“หมอวรงค์” เผยคำให้การที่ชี้แจงต่อ กกต. ปมถูกร้องล้มล้างการปกครอง สืบเนื่องกรณีราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ ยัน เป็นสิทธิและเสรีภาพที่แสดงออกได้

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก กรณีมีการร้องเรียนถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ล้มล้างการปกครอง โดยระบุถึงคำให้การต่อ กกต. ว่า เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566 มีการประชุมกรรมการบริหารพรรคไทยภักดี ตนเองได้แจ้งให้ที่ประชุมได้รับทราบว่าขอลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมกับยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง ตามข้อบังคับพรรค ข้อ 16 (2) ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคไทยภักดี มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ นายธนุ สุขบำเพิง เป็นรักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี จึงถือว่าไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคและไม่มีตำแหน่งในคณะกรรมบริหารพรรคไทยภักดี ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป ส่วนการเรียกว่าประธานพรรคไทยภักดี เป็นการเรียกให้เกียรติ และไม่มีอำนาจใดๆ ในการบริหารงานพรรค

นพ.วรงค์ เผยต่อไปว่า ตามที่มีการกล่าวหาคำแถลงการณ์ของตนเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2566 เป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 91 (1) และ (2) ขอให้การว่า ตามคำแถลงการณ์เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2566 เป็นการให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเรื่องระบอบการปกครองที่แท้จริงของประเทศไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 ซึ่งได้แบบอย่างมาจากประเทศอังกฤษ ที่เรียกระบอบการปกครองนี้ตามศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Constitutional monarchy แปลตรงตามศัพท์ว่า “ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ” มิใช่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่เป็นการแปลคำศัพท์โดยบิดเบือนหลอกลวงของคณะราษฎร 

...

ที่สำคัญ คณะราษฎรได้ดัดแปลงระบอบการปกครองนี้ด้วยการลิดรอนพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีตามระบอบการปกครองอันเป็นสากลในนานาอารยประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย และทรงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นการทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า ระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง ทั้งๆ ที่ตามรัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่ใช่ดั่งที่ประชาชนถูกอธิบายบิดเบือนว่า พระองค์อยู่เหนือการเมือง เป็นแค่พระประมุข แต่พระองค์นอกจากทรงเป็นประมุขแล้ว พระองค์ทรงมีพระราชอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ดังนั้น คำว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กับการปกครองระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเรื่องเดียวกัน เป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน มีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเหมือนกัน มาจากรากศัพท์เดียวกัน นั่นคือ Constitutional monarchy เพียงแต่สิ่งที่ต่างกันนั่นคือ คำว่าประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ถูกสอนมาให้เข้าใจผิดว่า พระองค์อยู่เหนือการเมือง ทั้งๆ ที่พระองค์มีพระราชอำนาจ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ชื่อที่เรียกที่ถูกต้องจึงควรเป็น ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ

“คำแถลงการณ์ของ นายวรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นหลักการความจริงอันเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน มิได้มีข้อความใดที่เป็นการสื่อแสดงถึงเจตนาที่จะล้มล้างการปกครองของประเทศแต่อย่างใด และนายวรงค์ เดชกิจวิกรม ได้ใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อแสดงความคิดเห็น ให้ประชาชนเข้าใจถึงสิ่งที่ถูกต้อง และโดยสาระก็มิได้ล้มล้างหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อระบบนี้ และพรรคไทยภักดีก็มิได้มีการดำเนินการใดๆ เพื่อล้มล้างหรือเป็นปฏิปักษ์ และคิดว่าเป็นสิทธิและเสรีภาพที่ นายวรงค์ เดชกิจวิกรม สามารถแสดงออกได้”