมนตรีเพราะเหตุใด ยืนอยู่บนหลักการว่า องค์กรแบบองคมนตรีไม่สอดคล้องกับประชาธิปไตยแบบ Constitutional Monarchy หรือสถานะความเป็นกลางทางการเมืองขององคมนตรีหรือเพียงเพราะไม่ชอบองคมนตรีบางคนบางช่วงเวลา เมื่อผู้นำของตนประสานกันได้แล้ว กลับมาเป็นรัฐบาลได้แล้ว กลับมามีอำนาจได้แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร???
ยันเด้ง “สุริยา” ไม่เกี่ยวค้นห้างดัง
ด้านนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การโยกย้ายพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีเหตุมาจากไปเข้าตรวจหมูเถื่อนที่ห้างใหญ่ว่า ปัญหาหมูเถื่อนเกินมาตั้งแต่ปี 2563 ในรัฐบาลก่อนหน้านี้ ที่มีการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนเป็นหมื่นตู้คอนเทนเนอร์ วงเงินหลายหมื่นล้านบาท หลังจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหาร รับรู้ปัญหา เกษตรกรร้องเรียนว่า หมูราคาถูก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ปัญหาแต่ไม่มีความคืบหน้า เราได้เห็นภาพที่นายกฯต่อว่าสั่งการไปแล้วทำไมไม่ทำกับอธิบดีดีเอสไอ รัฐบาลต้องการให้การขับเคลื่อนงานมีประสิทธิภาพถึงคิดที่จะเปลี่ยนหัวหน้าหน่วยงานที่รับผิดชอบคือดีเอสไอ ให้คนใหม่มาทำงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ไม่เกี่ยวกับการเดินหน้าจับกุมที่ไหนอย่างไรตามที่มีการวิจารณ์กัน รัฐบาลไม่ได้มีผลประโยชน์กับการนำเข้าหมูเถื่อน แต่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูอย่างจริงจัง และขบวนการค้าหมูเถื่อนยังแอบแฝงนำเข้าเนื้อวัวด้วยจนผู้เลี้ยงวัวได้รับปัญหา รัฐบาลต้องจัดการอย่างเด็ดขาด ให้หน่วยงานทำงานอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ แต่คนที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลกลับไปเชื่อมโยงว่า การโยกย้ายเพราะไปตรวจห้างดัง เพียงหวังผลการเมืองทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง
เจ้าของ 41 ตู้หมูเถื่อนพบดีเอสไอ
ช่วงสายที่ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ห้องประชุมพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายบริบูรณ์ ลออปักษิณ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ บจก.ศิขัณทิน เทรดดิ้ง และบจก.สมายล์ ท็อป เค เอ็นเตอร์ไพรส์ ที่พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขอศาลออกหมายจับ เนื่องจากพบว่ามีส่วนกับการนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์หมูเถื่อนรวม 41 ตู้ ในคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษฐธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ดีเอสไอ ใช้เวลาสอบปากคำกว่า 2 ชั่วโมง ภายหลังให้ปากคำเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาในความผิดฐานนำของผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเกี่ยวกับของนั้นตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และนำเข้าส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์
โวย จนท.กลั่นแกล้งยัดตู้หมูเถื่อน
นายบริบูรณ์กล่าวหลังเข้าให้ปากคำว่า ยืนยันว่าทั้ง 2 บริษัทกระทำตามขั้นตอนถูกต้องทุกอย่าง ไม่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อน 161 ตู้ ทั้ง 41 ตู้ไม่ใช่เนื้อหมูเถื่อน แต่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐกลั่นแกล้ง ทำให้เนื้อหมูถูกอายัดตกเป็นของกลางในคดี ได้ร้องขอความเป็นธรรมไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีที่กรมปศุสัตว์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการออกใบอนุญาตนำสัตว์ หรือซากสัตว์ผ่านราชอาณาจักร 41 ตู้ ไปยังประเทศที่ 3 สำหรับการค้า แต่กรมปศุสัตว์เพิกเฉย ทำให้จำเป็นต้องยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง เรียกค่าเสียหายกว่า 243 ล้านบาท ได้ร้องขอความอนุเคราะห์ไปยังนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาพร้อมสู้คดี นายผดุงศักดิ์ เทียนไพโรจน์ ทนายความของนายบริบูรณ์กล่าวว่า ต้องนำเอกสารนำสินค้านำเข้าจากประเทศต้นทาง และเจตนานำออกจำหน่ายประเทศที่ 3 รวมถึงเอกสารเกี่ยวกับการสำแดงสินค้าว่าถูกต้องอย่างไร มาแสดงต่อพนักงานสอบสวนในครั้งหน้า เพื่อแสดงว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกระทำความผิดตามข้อกล่าวหา และขอบคุณดีเอสไอที่ให้เรามีพื้นที่ชี้แจงข้อเท็จจริง
แค่อายัดเอาไว้ยังไม่ได้ทำลายทิ้ง
พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวว่า วันนี้นายบริบูรณ์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา และให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาไว้ก่อน ต้องนำเอกสารเข้ามามอบภายใน 15 วัน ได้แก่ เอกสารคำฟ้องต่อศาลปกครองกลางเรื่องที่กรมปศุสัตว์เพิกเฉยในการออกใบอนุญาต เอกสารร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงเกษตรฯ และเอกสารที่จะส่งสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศ เป็นต้น เมื่อถามว่า หมู 41 ตู้ในจำนวนทั้งหมด 161 ตู้เป็นสินค้าของบริษัทนายบริบูรณ์ถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้ว ดีเอสไอดำเนินการถูกต้องหรือไม่ พ.ต.ต.ณฐพลตอบว่า 41 ตู้ของนายบริบูรณ์ยังไม่ผ่านเข้าสู่ขั้นตอนการเปิดตู้ แต่ถูกอายัดไว้ก่อน เพราะศุลกากรพบว่าเป็นของที่ตกค้างไว้ที่ท่าเรือ ต้องรอดูเอกสารที่จะนำมาแสดงก่อนว่านำเข้าและส่งออกถูกต้องหรือไม่ แต่ประเด็นหลักๆ ติดปัญหาเรื่องของการอนุญาตนำเข้าสินค้า
โลตัสไม่เกี่ยวมีแค่แม็คโครที่เอี่ยว
พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวด้วยว่า การเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายคดีหมูเถื่อนยังคงเดินหน้าต่อไป จะเริ่มปฏิบัติการในสัปดาห์หน้า มีการตรวจพบขบวนการกลุ่มใหม่ขนาดใหญ่ลักลอบนำเข้าหมูกว่า 10,000 ตู้ ส่วนกระแสข่าวที่ดีเอสไอจะเข้าตรวจค้นโลตัสนั้นขอยืนยันว่า คดีนี้โลตัสไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่เข้าตรวจค้นแต่อย่างใด มีเพียงแม็คโครเท่านั้น เพราะแม็คโครรับซื้อชิ้นส่วนสุกรแช่แข็งจากผู้ต้องหาของดีเอสไอ แม็คโครต้องนำส่งเอกสารต่างๆ ภายใน 1 เดือน คาดว่าจะเข้ามอบเอกสารในช่วงสัปดาห์หน้า
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่